นพ.วิชัย สติมัย ผอ.สำนักงานโรคติดต่อโดยแมลง กรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวถึงสถานการณ์ของโรคไข้เลือดออกว่า ในปี 2555 พบผู้ป่วย 76,351 ราย และมีผู้เสียชีวิต 82 ราย น่าเป็นห่วง และเมื่อเข้าปี 2556 สถานการณ์น่าเป็นห่วงมากขึ้น เพราะเพียงวันที่ 1-14 ม.ค.2556 พบผู้ป่วยแล้ว 1,079 ราย แต่ยังไม่พบผู้เสียชีวิต โดยภาคที่พบผู้ป่วยสูงสุดคือภาคใต้ อาทิ จ.สงขลา จ.กระบี่ จ.พัทลุง จ.พังงา รองลงมาคือภาคกลาง โดยเฉพาะกรุงเทพฯ
นพ.วิชัยกล่าวว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ จากการคาดการณ์ของทางกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)
คาดการณ์ว่าในปี 2556 จะพบผู้ป่วยสูงถึงประมาณ 1-1.2 แสนราย และเสียชีวิตประมาณ 100 ราย เนื่องจากในขณะนี้เป็นช่วงฤดูหนาวไม่ใช่ฤดูฝนหรือฤดูที่จะพบการระบาดของโรคไข้เลือดออก แต่กลับพบรายงานตัวเลขผู้ป่วยแล้วกว่าพันราย ทั้งนี้สาเหตุที่พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกในช่วงฤดูหนาวนี้ มีสาเหตุมาจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ทำให้เกิดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดปัญหาการระบาดของโรคไข้เลือดออกเร็วกว่าปกติ สธ.ได้เตรียมมาตรการความพร้อมรับมือในเบื้องต้นด้วยการให้ความรู้และจะขอความร่วมมือ อสม. ช่วยกันตรวจสอบและดูแลประชาชน รวมถึงการจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ประชาชนเข้าใจ
นพ.วิชัยกล่าวต่อว่า อาการของโรคไข้เลือดออกสามารถสังเกตได้
คือ จะมีอาการที่ค่อนข้างเฉพาะ 4 ประการ คือ ไข้สูงลอย 2-7 วัน มีอาการเลือดออก ส่วนใหญ่จะพบที่ผิวหนัง ตับโต กดเจ็บ และมีภาวะการไหลเวียนโลหิตล้มเหลว/ภาวะช็อก ผู้ป่วยทุกรายจะมีอาการไข้สูงแบบเฉียบพลัน ส่วนใหญ่ไข้จะสูงเกิน 38.5 องศาเซลเซียส ไข้อาจสูงถึง 40-41 องศาเซลเซียส บางรายอาจถึงชักได้ ผู้ป่วยมักจะมีหน้าแดง ผิวหนังแดงบริเวณคอ หน้าอก และลำตัว เด็กบางคนอาจบ่นปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัวกับมีไข้สูง ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะไม่มีอาการน้ำมูกไหล หรือ ไอ เด็กโตอาจบ่นปวดศีรษะ ปวดรอบกระบอกตา เบื่ออาหาร อาเจียน บางรายอาจมีอาการปวดท้องร่วมด้วย ในรายที่อาการรุนแรงผู้ป่วยจะมีการช็อกได้
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
