เล็บเหลือง ... ซ่อมได้

เล็บเหลือง ... ซ่อมได้



     เล็บที่มีสุขภาพดีควรจะเป็นเล็บที่ใส ขาวอมชมพู เรียบเสมอกัน ไม่มีรอยหยัก แต่การสูบบุหรี่หรือแม้แต่การทาเล็บจะทำให้สุขภาพเล็บเสียไป เล็บจึงเหลือง วิธีที่จะซ่อมเล็บให้กลับมาชมพูสวยเหมือนเดิมมี 2 วิธี

 
  
   1. นำไฮโดรเจนเพอร็อกไซด์ที่มีความเข้มข้น 3% 1 ช้อนโต๊ะ มาผสมกับเบกกิ้งโซดา 2.5 ช้อนโต๊ะ จากนั้นก็จุ่มเล็บลงไปทิ้งไว้ 3 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ถ้าสาวๆ ที่ชอบทาเล็บ ควรจะล้างเล็บและทำแบบนี้ทุกๆ 6-8 สัปดาห์


   2. ใส่น้ำลงในชาม จากนั้นบีบมะนาวตามลงไป เติมนมอุ่นลงไปเล็กน้อยแล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นก็แช่มือในส่วนผสมประมาณ 10-15 นาที วิธีนี้นอกจากจะทำให้เล็บหายเหลืองแล้ว ยังจะทำให้เล็บแข็งแรงขึ้นด้วย






วิธีแก้เล็บสีเหลือง



    ใครที่เคยชอบทาสีเล็บบ่อย ๆ เวลาล้างออกสีเล็บมักจะมีปัญหา เรื่องเล็บเหลืองบ่อย ๆ วันนี้เกร็ดความรู้มีวิธีแก้มาฝากกัน
วิธีแก้ง่าย ๆ คือ นำเปลือกมะนาว ที่บีบน้ำออกเรียบร้อยแล้ว มาถู ที่เล็บ และอย่าเพิ่งรีบล้าง ให้ทิ้งไว้สักพัก แล้วค่อยล้างออก ทำติดต่อกัน อย่างน้อย 1-2 อาทิตย์ ที่สำคัญ อย่าเพิ่งทาสีเล็บ ให้เล็บได้พักบ้าง



ใครที่พบปัญหาเล็บสีเหลือง ก็อย่าลืมนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติตามกันได้.





ทิปเพื่อเล็บสวยงาม



เรียวมือสวยน่าสัมผัสจะช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้ได้อย่างมาก นอกจากคุณต้องทำความสะอาดมือและเล็บแล้ว จึงควรเพิ่มสีสันให้เล็บอีกด้วย

1. เริ่มต้นด้วยการตัดเล็บก่อน สาวๆ ควรตัดเล็บให้มีความโค้งมนไปตามนิ้วมือ ไม่ควรตัดสั้นจนชิดเนื้อมากเกินไป และไม่ควรใช้วัสดุใดๆ แงะงัดขอบเล็บ จมูกเล็บ เพราะอาจเกิดบาดแผลและการอักเสบได้

2. ตัดเสร็จแล้วให้ล้างทำความสะอาดเล็บ ควรล้างมือและเล็บด้วยน้ำสบู่อุ่นๆ ใช้แปรงนุ่มๆ ขัดตามซอกเล็กเบาๆ และล้างออกด้วยน้ำสะอาด ชโลมด้วยครีมบำรุงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับมือและเล็บ

3. เลือกโทนสีที่ช่วยเสริมความงามเด้งของชุดที่คุณใส่ และที่สำคัญควรเป็นสีทาเล็บที่มีคุณภาพ และช่วยถนอมเล็บด้วย ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ทาเล็บชนิดแห้งเร็วที่มีส่วนผสมของ อะซิโตน (acetone) เพราะจะถึงความชุ่มชื้นไปจากเล็บของเรา ทำให้เล็บแห้งและลอกหลุดได้ง่าย

4. ก่อนทาเล็บควรลงน้ำยาเคลือบเล็บชนิดใสก่อน จะช่วยไม่ให้เล็บเสียความชุ่มชื่น และลดการสัมผัสกับสีทาเล็บโดยตรง ซึ่งอาจทำให้เล็บเหลืองได้ง่าย อีกทั้งยังช่วยให้ทาสีเล็บได้เรียบสวยขึ้น

5. ทาสีเล็บอย่างใจเย็น เพราะยิ่งรีบจะยิ่งช้า ทาเลอะขึ้นมาสักเล็บต้องมานั่งนับ 1 ใหม่ ไปเลทกันพอดี และควรทาสีทับกัน 2 ชั้นด้วย โดยรอให้ชั้นแรกแห้งสนิทดีเสียก่อน ค่อยทาชั้นที่ 2 ทับ

6. เสร็จแล้วก็เสริมความเปล่งประกายด้วย topcoat ทั้งนี้จะเป็นการช่วยให้สีเล็บติดทนนานขึ้นด้วยล่ะ

วิธีเลือกซื้อน้ำยาล้างเล็บ

ใครที่ชอบทาสีเล็บบ่อย ๆ แล้วมีปัญหาเรื่องน้ำยาล้างเล็บ ล้างแล้วทำให้เล็บแห้ง วันนี้เกร็ดความรู้มีวิธีการเลือกน้ำยาล้างเล็บมาฝาก....

เวลาเลือกซื้อน้ำยาล้างเล็บ วิธีง่าย ๆ คือ ตรวจดูว่ามีส่วนผสมของสารที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวเล็บหรือไม่


วิธีทดสอบ คือ  ให้ลองหยดน้ำยาล้างเล็บลงบนปลายนิ้วมือ ถูนิ้วไปมาจนแห้ง ทิ้งไว้สักพัก ถ้าหากนิ้วมือเปลี่ยนเป็นสีขาว แสดงว่าน้ำยานั้น อาจมีสารให้ความชุ่มชื้นน้อยเกินไป หรืออาจไม่มีเลย ถ้าเป็นอย่างนั้นก็บอกลาแล้วเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่นแทนได้เลย


ถ้าคิดจะซื้อยาล้างเล็บครั้งต่อไป อย่าลืมนำวิธีที่แนะนำไปทดสอบก่อนซื้อ แล้วจะได้น้ำยาล้างเล็บที่ทำให้เล็บไม่แห้ง.

10 วิธีดูแลมือ เท้า และเล็บ





      ถ้าพูดถึงแฟชั่นแล้ว ทุกส่วนในร่างกายของเราก็มีสิทธิที่จะอัพเดทแฟชั่นได้เท่า ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นผม ที่ต้องคอยตามเทรนด์สี ทรง หรือจะเป็นร่างกาย ที่มักถวิลหาเสื้อผ้าที่ทันสมัย แบบ สีที่ไม่เอาท์ เท้า ก็ยังต้องการรองเท้าแบบที่ใส่สบาย แต่ไม่ตกเทนด์ หรือแม้กระทั่งเล็บ ก็ยังต้องการการแต่งแต้มสีสัน เพื่อความสวยงาม

      และวันนี้เราก็มี
10 วิธีการดูแลมือ เท้า หลังจากที่ทำงานหนักมาตลอดทั้งวัน และเล็บ ที่ไม่ค่อยได้หายใจเมื่อคุณแต่งแต้มสีสันลงไป


     เริ่มต้น เราต้องทำความสะอาดมือ เท้า และเล็บ เสียก่อน โดยการใช้แปรงขนนุ่ม กับสบู่อ่อน ๆ ถูเบา ๆ บริเวณมือ เท้า และเล็บ อย่าลืมที่จะถูใต้เล็บด้วยละ เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นบริเวณที่มีเชื้อโรคเข้าไปสะสมอยุ่มากที่สุด หลังจากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำอุ่น

     ควรตัดเล็บมือเป็นประจำ สัปดาห์ละครั้ง ส่วนเล็บเท้า 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง ไม่ควรตัดเล็บจนชิดบริเวณผิวหนังส่วนปลายนิ้วเกินไปเพราะนอกจากจะเสี่ยงต่อการเป็นแผลแล้วยังทำให้พื้นที่หน้าเล็บสั้นลงได้ และถ้าตัดชิดขอบลึกลงไปเรื่อยๆ จะดูเหมือนเล็บของคนที่ชอบกัดเล็บซึ่งไม่สวยงาม สำหรับเล็บเท้าควรตัดในแนวตรงเป็นทรงเหลี่ยม ไม่ควรตัดเล็บลงซอกข้างเล็บมากเกินไปเพราะอาจทำให้เกิดเล็บขบได้

     รับประทานที่มีประโยชน์ตามหลักโภชนาการ เพราะเล็บก็เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่ต้องการสารอาหารเพื่อการเจริญเติบโตเหมือนกัน ส่วนสารอาหารที่เล็บต้องการ เช่น โปรตีน วิตามินเอ ซี และอี รวมถึงแร่ธาตุสังกะสีที่มีอยู่ในอาหารทะเลและเมล็ดธัญพืช

     นอกจากสารอาหารแล้ว การทาโลชั่นบำรุงผิวเป็นประจำทุกวัน ยังช่วยป้องกันผิวมือไม่ให้หยาบกระด้าง โดยเฉพาะหลังจากที่มือต้องสัมผัสกับสารเคมีต่าง ๆ เช่น ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน อีกวิธีหนึ่งที่เป็นการป้องกันก็คือ ในช่วงที่ต้องสัมผัสกับสารเคมีต่าง ๆ ก็ให้สวมถุงมือทุกครั้ง

    นวดนิ้วมือ และเท้าด้วยครีมบำรุงหรือน้ำมันบำรุงผิว ประมาณ 3-5 นาที เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณมือและเท้า ควรนวดบริเวณปลายนิ้วและเล็บด้วยเพื่อกระตุ้นการทำงานของต่อมสร้างเล็บที่อยู่บริเวณโคนเล็บ ถ้าไม่สะดวกระหว่างวันสามารถทำได้ในช่วงก่อนเข้านอนแล้วสวมถุงมือผ้าและถุงเท้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการซึมซาบสู่ใต้ผิวของน้ำมันหรือครีมบำรุง หรือจะใช้สครับสำหรับนวดเท้า เพื่อการไหลเวียนโลหิตที่ดีขึ้น ซึงปัจจุบัน สครับสำหรับมือและเท้าก็หาซื้อได้ง่าย และสามารถทำได้เองที่บ้าน เสียเวลาไม่นาน แต่รับรองว่าสบายผิวแน่นอน

    เนื่องจากธรรมชาติสร้างเล็บให้ออกมาในรูปแบบของแผ่นโปรตีนชนิดแข็ง และให้ทำหน้าที่ปกป้องปลายประสาทที่มีอยู่มากบริเวณปลายสุดของร่างกาย ไม่ให้ได้รับความกระทบกระเทือน อีกทั้งยังทำหน้าที่ช่วยในการหยิบจับ และแกะเกา ส่วนหน้าที่งัดแงะของแข็ง หรือว่าใช้เป็นไขควงในการหมุนนั่นหมุนนี่ ผิดวัตถุประสงค์นะคะ อาจจะทำให้เล็บฉีกได้

     สำหรับสาว ๆ ที่ชอบทาเล็บเป็นชีวิตจิตใจ เรียกว่าไม่ยอมให้เล็บได้หายใจเลยแล้วละก็ ฟังทางนี้ ควรทาน้ำยารองพื้นเล็บก่อนทาสี เพื่อป้องกันการเกิดสีที่ไม่พึงประสงค์หลังจากการทาเล็บได้ระยะหนึ่ง และควรทาน้ำยาเคลือบเงาเล็บเพื่อความวาวและติดทนนาน แต่ไม่ควรทาเล็บสีเข้มติดต่อกันนานๆ ควรสลับสีอ่อนบ้าง และควรหยุดพักการทาเล็บเมื่อเห็นว่าสภาพเล็บดูแห้งหรือเกิดสีผิดปกติ

     ในการเลือกซื้อน้ำยาทาเล็บ ควรคำนึงถึงการเลือกสีให้เหมาะสม ทั้งกับสีผิว โอกาสที่ใช้ สีเสื้อผ้า เครื่องสำอางและบุคลิกของตัวเอง

     ควรศึกษาอ่านฉลากของผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้ เช่น วันหมดอายุ หรือสังเกตสภาพของผลิตภัณฑ์ว่ายังมีคุณภาพดีหรือไม่ โดยทั่วไปอายุของเครื่องสำอางเล็บอยู่ที่ประมาณ 3 ปี หรือดูจากลักษณะการแยกตัวของสี หากหมดอายุแล้วไม่ควรใช้เด็ดขาด

     ในส่วนของเท้าก็ต้องการการดูแลเช่นกัน การเลือกรองเท้าให้เหมาะกับรูปร่างเท้าของเรา ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยรักษาเท้าให้มีสุขภาพดี ซึ่งในการเลือกซื้อรองเท้านั้น เราควรเลือกรองเท้าที่สวมใส่พอดี ไม่คับ หรือหลวมจนเกินไป เพราะการเสียดสีในขณะที่เดินนานๆ จะทำให้ผิวเท้าเกิดหนังที่แข็งด้าน และการใส่รองเท้าที่คับเกินไปบริเวณปลายเท้าอาจเป็นสาเหตุให้เกิดเล็บขบ เวลาที่เหมาะสมในการเลือกซื้อรองเท้าคือช่วงกลางวันที่เท้าได้เดินจนขยายตัวแล้ว

     และหลังจากที่ใส่รองเท้าส้นสูงมาตลอดทั้งวัน หลังเลิกงาน ลองแช่เท้าในน้ำอุ่นสัก 10-15 นาที จะช่วยผ่อนคลายอาการเมื่อล้าที่เท้าได้ค่ะ

     และนี่ก็คือ 10 วิธีการดูแลมือ เท้า และเล็บของคุณ ให้ดูมีสุขภาพดีอยู่ตลอดเวลา . . .





รักษ์เท้า ถนอมเล็บเท้า เมื่อเป็นเบาหวาน





  
      โรคแทรกซ้อนที่เกิดจากเบาหวาน เป็นอาการที่มักเกิดกับผู้ที่เป็นเบาหวาน แต่ไม่ค่อยสนใจในการดูแลตัวเองเท่าที่ควร เช่น อาจปล่อยให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น รับประทานอาหารเค็มและรสจัด ขาดการออกกำลังกาย หรือปล่อยให้ตัวเองอ้วน เครียด มีบาดแผล ซึ่งที่กล่าวมามักก่อให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมา โดยเฉพาะเท้า ซึ่งเป็นอวัยวะที่ถูกใช้งานอย่างหนัก แต่มักถูกมองข้าม และไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่สมกับการใช้งาน

เรามาดูกันดีกว่าว่า หากละเลยจะเกิดผลร้ายแรงอย่างไรกับเท้า

โรคแทรกซ้อนที่เท้า เกิดจากเส้นประสาทส่วนปลายเสื่อม ผู้เป็นเบาหวานอาจมีอาการปวดตามเส้นประสาทต่างๆ โดยเฉพาะที่แขนและขา หรืออาจจะสูญเสียประสาทรับความรู้สึก ส่งผลให้ผู้เป็นเบาหวานมีผิวเท้าบาง เท้าชา อ่อนแรง และผิดรูป เกิดเป็นแผลเรื้อรังที่เท้าได้ง่าย และผลของอาการชาที่เท้านี่เอง กว่าจะรู้ว่าเป็นแผลก็ต่อเมื่อเชื้อลุกลามจนแผลมีเนื้อตาย เน่า ซึ่งบ่อยครั้งรุนแรงถึงขั้นถูกตัดเท้าหรือขา

จากรายงานขององค์การอนามัยโลกพบว่า การถูกตัดเท้าหรือขาในผู้เป็นเบาหวานนั้น สามารถป้องกันได้โดยอาศัยความร่วมมือของผู้ป่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ร่วมกับการดูแลของทีมแพทย์และพยาบาลในการตรวจรักษา และให้ความรู้แก่ผู้ป่วยอย่างถูกต้องเหมาะสม

10 ข้อ ถนอมเท้า

1. พยายามควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในภาวะปรกติ (ต่ำกว่า 126 มก. / ดล.)
2. หมั่นทำความสะอาดเท้าทุกวัน และเช็ดเท้าให้แห้งทันที เพราะถ้าปล่อยให้เท้าแห้งเองผิวส่วนเท้ามักแห้งช้ากว่าปกติ ซึ่งผิวแห้งเป็นผิวที่ไม่แข็งแรง อาจเกิดแผลได้ง่าย
3. สำรวจเท้าอย่างละเอียดทุกวัน โดยเฉพาะบริเวณซอกระหว่างนิ้วเท้า
4. หากผิวเท้าแห้งควรทาครีมบาง ๆ แต่ไม่ควรทาโดยตรงบริเวณซอกระหว่างนิ้วเท้า เพราะซอกระหว่างนิ้วเท้าเป็นจุดอับชื้น อาจเกิดเชื้อราได้ง่าย
5. หากต้องใช้น้ำอุ่นทำความสะอาดเท้า ควรใช้ข้อศอกตรวจวัดระดับอุณหภูมิก่อน เพราะผู้เป็นเบาหวานมักรับรู้ความรู้สึกบริเวณข้อศอกได้ดีกว่าบริเวณเท้า ที่สำคัญยังลดโอกาสที่จะถูกน้ำร้อนลวกอีกด้วย

6. หากมีอาการเท้าเย็นเวลากลางคืน ควรสวมถุงเท้าเท่านั้น ห้ามใช้กระเป๋าน้ำร้อนหรือแช่เท้าในน้ำร้อนเป็นอันขาด เพราะผู้ป่วยมีโอกาสโดนน้ำร้อนลวกโดยไม่รู้ตัว
7. เลือกรองเท้าที่เหมาะสมกับรูปเท้า ไม่คับไม่หลวมจนเกินไป
8. ตรวจดูรองเท้าทั้งภายในและภายนอกก่อนใส่ทุกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งแปลกปลอมหรือวัตถุมีคมที่ทำให้เกิดแผลที่เท้า
9. หากมีปัญหาเรื่องสายตา ควรให้ญาติหรือผู้ใกล้ชิดช่วยตรวจเท้าและรองเท้าให้ทุกวัน
10. อย่าลืมนัดสำคัญกับแพทย์ และหากพบอาการผิดปกติแม้เพียงเล็กน้อย ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยทันที

โรคแทรกซ้อนที่เล็บ เป็นอีกส่วนหนึ่งของร่างกายที่ได้รับผลกระทบจากโรคเบาหวานเช่นกัน เพราะเล็บของผู้เป็นเบาหวานจะมีอัตราการงอกที่รวดเร็วกว่าคนปกติประมาณ 0.1 0.2 มิลลิเมตรต่อวัน จึงทำให้ผู้ป่วยต้องตัดเล็บบ่อยกว่าเคย

คงสงสัยใช่มั้ยว่า การตัดเล็บจะส่งผลร้ายอย่างไร ?

นั่นเพราะผู้เป็นเบาหวานส่วนใหญ่ มักจะเป็นผู้สูงอายุและมีภาวะแทรกซ้อนที่จอประสาทตา สายตามัวลง บางรายนิ้วเกและเท้าผิดรูป เนื่องจากปลายประสาทที่เท้าเสื่อม ส่งผลให้ขาดความแม่นยำในการตัดเล็บและมีความเสี่ยงที่จะเกิดแผล ดังนั้นผู้ป่วยกลุ่มนี้จึงไม่ควรตัดเล็บเอง ควรจะมีญาติหรือพยาบาลช่วยดูแลให้

  สารพันปัญหาเล็บในผู้เป็นเบาหวาน

1. เล็บม้วน
ส่วนของมุมเล็บและด้านข้างของเล็บม้วนเข้าหากันจนเกือบโค้งเป็นรูปวงกลม ถ้าปล่อยไว้อาจทำให้เป็นอุปสรรคในการดูแล ทำความสะอาด และอาจเกิดเป็นแผล แก้ไขโดยการตัดเล็บในส่วนที่ม้วนออก และตัดให้เหมือนกับรูปร่างเล็บปกติมากที่สุด และควรสวมรองเท้าที่เหมาะสม ไม่บีบรัดจนเกินไป

2. เล็บขบ
ส่วนของมุมเล็บด้านล่างโค้งจิกลงบริเวณซอกเล็บและผิวหนังด้านข้าง ซึ่งเกิดจากการตัดเล็บไม่ถูกวิธี อาจทำให้ผิวหนังด้านข้างเล็บที่ขบ บวมแดงกดเจ็บได้ แก้ไขโดยการมาพบแพทย์เพื่อทำการตัดเล็บที่ขบออก ตัดเล็บอย่างถูกวิธีและใส่รองเท้าที่เหมาะสม

3. เชื้อราที่เล็บ
เล็บจะมีลักษณะหนา สีขาว/เหลือง มีรูพรุน แตกง่าย เนื่องจากเกิดการติดเชื้อราบริเวณฐานหรือตัวเล็บ ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรักษาเชื้อราให้หาย การป้องกันทำได้โดยหมั่นดูแลเท้าให้สะอาด ไม่อับชื้น

4. เล็บหนา
การหนาตัวผิดปกติของตัวเล็บ ส่งผลให้เล็บมีสีเหลืองหรือน้ำตาลเข้ม ซึ่งบางครั้งพบว่า มีการหนาตัวของเล็บมาก ๆ ทำให้ตัดเล็บยาก และเล็บที่หนาอาจไปดันซอกเล็บให้กว้างขึ้น ถ้าเล็บหนามากตัดเองไม่ได้ ควรไปพบแพทย์หรือพยาบาลให้ตัดเล็บให้


  7 ข้อห้ามที่ไม่ควรมองข้าม

1. ห้ามสูบบุหรี่ เพราะมีผลให้หลอดเลือดส่วนปลายตีบ การไหลเวียนโลหิตสู่ผิวหนังและปลายประสาทลดลง
2. ห้ามแช่เท้าในน้ำ เพราะการแช่เท้าในนํ้าทำให้ผิวแห้งยิ่งขึ้น โอกาสเกิดแผลก็ง่ายตามไปด้วย
3. ห้ามตัดเล็บลึกถึงจมูกเล็บ ควรตัดตามแนวของเล็บเท่านั้น เพื่อป้องกันปัญหาเล็บขบ
4. ห้ามตัดตาปลา หรือหนังด้านด้วยตนเอง
5. ห้ามใช้สารเคมีใด ๆ ลอกตาปลา
6. ใส่รองเท้าทุกครั้งที่เดิน และควรหลีกเลี่ยงการเดินเท้าเปล่าบริเวณพื้นผิวที่ร้อน เช่น หาดทราย หรือพื้นซีเมนต์
7. ห้ามใส่รองเท้าแตะแบบมีที่คีบระหว่างนิ้วเท้า เพราะผิวหนังบริเวณซอกนิ้วเท้าค่อนข้างอ่อนบาง มีโอกาสเกิดแผลได้ง่าย


ทราบอย่างนี้แล้ว ก็อย่าลืมดูแลเท้าของท่านนะคะ เพราะอวัยวะส่วนนี้แม้อยู่ล่างสุด แต่ความสำคัญเรียกได้ว่าอยู่ในอันดับต้น ๆ ของการใช้ชีวิตประจำวัน หากเริ่มถนอมเท้ากันตั้งแต่วันนี้ โดยปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด อวัยวะส่วนนี้ก็จะอยู่กับท่านไปอีกนาน และหากต้องการคำปรึกษา เรามีคลินิกดูแลสุขภาพเท้า ที่ตึกผู้ป่วยนอกเก่า ชั้น 1 วันศุกร์ เวลา 09.00 12.00 น. โทร. 0 2419 7504 และคลินิกสุขภาพเล็บ ที่หน่วยตรวจโรคผ่าตัดเล็กและชะแผล ตึกผู้ป่วยนอก ชั้น 2 วันพฤหัสบดีและวันศุกร์ เวลา 09.00 12.00 น. โทร.0 2419 7360, 0 2419 9221




มาดูแลเล็บเท้ากันเถอะ




      ยิ้มหวานเคยได้ยินมาล่ะค่ะ ว่าบางคนเมื่อแรกรู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ แล้ว เขาจะมองที่ "เท้า" เป็นอันดับแรก แหม!! ได้ยินแล้วก็อดไม่ได้ ต้องเหลือบไปมองเท้าใครต่อใครอย่างนั้นมั่ง...ว้ายๆ ไม่เอาดีกว่า แทนที่จะสนใจเท้าคนอื่น เรามาดูแลเท้าตัวเองกันเถอะค่ะคุณสาวๆ
       ถ้าคุณๆ ตัดเล็บเท้าด้วยกรรไกรตัดเล็บตลอด จะทำให้มีขุยขาวๆ ที่ข้างเล็บ ไม่ค่อยจะน่าดูเท่าไร ใช้วิธีตัดเล็บแค่พอประมาณ อย่าไปตัดแนวโค้งนะจ๊ะ เดี๋ยวเจอเล็บขบเข้าให้ ตะไบแต่งเสียหน่อย ถ้าแช่น้ำอุ่นก็จะทำให้ตัดหนังเท้าที่ตายแล้วออกได้ นวดน้ำมันมะกอกหรือเบบี้ออยล์ตบท้าย ก็เป็นอันเสร็จพิธีแล้วจ้า









เล็บเหลือง ... ซ่อมได้


เล็บเหลือง ... ซ่อมได้


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์