ทำไม..แอร์โฮสเตสต้องเป็น ผู้หญิง

สายการบินส่วนใหญ่ในโลกมักให้ผู้หญิงเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน หรือแอร์โฮสเตส บางสายการบินไม่มีพนักงานต้อน รับเป็นผู้ชายเลย  

เช่น สายการบินเจแปน แอร์ไลนส์ของญี่ปุ่น โคเรียนแอร์ของเกาหลี เนื่องจากอุปกรณ์ต่างๆ บนเครื่องบินมีน้ำหนักเบาและใช้งานได้สะดวกสบายโดยไม่ต้องใช้แรงผู้ชาย

ส่วนการบินไทยมีสัด ส่วนแอร์โฮสเตสประมาณร้อยละ 60 ส่วนพนักงานต้อนรับผู้ชาย หรือสจ๊วร์ด มีร้อยละ 40 ทั้งแอร์โฮสเตสและสจ๊วร์ดมีหน้าที่เหมือนกันคือต้อนรับและอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร ซึ่งความเป็นผู้หญิงทำให้ มีความอ่อนน้อมและนุ่มนวลเหมาะสำหรับงานภาค บริการ ขณะที่สัดส่วนผู้โดย สารเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง


สำหรับหน้าที่ที่ชัดเจนของสจ๊วร์ด คือ ต้องยกของใช้บนเครื่องบินที่มีน้ำหนักมาก เช่น เหล้าขวดใหญ่ กระเป๋า และยังมีข้อดีของการเป็นผู้ชายอีกอย่างหนึ่ง คือ เวลาผู้โดยสารเมามากก็จะให้สจ๊วร์ดเข้าไปพูดคุยด้วย แต่ตามปกติ แอร์โฮสเตสและสจ๊วร์ดจะแบ่งโซนกันเสิร์ฟเครื่องดื่มให้ผู้โดยสาร ดังนั้น จึงรู้ว่าผู้โดยสารคนไหนเริ่มเมาแล้วหรือดื่มมากเกินไป เมื่อผู้โดยสารขอเหล้าอีกก็จะให้ดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้มากๆ หรือผสมเหล้าบางๆ บางครั้งก็จะให้ผู้โดยสารเดินไปขอเหล้าเองในครัวเพื่อตรวจสอบว่ายังเดินไหวและครองสติได้อยู่หรือไม่


กรณีลวนลามบนเครื่องบินไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก ส่วนใหญ่เกิดจากผู้โดยสารเมา หรือผู้โดยสารที่มาจากตะวันออกกลาง หากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น พนักงานจะแจ้งผู้จัดการเที่ยวบินให้ทราบหรือแจ้งให้กัปตันทราบเพื่อให้แจ้งเจ้าหน้าที่ภาคพื้นติดต่อตำรวจมาดำเนินการต่อไปเมื่อเครื่องบินถึงภาคพื้นแล้ว


ส่วนความแตกต่างด้านร่างกายไม่เป็นปัญหาสำหรับการ ทำงานเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ความจริงแล้ว ผู้หญิง มีสุขภาพดีกว่าเพราะสุขนิสัยดีกว่า เช่น ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ซึ่งผู้ที่ทำอาชีพนี้ไม่ควรสูบบุหรี่เลย เพราะการสูบบุหรี่จะทำลายปอดและทำให้รับออกซิเจนได้น้อยลง ส่วนการมีประจำเดือนก็ไม่เป็นปัญหาเช่นกัน หากแอร์โฮสเตสคนไหนมีปัญหาปวดประจำเดือนก็จะรับประทานยาลดปวดก่อนทำงานและปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติ