เปิด‘ของนำเข้า’กู้วิกฤตสินค้าแพง-ขาดแคลน

เปิด‘ของนำเข้า’กู้วิกฤตสินค้าแพง-ขาดแคลน

ภัยพิบัติธรรมชาติ “อุกทกภัยครั้งใหญ่” ไม่เพียงสร้างความเสียหายร้ายแรงแก่ประชาชนหลายจังหวัดเท่านั้น

ยังส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิตสินค้าที่หดหายไปจากตลาด เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกทำการเกษตร และโรงงานผลิตเครื่องอุปโภค-บริโภคหลายแห่ง ถูกมวลน้ำไหลหลากเข้าท่วม อีกทั้ง เส้นทางคมนาคมโดนตัดขาด ไม่สามารถขนส่งได้ ขณะที่ความต้องการของประชาชนเพิ่มขึ้นจากปกติ 2-3 เท่าตัว กลายเป็นวิกฤติสินค้าขาดแคลน-ราคาแพง กระหน่ำซ้ำเติมความเดือดร้อนเข้าไปอีก

ล่าสุด มาตรการบรรเทาปัญหาช่วงที่ภาวะการค้าไม่เป็นปกติเช่นนี้

รัฐบาลได้สั่งให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนนำ เร่งนำเข้าสินค้าจำเป็นจากเพื่อนบ้านในอาเซียนมาจำหน่าย โดยระดมผู้ประกอบการห้างค้าปลีกสมัยใหม่ (โมเดิร์นเทรด) เจ้าใหญ่ เป็นตัวแทนนำเข้า ติดต่อประสานไปยังห้างสาขาในประเทศอาเซียน ทั้งนี้ แหล่งนำเข้าหลักเป็นกลุ่มอาเซียนที่มีความตกลงการค้าเสรี มีข้อตกลงลดภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกัน ภายใต้กรอบการค้าเสรีอาเซียน (อาฟต้า) 0% มาตั้งแต่ 1 ม.ค.2553 ประกอบด้วย กลุ่มอาหาร และเครื่องดื่ม เช่น น้ำดื่ม ปลากระป๋อง ไข่ นมข้นหวาน นมถั่วเหลือง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ผักสด กลุ่มของใช้ส่วนตัว เช่น ผ้าอนามัย กระดาษทิสชู สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน และกลุ่มของใช้เกี่ยวกับน้ำท่วม เช่น เครื่องกรองน้ำ และตู้กดน้ำ เป็นต้น คาดว่าจะถึงไทยวันที่ 1 พ.ย.เป็นต้นไป

เปิด‘ของนำเข้า’กู้วิกฤตสินค้าแพง-ขาดแคลน


โดยสินค้านำร่องอย่าง “ไข่ไก่” ได้นำเข้าจากมาเลเซียกว่า 3.2 ล้านฟอง ถึงไทยเมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา

ซึ่งหลังตรวจสอบคุณภาพแล้ว จะถูกกระจายไปตามสาขาต่าง ๆ ของห้างค้าปลีก และจุดขายของกรมการค้าภายใน เริ่มจำหน่ายวันพฤหัสบดีนี้ (3 พ.ย.) ฟองละ 3-4 บาท นอกจากนั้น กระทรวงพาณิชย์กำลังเร่งดึงสต็อก น้ำดื่ม” จากโรงงานในต่างจังหวัดเข้ามาจำหน่ายในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ผ่านห้างค้าปลีกต่าง ๆ โดยบางส่วนห้างค้าปลีกจะนำเข้าจากต่างประเทศ รวมกว่า 2 ล้านขวด และทยอยนำเข้าเฉลี่ยวันละ 1 ล้านขวด สำหรับ ข้าวถุงธงฟ้า 5 กก. จะวางตลาดได้สัปดาห์หน้า ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาราคา

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินและบริการ (กกร.) ได้อนุมัติรายการสินค้าควบคุมเพิ่มเติมอีก 16 รายการ ได้แก่ น้ำดื่ม กระดาษชำระ กระดาษเช็ดหน้า ไฟฉาย ถ่านไฟฉาย ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ทราย ทรายบรรจุถุง อิฐบล็อก เสื้อชูชีพ เรือพลาสติกขนาดเล็ก รองเท้าบู๊ตยาง เครื่องนอน ถังน้ำ เครื่องสูบน้ำ ผลิตภัณฑ์ยาป้องกันน้ำกัดเท้า และเทียนไข เพิ่มเติมจากรายการสินค้า และบริการ ควบคุมที่มีอยู่เดิม 41 รายการ รวมเป็น 57 รายการ เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา และกักตุนสินค้าจำเป็นที่เกี่ยวข้องกับภาวะน้ำท่วม โดยมีผลจนถึงสิ้นปี 2554

สำหรับราคาแนะนำสินค้า 9 รายการ มีดังนี้ น้ำดื่มบรรจุภาชนะปิดผนึก ขวดใส 600 ซีซี.ราคา 7 บาท 750 ซีซี.9 บาท 1,500 ซีซี.14 บาท ขวด (ขุ่น) 800 ซีซี.5 บาท ทรายบรรจุถุง 25 กก.ถุงละ 45 บาท อิฐบล็อกก้อนละ 10 บาท เสื้อชูชีพตัวละ 450 บาท เรือไฟเบอร์นั่ง 2 คน ลำละ 4,500 บาท เรือไฟเบอร์นั่ง 4 คน ลำละ 6,500 บาท รองเท้าบู๊ตยางคู่ละ 200 บาท ถังน้ำฝาปิด 22 แกลลอน/ถัง 350 บาท 40 แกลลอน/ถัง 600 บาท ยาแนวกันน้ำหลอดละ 90 บาท และเครื่องสูบน้ำขนาดท่อ 1 นิ้วครึ่ง 4,500 บาท

สินค้าควบคุมทั้งหมด ผู้ประกอบการต้องแจ้งปริมาณ ต้นทุน การจัดเก็บสต็อกสินค้า สถานที่จัดเก็บสินค้า ให้กรมการค้าภายในทราบ
 
ซึ่งภายหลังรวบรวมข้อมูล และกำหนดราคาแนะนำแล้ว หากไม่เป็นตามนั้น หรือ พบเห็นการฉวยโอกาสค้ากำไรเกินควร แจ้งที่กรมการค้าภายใน หรือ สายด่วน 1569 เพื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ และดำเนินการตามกฎหมาย มีโทษตาม พ.ร.บ.ราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 จำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ แต่อาจพิจารณายืดหยุ่นให้สินค้าที่มีต้นทุนขนส่งเพิ่มขึ้น หรือ ขนส่งสินค้ามายังพื้นที่ด้วยความยากลำบาก ราคาอาจสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่เกินราคาแนะนำที่กำหนดมากไป

มาตรการข้างต้นจะแก้ไขวิกฤติสินค้าขณะนี้ได้มากน้อยแค่ไหนคงต้องติดตาม ขณะเดียวกัน การกระจายสินค้า รวมถึงช่องทางจำหน่าย สามารถเข้าถึงประชาชนส่วนรวมเพียงพอหรือไม่ ถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะประชาชนพื้นที่ห่างไกล หรือ ยังรายล้อมด้วยมวลน้ำ มิเช่นนั้น ย่อมไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอย่างแท้จริง.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์