การเรียนรู้จากธรรมชาติ

การเรียนรู้จากธรรมชาติ

          ในการจัดการเรียนการสอนนั้นมีหลากหลายรูปแบบด้วยกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับครูผู้สอนและผู้บริหาร  ผู้ปกครองของเด็ก แต่วิธีการสอนนั้นจะมีด้วยกันหลายวิธีด้วยกันและจะมีวิธีการจัดการเรียนการสอนนอกห้องเรียน ซึ่งวิธีนี้ไม่คอยมีครูที่ให้ความสนใจหรือถูกมองข้ามก็มี

 
          ก่อนอื่นเรามารู้จัก ความหมายของวิธีการสอนแบบนอกห้องเรียน เป็นวิธีสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เปิดโอกาสให้ผู้เรียน เรียนโดยอาศัยประสบการณ์ตรง และส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมโดยเน้นให้เด็กเรียนรู้จากการลงมือกระทำมีลักษณะการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น เป็นการพัฒนาผู้เรียนทั้งด้านความรู้ เจตคติ  และทักษะต่าง ๆ

          วิธีสอนแบบนอกห้องเรียนนั้นฝึกการใช้ประสบการณ์ทั้ง 5  คือ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส รวมทั้งมีเรื่องของจิตเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย วิธีสอนแบบนี้ใช้ได้ในทุกระดับตั้งแต่ อนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษาและอุดมศึกษา และสามารถใช้ได้ในทุกวิชาโดยพาเด็กออกไปทำกิจกรรมนอกห้องเรียน ซึ่งอาจเป็นสนามหญ้า ลานหินในบริเวณโรงเรียน หรืออาจพาเด็กไปที่แหล่งความรู้ต่าง ๆ  ในชุมชน เช่นวัด พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุด ศาลากลาง ร้านขายของ ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม สวนสาธารณะ เป็นต้น

          นอกจากนี้อาจเชิญวิทยากร หรือภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น นายอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัด หมอ ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ มาให้ความรู้และประสบการณ์แก่นักเรียนที่โรงเรียนได้

         ความมุ่งหมายของวิธีสอนแบบนอกห้องเรียน

1. เพื่อให้เด็กได้สัมผัสกับธรรมชาติที่อยู่รอบตัว


2. เพื่อให้เด็กเกิดความรักและหวงแหนในธรรมชาติ


3. เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้โดยใช้ประสบการณ์ตรง


4. เพื่อส่งเสริมการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์

        ข้อคำนึงในการจัดวิธีสอนแบบนอกห้องเรียน

1.  วิธีสอนแบบนอกห้องเรียนจะประสลผลดีถ้าได้รับความร่วมมือจากหลาย ๆ ฝ่าย เช่น ผู้บริหาร ครู ผู้ปกครอง และตัวนักเรียนเอง


2. การนำเด็กไปทำกิจกรรมนอกห้องเรียนนั้น ขนาดของกลุ่มไม่ควรใหญ่เกินไป ทำให้ดูแลลำบาก


3. ฝึกให้เด็กมีวินัยในการทำกิจกรรมนอกห้องเรียน

        ข้อดีและข้อจำกัดของวิธีสอนแบบนอกห้องเรียน

        ข้อดี

1. เด็กเกิดความรัก และหวงแหนในธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยให้การตัดไม้ทำลายป่าและการเกิดมลพิษต่าง ๆ น้องลง การตัดไม้ทำลายป่า หรือการทิ้งเศษขยะจะน้องลง


2. การเรียนรู้เกิดได้เร็วและจำได้นาน


3. เป็นการเรียนรู้ที่สนองความแตกต่างระหว่างบุคคล


4. ไม่สิ้นเปลืองสื่อการเรียนการสอน เพราะสื่อต่าง ๆ มีอยู่ในธรรมชาติรอบ ๆ ตัว

         ข้อจำกัด

1. การควบคุมชั้นเรียนจะทำได้ยาก


2. การนำเด็กไปทำกิจกรรมนอกห้องเรียนใช้เวลามาก


3. ผู้บริหารไม่เข้าใจและไม่ให้การสนับสนุนการเรียนนอกห้องเรียน

          ดังนั้นในจัดการและการพิจารณาให้มีการเรียนการสอนนอกห้องเรียนเป็นการใช้วิธีการสอนที่ดีและถูกต้องหรือไม่  ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องในการพิจารณาวิธีการเรียนการสอนแบบนอกห้องเรียนควรจะคำนึงถึงความต้องการของผู้เรียนเป็นความสำคัญ ไม่ใช่มองถึงความสะดวกของผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นหลักในการการเลือกตัดสินใจว่าการเรียนการสอนแบบวิธีนอกห้องเรียนเหมาะสมหรือไม่  เพราะฉะนั้นใคร่ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องและมีอำนาจในการตัดสินใจควรนึกถึงสิ่งที่เด็กจะได้มากกว่าสิ่งที่ท่านเองจะเสียไป

ขอบคุณที่มา  ::  คุณ khwanjai - sawaingam