ตามไปดูเรือยอชต์หรูแครนชี บุกโอเชี่ยนฯ โบ๊ต โชว์ 2556
เมื่อวันที่ 22-24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โอเชี่ยน มารีน่า ยอชต์ คลับ พัทยา อู่จอดและศูนย์ดูแลบำรุงรักษาเรือยอชต์ สำหรับบรรดาเศรษฐีทั้งหลาย ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้จัดมหกรรมการแสดงเรือนานาชาติ "โอเชี่ยน มารีน่า พัทยา โบ๊ต โชว์ 2556" (Ocean Marina Pattaya Boat Show 2013) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 หลังประสบความสำเร็จเกินคาดจากการจัดงานครั้งแรกในปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์มากขึ้น
ปีนี้มีพื้นที่สำหรับการจัดแสดงบนพื้นน้ำและบนพื้นชายฝั่งมีขนาดมากกว่า 2,600 ตร.ม. เพื่อรองรับบรรดาผู้ประกอบการกว่า 100 ราย ทั้งภาคธุรกิจท่องเที่ยวทางทะเล อาทิ เรือยอชต์แบรนด์ชั้นนำต่างๆ ซุปเปอร์ไบค์ ซุปเปอร์คาร์ และอสังหาริมทรัพย์สุดหรู รวมถึงสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องมากมาย
หนึ่งในนั้น ก็มีนักธุรกิจด้านยานยนต์คือ "วิรัตน์ ผลประดับ" นายใหญ่จากเอ.จี. คาร์ส ผู้นำเข้ารถยนต์อิสระ และเป็นผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการรถยนต์ซันยองจากเกาหลี เข้าร่วมในนาม เอ.จี. คาร์ส แอนด์ มารีน ผู้แทนจำหน่าย เรือยอชต์หรู "แครนชี" จากอิตาลี โดยขนทัพเรือยอชต์ร่วมจัดแสดง เน้นการให้บริการในระดับซุปเปอร์ลักชัวรี (Super Luxury)
เอ.จี. คาร์ส แอนด์ มารีน ได้นำเรือยอชต์หรู แครนชี (CRANCHI) M44 HT ลำหรู เวอร์ชั่นปี 2013 ค่าตัวเมืองไทย 18-23 ล้านบาท จากสายพานการผลิตของ กลุ่ม CANTE RE NAUTICO CRANCHI. S.p.A. แห่งประเทศอิตาลี เข้าร่วมจัดแสดงในงานครั้งนี้
นายวิรัตน์ ผลประดับ เล่าให้ฟังว่า คนไทยเริ่มมีการซื้อเรือมากขึ้น จากเดิมสัดส่วนของเรือที่จอดที่มารีน่านั้นเป็นของต่างชาติร้อยละ 80 และคนไทยร้อยละ 20 แต่ในขณะเดียวกันสัดส่วนของเรือที่มีคนไทยเป็นเจ้าของนั้นสูงขึ้นคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 38 เป็นดัชนีที่บ่งชี้ได้ว่า คนไทยมีไลฟ์สไตล์ด้านการท่องเที่ยวทางทะเลมากขึ้น และมีกำลังซื้อเรือมากขึ้น
สำหรับแครนชี เป็นเรือยอชต์ระดับหรู ผลิตโดยแครนชี อิตาลี เอสพีเอ บริษัทผู้ผลิตเรือยอชต์รายใหญ่ ในอิตาลีที่มีประวัติศาสตร์การผลิตมายาวนานกว่าร้อยปี กำเนิดในปี 1866 เป็นที่รู้จักดีในหมู่นักนิยมเล่นเรือ มีโรงงานผลิตเรือขนาดใหญ่ 4 แห่งในอิตาลี มีดีลเลอร์เน็ตเวิร์กทั่วโลก ทั้งอเมริกา แคนาดา ยุโรป และเอเชีย ผลิตเรือหรูจับกลุ่มลูกค้าหลากหลายไลน์ ไม่ว่าจะเป็นเรือ สปอร์ต ครูสเซอร์ ฮาร์ดท็อป ฟรายบริด เอาต์บอร์ด และทราเวลเลอร์ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป จนกระทั่งกว่า 100 ล้านบาทต่อลำ
สำหรับ M44 HT เป็นเรือยอชต์ขนาดกลาง ขนาดบรรทุก 15 ที่นั่ง แบบฮาร์ดท็อป 2 ชั้น 2 ห้องนอนเคบิน และ 2 ห้องน้ำ หรูหราด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นแอร์คอนดิชั่น ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ทีวี ตู้เย็น ตู้ทำน้ำแข็ง ห้องครัว ห้องรับแขก ระบบน้ำไฟเพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ไฮเทคโนโลยี ช่วยในการเดินเรือ
ทำให้เจ้าของเรือสามารถเรียนรู้และควบคุมเรือได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นระบบการสื่อสารด้วยเรดาร์ ดาวเทียมและจีพีเอสใช้นำทาง ระบบขับเคลื่อนแบบออโตไพล็อต ครูสคอนโทรล ทำให้การควบคุมเรือสำราญเพื่อท่องเที่ยวด้วยตนเองกลายเป็นเรื่องง่าย ต่างจากในอดีตอย่างสิ้นเชิง
M44 HT ขนาดความยาว 44 ฟุตกว้าง 4 เมตร โครงสร้างตัวเรือ ไฟเบอร์กลาสชั้นดีความหนาถึง 25 มิลลิเมตร ความทนทานการเสื่อมสภาพของวัสดุ เรือลำนี้ใช้ได้เกิน 50 ปี ขับเคลื่อนลอยลำตัดคลื่นด้วยเครื่องยนต์ดีเซล VOLVO PENTA ขนาด D6 EVC 400 แรงม้า X 2 เครื่องยนต์ 2 ใบพัด 800 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 40 นอตต่อชั่วโมง วอร์รันตีเครื่องยนต์แบบเวิลด์ไวด์ 2 ปีเต็ม
นายวิรัตน์ยังบอกอีกว่า บริษัทจะเน้นย้ำเรื่องการบริการหลังการขายและดูแลลูกค้าที่สั่งซื้อเรือในระดับเฟิร์สต์คลาสหรือเรียกได้ว่า ซุปเปอร์ลักชัวรี (Super Luxury) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบำรุงรักษาตัวเรือ มีกัปตันเรือและเด็กเรือคอยบริการและดูแลเรือของลูกค้าตลอดเวลา บริการตลอด 24 ชั่วโมง เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ด้วยค่าบริการดูแลดังกล่าวเริ่มต้นเพียงเดือนละ 1 หมื่นกว่าบาทเท่านั้น หรือหากลูกค้าซื้อเรือไปแล้ว ต้องการให้เช่าเรือ บริษัทก็มีสำนักงานอยู่ที่โอเชี่ยน มารีน่า สามารถเป็นตัวกลางให้ลูกค้ากับผู้เช่าได้
เรียกได้ว่าการท่องเที่ยวโดยเรือยอชต์หรู ถือเป็นกิจกรรมพักผ่อนอีกทางเลือก สำหรับบรรดาเศรษฐีกระเป๋าหนักทั้งหลาย ที่ไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนอย่างที่หลายคนกังวล
กระทู้เด็ดน่าแชร์
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
