ชีวิตใหม่มีความสุข...หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม

ชีวิตใหม่มีความสุข...หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม


ชีวิตใหม่มีความสุข
ก็ขอให้ท่านทั้งหลายเจริญสุข
คือสร้างบุญกุศลไว้ให้มาก
บุญนั้นไม่ต้องใช้สตางค์
ก็ขอฝากไว้ คือความเจริญก้าวหน้าของชีวิต
คิดสิ่งใด ทำสิ่งใด ก็อยากให้สำเร็จตามปรารถนา
ด้วยกันทุกคน
เป็นปีแห่งความสดชื่นเบิกบานใจกับดอกไม้แย้มผลิ
มีสีสันสดสวยตระการตาแก่ผู้พบเห็นทั่วไป
ความสดสวยของชีวิตจะต้องเกิดขึ้น
ตามระบบและครรลองที่ถูกต้อง
ซึ่งจะต้องมี

"แผนการในการสร้างชีวิต
แผนการในการสร้างอนาคตดำเนินให้ต่อเนื่อง"


ด้วยความตั้งใจที่แน่วแน่และมั่นคง
เพื่อจะนำนาวาของชีวิต
ให้บรรลุเป้าหมายให้จงได้ดังที่ตั้งปณิธานไว้

การที่เราจะมีชื่อเสียงและเกียรติยศ
มีทรัพย์สินเงินทอง มีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์
หรือทำให้เกิดความสุขนั้นอยู่ที่ตัวเราทั้งสิ้น
เราเป็นผู้สร้างสรรค์และเป็นผู้ที่จะกระทำให้เกิดขึ้น

ถ้าทำให้เกิดความสุขมาก
หรือทำให้เกิดน้อยก็เป็นของเรา
หรือถ้าไม่ทำก็ไม่มีสุข

สุขนั้นจะทำให้เกิดขึ้น
จึงจะเป็นสุขได้ ฉันใดก็ดี
หากต้องการมีความสุขในปีต่อไป
หรือในอนาคต ก็ต้องทำดังต่อไปนี้

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสว่า
ความสุขของคฤหัสถ์ จะเกิดขึ้นได้ ๔ ประการ

๑.ค ว า ม สุ ข เ กิ ด จ า ก ก า ร มี ท รั พ ย์
เมื่อคนเรามีความขยันหมั่นเพียร
มีความตั้งใจที่จะทำงานให้เกิดความเจริญก้าวหน้า
และมีผลงานในการปฏิบัติหน้าที่ของตน
ก็จะทำให้มีหน้าที่การงานและรายได้สูงขึ้น
มีทรัพย์สินเงินทองสะสมไว้เป็นประโยชน์ต่อชีวิต
เพื่อวันข้างหน้าต่อไปเถิดท่านจะประเสริฐที่สุด

๒.ค ว า ม สุ ข จ า ก ก า ร ใ ช้ ท รั พ ย์
เงินทองนั้นไม่ได้หามาได้ง่ายเลย
หามาด้วยความเหนื่อยยากด้วยกันทุกคน
จะเกิดความภูมิใจอิ่มเอิบว่า
ตนได้ใช้ทรัพย์ที่ได้มาด้วยความชอบธรรมนั้น
นำไปใช้ทำประโยชน์ ทำกุศลผลบุญต่าง ๆ
และนำไปซื้อของใช้ที่จำเป็นต่อชีวิต
หรือสร้างบ้านเรือนที่อยู่อาศัยให้เป็นหลักฐานที่มั่นคง
แก่ชีวิตยิ่งขึ้นต่อไปเถิด

๓. ค ว า ม สุ ข จ า ก ก า ร ไ ม่ เ ป็ น ห นี้
การที่เราหาทรัพย์สิน หามาด้วยความเหนื่อยยากลำบาก
จะต้องระมัดระวังรักษาทรัพย์มิให้สูญหายไป
จะกระทำสิ่งใดก็ต้องรู้จักแบ่งทรัพย์ให้ถูกต้อง
เป็น ๔ ประการคือ
เพื่อตนเองและครอบครัว ทำบุญทำกุศลและส่วนรวมหนึ่ง
เพื่อธุรกิจการงาน สองส่วน
เพื่อสะสมไว้เป็นทุนสำหรับชีวิตในอนาคตอีกหนึ่งส่วน

ฉะนั้นเมื่อจะนำเงินนั้นมาลงทุนหรือดำเนินกิจการใด ๆ
ก็ต้องคำนึงถึงหลัก ๔ ประการนี้
ถึงแม้ว่าจะเพลี่ยงพล้ำก็ไม่เกิดเป็นทุกข์
การที่ทำธุรกิจเกินตัวหรือการใช้จ่ายเกินตัว
จะทำให้เกิดเป็นหนี้ขึ้นการเป็นหนี้นั้น
นอกจากจะทำให้ชีวิตตัวเองไม่มีความสุขแล้ว
ยังทำให้ครอบครัวไม่มีความสุขด้วย

๔.ค ว า ม สุ ข เ กิ ด จ า ก ค ว า ม ป ร ะ พ ฤ ติ ไ ม่ มี โทษ
ถ้าเรามีความประพฤติสุจริตไม่บกพร่องเสียหาย
ทำมาหากินในทางสุจริต ใคร ๆ ติเตียนไม่ได้
ทั้งทางกาย วาจา และทางใจ
เราก็เกิดความสุขความภาคภูมิใจ
ผู้ที่มีความประสงค์จะมีความสุขยิ่ง ๆ ขึ้น
พระพุทธองค์ตรัสว่า ความสงบเป็นเป็น สุขอย่างยิ่ง
คนที่มีจิตใจสงบ ไม่วุ่นวายกับสิ่งใด ๆ
มีความตั้งใจและสมาธิแน่วแน่ดีในพระกรรมฐาน
จะทำแต่สิ่งที่ดี ๆ ทั้งนั้น และมีความตั้งใจ
ที่จะทำงานของตนให้ดียิ่งขึ้น
ไม่ทำความชั่ว ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่ทำร้ายผู้อื่น
และไม่อยากได้ของผู้อื่น
เลี้ยงชีวิตโดยชอบ ก็จะทำให้ชีวิตนั้นมีความสุข
และความสงบเกิดขึ้น

ส่วนผู้ที่ปฏิบัติธรรมกรรมฐาน
สติปัญญาก็จะเกิดขึ้นจากความสงบนั้น
และบรรลุถึงการปฏิบัติธรรมในที่สุด
อย่างที่มาเจริญกรรมฐานด้วยความถูกต้อง
ความสุขใดเสมอด้วยความสงบไม่มีแล้ว

ท่านทั้งหลาย
สิ่งใด ๆ ก็ตามที่เกิดขึ้นตามธรรมชาตินั้น
เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามปกติ
บุคคลที่มีจิตใจเป็นปกติย่อมมีความสุขและความสงบ
มีความเจริญก้าวหน้าของชีวิต

ส่วนผู้ที่มีจิตใจที่ผิดปกติ ก็จะเกิดโทษทุกข์ทรมาน
และเกิดความเดือดร้อนต่อตัวเองและผู้อื่นนานัปการ
ความปกติจึงทำให้คนพบกับความสันติสุขและไม่มีโทษ

ความเป็นปกตินี้ พระพุทธศาสนาบัญญัติว่า เป็นศีล
ที่โยมนั่งกรรมฐาน ถือศีลก็คือความเป็นปกตินั่นเอง
บางท่านที่ไม่รู้จักคำว่า ศีล
อีกนัยหนึ่งไม่รู้จักคำว่า ศีลคืออะไร
เลยสิ้นกำลังใจที่จะรักษาศีล
แต่ความจริงแล้ว ศีล แปลว่า ปกติ...

ขอบคุณบทความจาก ลานธรรมจักร


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์