(April’s Fool Day) หรือ วันโกหก

(April’s Fool Day) หรือ วันโกหก


วันเอพริล ฟูลส์ เดย์ (April’s Fool Day) หรือ วันโกหก มีเชื่อเรียกอื่นว่า วันเมษาหน้าโง่, วันโกหกเดือนเมษายน, วันเทศกาลคนโง่ เป็นเทศกาลในวันที่ 1 เมษายน วันนี้เป็นวันที่จะอนุญาตให้โกหกต่อกันได้ โดยไม่ถือโกรธ ในหน้าหนังสือพิมพ์ฉบับของวันนี้ อาจมีเหตุการณ์น่าตกใจ ตื่นเต้นเป็นหัวข้อข่าว แต่แล้วในวันรุ่งขึ้นต่อมาจึงได้เฉลยว่าข่าวที่ลงไปนั้นไม่เป็นความจริงแต่ อย่างใด 

ความเป็นมา
        ประเทศฝรั่งเศส ในยุคศตวรรษที่ 16 ตอนนั้นชาวฝรั่งเศสมีวันปีใหม่ตรงกับวันที่ 1 เมษายน กระทั่งมาถึง ค.ศ.1582 สันตะปาปาเกรกอรีที่ 13 จึงกำหนดให้ชาวคริสต์ทั่วโลกฉลองวันปีใหม่พร้อมกันวันที่ 1 มกราคม

        คราวนี้สมัยก่อน ข่าวสารไม่ได้กระจายรวดเร็วเหมือนสมัยนี้ คนบ้านนอกของฝรั่งเศสบางกลุ่มยังไม่รู้ แถมบางคนได้ยินแล้วก็ยังไม่เชื่อ เลยฉลองวันปีใหม่กันวันที่ 1 เมษายน เหมือนเดิม ทำให้พวกไม่ตกยุคเย้ยหยันพวกตกยุคว่า “หน้าโง่” แถมยังพยายามจะแกล้งหลอกคนกลุ่มนี้เพื่อความสนุกสนานอีกด้วย

 วิธีการเล่น
        วันที่ 1 เมษายน ก็กลายเป็นวัน April’s Fool Day เรื่อยมา และวันที่ 1 เมษายน ก็เลยกลายเป็นวันที่คนแกล้งหลอกกันด้วยการแต่งเรื่องอะไรก็ได้มาหลอกให้คนอื่นหลงเชื่อ จากนั้นค่อยเฉลยในตอนท้าย

        ซึ่งเรื่องที่เอามาหลอกนั้นจะต้องไม่ทำให้อีกฝ่ายถึงกับเลือดตกยางออก และคนที่ถูกหลอกจะต้องไม่โกรธด้วย เพราะถือว่าวันนี้เป็นวันพิเศษ ยกเว้นให้หนึ่งวัน


ขอบคุณข้อมูลจากคลังปัญญาไทย


(April’s Fool Day) หรือ วันโกหก


การโกหกเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะในโลกนี้ไม่มีใครเพอร์เฟกต์ 100% หรอก บางครั้งก็ต้องโกหกเพื่อรักษาหน้าตัวเอง หรือโกหกเพื่อรักษาน้ำใจ แล้วจะโกหกดีหรือเปล่าล่ะ ขอบอกเลยว่า การโกหกต้องอาศัยความเข้มแข็ง ฉลาดมีไหวพริบดี และเสี่ยง เพราะมันไม่ง่ายเลย พูดความจริงยังจะง่ายเสียกว่าอีก ก็เมื่อได้โกหกแล้วก็ต้องจำให้ได้ว่าพูดอะไรไปเมื่อไร และต้องเป็นเรื่องที่น่าเชื่อถืออีกด้วย เพราะถ้ามีคนมาถามบ่อยๆ แล้วตอบพลาดเขาจับได้แน่ คราวหน้าก็จะไม่มีใครไว้ใจคุณอีก ทั้งๆ ที่โกหกนิดเดียวหรือครั้งเดียวก็ทำให้กลายเป็นที่ไม่ไว้วางใจเสียแล้วน่ะซิ


โกหก เพื่อรักษาน้ำใจอาจจำเป็นต้องทำ แต่คนเราน่าจะเลือกได้ซิว่า ไม่ได้พูดโกหก แต่เป็นการพูดความจริงเพียงครึ่งเดียว บิดเบือนความจริงเล็กน้อย หรือพูดความจริงไม่หมดตะหากล่ะ แล้วถ้ามันมีความจำเป็นที่จะต้องโกหกละก็ ขอให้มันน้อยที่สุด หรือให้มันสมเหตุสมผล และที่สำคัญคุณต้องจำให้แม่นๆ ว่า โกหกไว้อย่างไรบ้าง ห้ามลืมเด็ดขาด มิฉะนั้นจะเกิดปัญหาบานปลายได้


สำหรับ หนุ่มๆ สาวๆ สมัยนี้พวกสวยหล่อเลือกได้เนี่ย ตัวดีนักเชียว พอสับรางไม่ทันก็ต้องโกหกเพื่อเอาตัวรอดว่างั้นเถอะ หากคุณเป็นหนึ่งในเหยื่อของพวกเขาละก็ ต้องคอยสังเกตสัญญาณประหลาดๆ เอาไว้ให้ดี เหตุการณ์ไหนดูแล้วไม่ค่อยสวยแล้วละก็ ถามไถ่กันเสียให้รู้เรื่อง ชัดเจนกันไปเลย อย่าได้คิดไปเองเชียว เดี๋ยวจะเลยเถิด


การโกหกที่แรงและเลวที่สุดก็คือ การหลอกลวง ไปจนถึงการทรยศหักหลัง แต่ด้วยความเป็นจริงแล้ว คนเราก็ควรจะบริสุทธิ์ใจต่อกัน โดยเฉพาะกับคนที่เรารัก เพราะถ้าเมื่อไรก็ตามที่ความจริงอื่นๆ ถูกเปิดเผย ไม่ว่าจะโกหกหรือไม่โกหก มันก็มีผลไม่ต่างกับการหลอกลวง ซึ่งมันอาจทำให้ความสัมพันธ์ร้าวฉานได้ในภายหลัง วัน "April Fool's Day" วันนี้ก็อย่าล้อเล่นกันรุนแรงนักก็แล้วกันนะคะ เล่นพอ "หนุก หนุก" ก็พอ เดี๋ยวแค่เรื่องเล็กๆ จะกลายเป็นเรื่องใหญ่เสียเปล่าๆ 


ขอบคุณบทความของคุณ ปู โลกเบี้ยว


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์