“จัดฟันแฟชั่น” ความสวยงามที่ไม่คุ้มค่าเสี่ยง

ฟันและช่องปากเป็นประการสำคัญอย่างหนึ่งของร่างกาย การจัดฟันจึงควรทำเพื่อจุดประสงค์ที่ถูกต้องและอยู่ในความดูแลของทันตแพทย์ หากทำเพราะแฟชั่น โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย...ร่างกายอาจได้รับอันตราย ซึ่งไม่คุ้มค่ากันเลย


“จัดฟันแฟชั่น” ความสวยงามที่ไม่คุ้มค่าเสี่ยง



การจัดฟันแฟชั่น เป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่นที่ไม่มีจุดประสงค์ในการจัดเพื่อให้ฟันเข้ารูป แต่เป็นเพียงการจัดเพื่อความทันสมัย คล้ายการซื้อเครื่องประดับมาติดบนฟัน เพราะการจัดฟันมาตรฐานที่อยู่ในความดูแลของทันตแพทย์มีค่าใช้จ่ายสูง การจัดฟันแฟชั่นเพื่อเลียนแบบ จึงเป็นทางเลือกที่ง่ายและราคาถูก แต่ก็เต็มไปด้วยความเสี่ยงมากมาย 

      บทความนี้จะกล่าวถึงข้อแตกต่างของการจัดฟันตามแฟชั่น และการจัดฟันที่ถูกวิธีในรายละเอียดเบื้องต้น เพื่อให้ผู้อ่านรู้ถึงความเสี่ยงจากปัจจัยต่างๆ และเป็นการเตือนสติแก่ผู้ที่คิดจะไปทำว่า แม้เงินที่จ่ายไปกับการจัดฟันแฟชั่นจะไม่มาก แต่ความเสี่ยงของร่างกายที่ต้องแลกนั้นมากชนิดคาดไม่ถึง และไม่คุ้มค่ากันเลย

สาเหตุที่การจัดฟันแฟชั่นเป็นนิยม
      ผู้ที่นิยมจัดฟันมักเป็นเด็กวัยรุ่นหญิง เพราะเป็นวัยที่รักสวยรักงาม แฟชั่นเหล่านี้จึงมีอิทธิพลมากเป็นพิเศษ อีกทั้งแรงจูงใจจากเพื่อนที่ชักชวนไปทำ และค่านิยมที่สร้างขึ้นมาว่า คนจัดฟันมักสวยงาม และโดดเด่นกว่าคนอื่นซึ่งการจัดฟันที่ถูกต้อง มีมาตรฐานและอยู่ในความดูแลของทันตแพทย์มีค่าใช้จ่ายสูง เด็กวัยรุ่นหลายคนไม่มีเงินมากพอ แม้ฟันจะไม่มีรูปทรงผิดปกติแต่ก็อยากจัดฟันเหมือนเพื่อน ความรู้สึกนี้จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่เด็กวัยรุ่นหลายคนเลือกจัดฟันแฟชั่นในราคาถูกแต่ไร้มาตรฐาน ทั้งในเรื่องของวิธีการ วัสดุที่ใช้และความสะอาดปลอดภัยจากเชื้อโรคจนนำมาซึ่งความเสี่ยงต่อร่างกายและชีวิต

ลวดจัดฟันแฟชั่นราคาถูกทุกชนิดล้วนไม่มีมาตรฐาน
      ลวดจัดฟันแฟชั่นจะเลียนแบบลวดจัดฟันของทันตแพทย์ แต่เรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของวัสดุนั้นอยู่ในเกณฑ์ต่ำมักวางขายตามตลาดชุมชนลักษณะที่พบเห็นส่วนมากคือเป็นลวดเส้นเล็กร้อยลูกปัดหลากสี ส่วนอีกชนิดที่นิยม เป็นลวดสำหรับติดแน่น ใช้ “แบร๊กเก็ต” ซึ่งมีลักษณะเป็นโลหะรูปสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก มีร่องสำหรับใส่ลวดพาดลงไป เพื่อติดแบร๊กเก็ตทั้งหมดบนผิวฟัน และมีส่วนที่ยื่นออกมาสำหรับคล้องยาง อีกชนิดคือลวดจัดฟันแบบถอดได้ มีลักษณะเหมือนเครื่องมือคงสภาพฟันของทันตแพทย์ (รีเทนเนอร์) มีแผ่นพลาสติกอยู่ที่เพดานหรือข้างลิ้น และมีลวดอยู่ด้านหน้าเพื่อเกาะฟัน 

      วัสดุที่ใช้ทำลวดจัดฟันแฟชั่นเหล่านี้ มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อขึ้นสนิมเพราะลวดที่ใช้เป็นลวดคุณภาพต่ำ ไม่มีความทนทาน และไม่ได้ถูกผลิตมาเพื่อให้อยู่ในช่องปากของคน ซึ่งมีทั้งน้ำลาย อาหาร และน้ำผ่านเข้าไปทุกวัน ที่สำคัญ ผู้ที่ติดเหล็กจัดฟันเหล่านี้ไม่ใช่ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

อันตรายจากการจัดฟันแฟชั่น

      อันตรายจากขั้นตอนการทำ เครื่องมือที่ใช้ในการจัดฟัน เช่น ถาดพิมพ์ฟัน ซึ่งใช้วัดขนาดของฟันและช่องปาก ผู้ทำหลายรายใช้แล้วไม่ล้าง หรือล้างแต่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างถูกวิธี โอกาสติดเชื้อจากน้ำลายของผู้ใช้บริการคนก่อนหน้าจึงมีสูงมาก และหากผู้ทำไม่สวมถุงมือ ยิ่งทำให้เสี่ยงต่อการติดโรคมากขึ้นไปอีก 

      อันตรายจากวัสดุ ลวดจัดฟันแฟชั่นมีราคาถูก เพราะเป็นลวดคนละชนิดกับลวด ที่ทันตแพทย์ใช้มักมีสารปนเปื้อนที่เป็นโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว พลวง ซิลิเนียม โครเมียม และสารหนู หากสะสมในร่างกายอาจเกิดอันตรายต่อเนื้อเยื่อ เซลล์อาจตาย และทำให้เกิดมะเร็ง รวมทั้งมีผลกระทบต่อระบบการทำงานของไต โดยเฉพาะการใช้ลวดที่มีสี หากใส่ในปากไว้สักระยะ เมื่อมีการรับประทานอาหารทั้งของเย็นของร้อนจะทำให้สีนั้นจางและซึมซับเข้าสู่ร่างกาย กลายเป็นสารพิษสะสม 

     อันตรายต่อฟันและเนื้อเยื่อในช่องปาก ในขั้นตอนการทำจะมีการใช้หัวกรอฟัน ซึ่งทำให้เคลือบฟันที่ดีหลุดออกไป ผู้ทำบางรายใช้กรดกัดฟันทำให้เคลือบฟันบางลงก่อให้เกิดอาการเสียวฟันได้ง่าย การปรับแต่งลวดอาจทำให้ฟันเคลื่อนที่ไปจากเดิม ฟันที่ดีอยู่แล้วอาจผิดรูปทรงจนเกิดอาการปวดฟันและยิ่งไปกว่านั้นฟันที่ถูกลวดดึงแบบผิดวิธีอาจกลายเป็นฟันตายรากฟันละลายจนต้องถอนทิ้ง นอกจากนี้เครื่องมือในการติดลวดจัดฟันแฟชั่นอาจบาดกระพุ้งแก้มหรือเนื้อเยื่อในช่องปาก กลายเป็นแผลที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อและมะเร็งเนื้อเยื่อในช่องปาก อีกทั้งลวดที่ติดบนผิวฟันแบบผิดวิธีนั้นยังไปขัดขวางการแปรงฟันที่ถูกสุขลักษณะ ทำให้ฟันผุ เหงือกอักเสบ และมีกลิ่นปากรุนแรง

ควรอยู่ในความดูแลของทันตแพทย์
      จุดประสงค์ของการจัดฟันที่ถูกต้อง คือการจัดเพื่อให้ฟันเข้ารูปและเรียงตัวสวยงาม ผู้ที่จัดฟันมักมีลักษณะของฟันที่ห่าง ฟันเก ฟันซ้อน ฟันเรียงตัวไม่เป็นระเบียบหรือยื่นออกมา ด้วยสาเหตุที่แตกต่างกันตามสภาพของร่างกาย ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการจัดและการดูแลรักษามากเป็นพิเศษเพราะลวดที่ติดบนผิวฟัน อาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคหากไม่ดูแลรักษาความสะอาด

      ลวดจัดฟันที่ทันตแพทย์เลือกใช้มีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการของทันตแพทย์ว่า ต้องการใช้แรงดัดจากลวดมากน้อยขนาดไหน ตัวอย่างวัสดุที่ใช้เป็นลวดจัดฟันก็คือ เหล็กกล้าไร้สนิม (สเตนเลส) เกรด 304 และ 304v ให้ความแข็งแรง ทนการกัดกร่อนและการเสียดสีในช่องปาก ลวดนิกเกิล-ไททาเนียม ให้แรงคงที่และโค้งงอได้ดี มีความยืดหยุ่นสูงแต่คงไว้ซึ่งความแข็งแรง และ ลวดเบต้า- ไททาเนียม ให้แรงดึงได้มากกว่าลวดนิกเกิล-ไททาเนียมถึง 42% แต่มีค่าความแกร่งที่ลดลง

      ลวดจัดฟันมาตรฐาน มีทั้งแบบถอดได้และแบบติดแน่น แบบถอดได้จะมีพลาสติกและลวดสำหรับยึดฟัน มักใช้อยู่ในวงจำกัดเพื่อเคลื่อนฟันบางซี่ ลวดจัดฟันที่ถอดได้หรือรีเทนเนอร์ (Retainer) ใช้เพื่อคงตำแหน่งของฟันหลังการจัดฟัน จนกว่าเหงือกและฟันจะปรับสภาพกับตำแหน่งใหม่ ส่วนลวดจัดฟันชนิดติดแน่นประกอบด้วยแบร็กเก็ต (Bracket) สำหรับฟันหน้าหรือท่อ (Tube) สำหรับฟันหลังใช้ติดบน ผิวฟันในส่วนฟันหลังอาจใช้แบนด์ (Band) ซึ่งมีท่อบัดกรีสวมบนฟัน เพื่อไม่ให้ท่อหลุดจากผิวฟันง่าย ส่วนฟันที่อยู่ชิดกันต้องใช้ยางแยกฟันดันให้หลวมขึ้นเล็กน้อยก่อนใส่แบนด์

      หากฟันของเราอยู่ในสภาพปกติและเรียงตัวอย่างสวยงามแล้วการจัดฟันคงไม่ใช่สิ่งจำเป็นเพราะนอกจากค่าใช้จ่ายที่สูง การดูแลรักษาก็มากเป็นพิเศษ หากจำเป็นต้องจัดฟัน ควรเลือกจัดกับทันตแพทย์และคลินิกที่น่าเชื่อถือเท่านั้น เพราะฟันและช่องปากของเรามีความเปราะบาง การใช้วัสดุแปลกปลอมในการดูแลรักษาหรือเพื่อแฟชั่น จึงเป็นความเสี่ยงที่ไม่คุ้มค่ากันเลย


ขอบคุณข้อมูลจาก : kbeautifullife

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์