เมื่ออาหารเป็นพิษ

เมื่ออาหารเป็นพิษ


 อย่างที่รู้ๆกันว่า ในอาหารอุดมด้วยแบคทีเรีย และพยาธิมากมาย เพื่อไม่ให้ตัวเองตกเป็นเหยื่อของอาหารเป็นพิษ 

ทำไมโรคภัยเกี่ยวกับอาหารจึงมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น

อย่างหนึ่งก็คือ เราสั่งอาหารและทานอาหารตามร้านอาหารนอกบ้านบ่อยขึ้น ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า อาหารที่ปรุงในปริมาณมากๆ นั้นคุณค่าของอาหารก็ลดลงด้วย รวมทั้งในสภาพบีวิตที่วุ่นวายนี้ เราก็เพิ่มความเสี่ยงให้ชีวิตมากขึ้น ด้วยการที่ไม่ยอมเสียเวลากับการถนอมอาหารหรือไม่ยอมอุ่นอาหารที่เหลือก่อนกิน รายงานเมื่อเร็วๆนี้ แจ้งให้ทราบว่า แมลงหรือหนอนที่เกิดในอาหารนั้นมีมากขึ้น แข็งแรงขึ้น และเต็มไปด้วยเชื้อแบคทีเรียชนิดใหม่ๆ รวมกับแบคทีเรียตัวร้านขาประจำเจ้าเก่า คือ แคมพลีแบคเตอร์ อีโคลี และแซลโมนิลลา หรือพยาธิชนิดอื่นๆ เช่น ตริคินิลลา 

จะรู้ได้อย่างไรว่าอาหารเป็นพิษต่อคุณ
 
 อาหารเป็นเพิษนั้นจะแสดงอาการเมื่อไรก็ได้ จากช่วง 30 วินาทีหลังทานจนถึงสองสัปดาห์ การทานอาหารที่เสียแล้ว จึงยากต่อการวินิจฉัยโรคให้ถูกต้อง วิธีที่จะบอกได้ว่าคุณถูกเล่นงาน คือ อาจมีอาการปวดหัวและมีไข้ อาการคลื่นเหียนอาเจียน ท้องเสีย และอาจมีตะคริวที่ช่องท้อง แต่อาการเหล่านี้จะไม่เกิดควบคู่กับอาการไอหรือจาม ซึ่งเป็นอาการของไข้หวัด หรืออาการที่เกี่ยวเนื่องกับระหายใจ 

อาหารถูกทำลาย

 อาหารที่คุณซื้อทุกประเภทนั้นมีศักยกภาพในการแพร่เพาะเชื้อร้ายแรงได้ "แต่จะเป็นได้ก็ต่อเมื่ออาหารเหล่านั้นไม่ได้รับการเตรียม หรือการจัดปรุงที่ถูกวิธี และกลายมาเป็นมหันตภัยอย่างร้ายแร" ไม่ว่าจะเป็นคนแล่เนื้อ คนปรุงอาหาร หรือแม้แต่คนเสิร์ฟอาหาร ก็สามารถทำให้อาหารเสียได้ หากว่าเก็บอาหารดังกล่าวไว้ในตู้เย็นที่ไม่เย็นพอ หรือปรุงอาหารในความร้อนที่ต่ำเกินไป หรือแม้แต่การจับต้องอาหารด้วยมือหรือด้วยช้อนส้อมที่ไม่สะอาด 

อาหารที่ทำให้คุณทุกข์ทรมานได้
 

               - ไก่และอาหารจำพวกเนื้อ 20 เปอร์เซ็นต์ของไก่ เนื้อ และหมู ที่ขายในซูเปอร์มาร์เก็ต เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแซลโมนิลลา วิธีซึ่งอาจป้องกันได้ก็คือ เมื่อกินอาหารที่ร้านอาหาร คุณต้องสั่งให้แน่ใจว่าปรุงอาหารประเภทเนื้อให้สุก หรืออย่างน้อยต้องใช้ความร้อน 16 องศาฟาเรนไฮต์) ซึ่งจะสามารถฆ่าแบคทีเรียได้
               - อาหารทะเล ไม่สดอย่าซื้อ หลีกเลี่ยงอาหารประเภทปลาดิบๆ ยกเว้นว่าคุณไปกินภัตตาคารที่มีชื่อเสียงไว้ใจได้ นั้นก็รวมถึงอาหารทะเลประเภทหอยๆ
               - น้ำผลไม้คั้นสด น้ำผักหรือผลไม้ที่คั้นสดๆ ไม่ได้ผ่านวิธีการพาสเจอร์ไรซ์ ถือว่าเป็นเสี่ยงด้วย ควรถามว่าน้ำนี้คั้นหรือปั่นนานเท่าไรแล้ว หรือถ้าจะให้ปลอดภัยจริงต้องให้ปั่นกันสดๆ ต่อหน้าเลย แทนที่จะซื้อจากแก้วหรือขวดที่ปั่นไว้เรียบร้อยแล้ว<br>
               -ไข่ดิบหรือไข่ที่ปรุงไม่ค่อยสุก วิธีที่ปลอดภัยที่สุดในการกินไข่ก็คือ กินไข่แดงและไข่ขาวที่แข็งด้วยความร้อน หลีกเลี่ยงอาหารที่มีส่วนผสมของไข่ดิบ

           วิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงแมลง
 

อย่าอายที่จะปฏิเสธอาหารที่มีกลิ่น หรือรสชาติประหลาด หรือว่าอาหารที่ไม่ได้ปรุงตามที่คุณสั่ง
               - สลัดบาร์ ควรเช็ดความสะอาดและอุณหภูมิของสลัดบาร์ ดังนั้นต้องแน่ใจว่า อาหารนั้นร้อนพอและอาหารเย็นได้รับความเย็นเพียงพอ อาหารร้อนและอาหารเย็น ควรเก็บไว้แยกจากกันให้เป็นที่ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรค
               - ที่ทำงาน หากว่านำสลัดหรือแซนวิชมาทานที่ทำงานเป็นอาหารกลางวัน ควรเก็บไว้ในภาชนะที่เก็บความเย็นได้ หรือใช้ถุงสองชั้นและแช่ด้วยแพ็คเย็น ซุปร้อนและเครื่องดื่มร้อนควรเก็ยไว้ในกระติกเก็บความร้อน เมื่อทำการอุ่นอาหารในไมโครเวฟขอบงที่ทำงาน ควรใช้ฝาปิดอาหาร
               - ที่บ้าน ควรเก็บอาหารที่กิดเหลือเข้าตู้เย็นทันทีที่กินเสร็จเรียบร้อย อาหารที่เหลือจากร้านอาหารควรกินภายในสามวันอย่ากินหรือชิมอาหารที่มีกลิ่นหรือรสชาติประหลาด การชิมอาหารที่เสียแล้วแม้เพียงน้อยนิด ก็สามารถทำให้คุณไม่สบายได้ ควรละลายอาหารแช่งแข็งในช่องธรรมดาของตู้เย็นสักวันสองสันก่อนล่วงหน้า แล้วอุ่นทันทีในไมโครเวฟ อาจจะเป็นการเสียเวลานิดหน่อยแต่ก็ยังคงดีกว่าที่จะต้องนั่งๆ นอนๆ ป่วยไปอีกหลายวัน


ขอขอบคุณที่มา : ผู้หญิงนะคะดอทคอม

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์