พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บอกชัดๆให้ฟังว่าสิ่งที่จะขอความร่วมมือจากประชาชนในการเล่นสงกรานต์ในปีนี้มี 5 ข้อด้วยกันคือ
1.เมาไม่ขับ เพราะมีกฎหมายบังคับ และถือว่าอันตรายที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
2.อนาจาร แต่ไม่ใช่กรณีที่ห้ามขายแป้งเพื่อใช้เล่นน้ำ ในกรณีที่คนเล่นต้องการปะแป้งบุคคลอื่นสามารถทำได้ แต่หากไปปะแป้งคนที่ไม่ยินยอม รวมทั้งการปะแป้งในลักษณะอนาจารก็จะถือว่ามีความผิด
3.เล่นน้ำบนรถกระบะ ตำรวจขอความร่วมมือ ขอให้นั่งกับพื้นที่กระบะ อย่ายืนเกาะราวเพราะจะเกิดอันตราย รวมทั้งไม่ให้เล่นสาดน้ำบนทางหลวง อย่างไรก็ตามหากพบว่าสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุตำรวจก้ต้องดำเนินการ เพราะเรื่องนี้บังคับใช้เป็นกฎหมายอยู่แล้ว ไม่ใช่แต่เพียงเฉพาะเทศกาลสงกรานต์
4.การจำหน่ายสุรา พื้นที่ๆจัดไว้ให้เล่นน้ำทั่วประเทศก็ห้ามนำสุราเข้าไปจำหน่าย ส่วนในพื้นที่อื่นหากมีการจำหน่ายโดยไม่มีใบอนุญาตตำรวจก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
5.การเล่นน้ำรุนแรง เช่นปืนฉีดน้ำแรงดันสูง ตำรวจก็ขอความร่วมมือเช่นกัน เพราะจะทำให้เกิดอันตรายต่อคนทั่วไป
อย่างไรก็ตามหากลองเทียบเคียงข้อห้าม 11 ข้อที่มีการแชร์ผ่านเครือข่ายโซเชียลเน็ตเวิร์กกับความผิดตามกฎหมายที่บังคับใช้ก็จะพบว่ามีอยู่ 10 ข้อที่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย ซึ่งหากเจ้าหน้าที่พบ หรือ มีผู้แจ้งความเอาผิด เจ้าหน้าที่ก็สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้
1.ห้ามซื้อ และขายสินค้าบนไหล่ทาง
เข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 110 ห้ามมิให้ผู้ใดซื้อ ขาย แจกจ่าย หรือเรี่ยไรในทางเดินรถหรืออกไปกลางทางโดยไม่มีเหตุอันสมควรหรือเป็นการกีดขวางการจราจร
2.ห้ามเปิดเครื่องเสียงดังรบกวน
เข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 มาตรา 25 วงเล็บ 4
มาตรา25 ในกรณีที่มีเหตุอันอาจก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงหรือผู้ที่ต้องประสบกับเหตุนั้นดังต่อไปนี้ ให้ถือว่าเป็นเหตุรำคาญ
(4)การกระทำใด ๆ อันเป็นเหตุให้เกิดกลิ่น แสง รังสี เสียง ความร้อน สิ่งมีพิษ ความสั่นสะเทือน ฝุ่น ละออง เขม่า เถ้า หรือกรณีอื่นใด จนเป็นเหตุให้เสื่อมหรืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
นอกจากนี้อาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่น โดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่า ผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น
3.ห้ามให้รถกระบะบรรทุกถังน้ำสาดตามท้องถนน และ 4. ห้ามนั่งหรือยืนบนหลังกระบะเพื่อเล่นน้ำสงกรานต์
เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา20 “รถบรรทุก” หมายความว่า รถยนต์ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้บรรทุกสิ่งของหรือสัตว์
ทั้งนี้หากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจากการกระทำในข้อ 3 และ 4 จนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตก็จะเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา อาทิ มาตรา 291 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุ ให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกิน สองหมื่นบาท
5.ห้ามเล่นปืนฉีดน้ำแรงดันสูง
เข้าข่ายความผิดตาม คำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่1/2546 เรื่อง ห้ามขายสินค้าเครื่องเล่นฉีดน้ำที่มีลักษณะเป็นกระบอกสูบและใช้แรงอัดกระแทกน้ำในกระบอกสูบโดยตรง
6.ห้ามนำน้ำแข็งปาใส่กัน
เข้าข่ายมาตรา 420 ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่น โดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่า ผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น
7.ห้ามทำลามกอนาจารหญิงสาว
เข้าข่ายความผิดฐานกระทำการอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญา
8.ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่เล่นน้ำสาธารณะ
เข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มาตรา 27
9.ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถ
เข้าข่ายความผิดตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทาง พ.ศ. 2555
10.ห้ามเมาแล้วขับ
เข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.จราจรทางบก(ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2550