ตายแทนได้!! หนุ่มเอาตัวรับกระสุนแทนแฟน ประโยคสุดท้ายทำเอาซึ้ง!!!

เหตุการณ์กราดยิงที่โรงแรมริมหาดในเมืองซูสส์ ของตูนิเซีย เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา  ยังให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 39 ราย และบาดเจ็บอีก 36 รายด้วยกัน เหตุการณ์ระทึกวันนั้นคงฝังบาดลึกอยู่ในใจของผู้ที่รอดชีวิตทุกคน รวมทั้งคู่รักชาวอังกฤษ แมทธิว เจมส์ วัย 30 ปี และคู่หมั้นวัย 26 เซียรา วิลสัน ที่ไปเที่ยวพักผ่อนกันที่โรงแรม Bellevue Hotel โดยไม่คาดฝันว่าจะต้องเหตุการณ์ที่ทำให้แทบเอาชีวิตไปทิ้ง แต่อย่างน้อยก็ทำให้พวกเขาได้รู้ว่าต่างคนต่างรักกันมากแค่ไหน เมื่อเจมส์สละร่างตัวเองเป็นโล่กำบังกระสุนให้คนรักโดยไม่ห่วงชีวิตของตน และประโยคสุดท้ายที่เขาเอ่ยกับเธอคือ "หนีไป แล้วบอกลูก ๆ ด้วยว่า พ่อรักพวกเขามาก"

เว็บไซต์มิเรอร์ ย้อนรอยเหตุการณ์ในวันนั้นอีกครั้ง ในรายงานเมื่อวันที่ 4 กรกฎษคม 2558 เจมส์เล่าเรื่องย้อนไปว่า ขณะเสียงปืนนัดแรกดังขึ้น เขากำลังทาครีมกันแดดที่หลังให้เซียราอยู่ และทันใดนั้นร่างกายก็ขยับไปโดยอัตโนมัติ โอบทับตัวของคู่หมั้นไว้ใต้ร่างตัวเอง แล้วกระสุนลูกแรกก็พุ่งเข้ามา เขายังไม่รู้สึกเจ็บมากนัก จนกระทั่งนัดที่สองและสาม เจาะเข้ามาที่หน้าท้องและอก

เจมส์ซึ่งคิดว่าตัวเองกำลังจะตายลงไม่ช้า เอ่ยปากบอกกับคนรักให้รีบหนีไป และข้อฝากความไปถึงลูก ๆ ด้วยว่าพ่อรักพวกเขามาก เจมส์เล่าว่า ถึงในตอนนั้นจะยังอยากคนรักอย่ด้วยกันข้างกายมากแค่ไหน แต่เขารู้ดีว่าลูก ๆ ต้องการคนดูแล

เซียราใช้โอกาสช่วงที่เสียงปืนสงบลงวิ่งหนีเข้าไปในโรงแรม จากนั้นไม่นานเสียงปืนห่าใหม่ดังขึ้นและยิ่งดังใกล้โรงแรมมากขึ้นเรื่อย ๆ เธอกับแขกอีก 3 คนเข้าไปซ่อนตัวในตู้เก็บไม้กวาดที่ชั้นสอง เซียราพยายามสงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการนับเลข เธอหลบอยู่ในนั้นจนเสียงด้านนอกสงบลง เมื่อออกมาจากตู้ก็ได้ยินคนพูดกันว่ามือปืนถูกยิงตายแล้ว

ทางด้านเจมส์ที่นอนอาบเลือดตัวเองอยู่ที่ชายหาด ได้รับความช่วยเหลือจากพนักงานโรงแรม ให้เขาคลานออกมาจากจุดเกิดเหตุ แล้วเข้าไปช่วยดึงตัวออกมาอีกที ก่อนถูกพาตัวส่งโรงพยาบาล เผยว่า ระหว่างที่นอนเจ็บอยู่ตรงนั้น มีแวบหนึ่งที่ได้เงยหน้าสบตากับมือปืน เซเฟดดีน เรซกุย เจมส์บอกว่าสายตานั้นสงบนิ่งและเย็นชา ไม่มีท่าทีสะทกสสะท้านกับสิ่งที่ตัวเองกำลังทำ มือปืนยิงเจาะเข้าที่ร่างนักท่องเที่ยวร่างละ 3 นัด เหมือนต้องการแน่ใจว่าเหยื่อจะตายจริง

นางเซียรา เล่าว่า หลังจากออกจามาจากโรงแรมแล้วก็รีบกลับไปยังหาด แต่พบว่าถูกเจ้าหน้าที่ปิดล้อมไว้หมด เธอจึงไปคอยดูตามเปลที่ขนร่างผู้เสียชีวิตออกไปจากที่เกิดเหตุ

"ฉันต้องเปิดผ้าคลุมดูทุกศพ ตอนที่เห็นว่าสีผมของเหยื่อไม่เหมือนกับของเจมส์ มันเป็นความโล่งใจมาก ๆ แล้วก็โชคดีจริง ๆ ที่ไม่มีเจมส์อยู่ในนั้น แต่การต้องเห็นคนตายแบบนี้มันเลวร้ายมากจริง ๆ" เซียรา กล่าว

ในเวลาถัดมา เซียราได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลว่า เจมส์ปฏิเสธการรักษาจนกว่าจะทราบชัดว่าคู่หมั้นของเขาปลอดภัย นางเซียราจึงถูกพาตัวไปโรงพยาบาลด้วยเฮลิคอปเตอร์ แต่เมื่อเหยียบถึงโรงพยาบาลก็หัวใจแทบสลาย เมื่อผู้บาดเจ็บหญิงคนหนึ่งที่ระบุว่าอยู่บนรถพยาบาลคันเดียวกับเจมส์ บอกว่าคู่หมั้นของเธอเสียชีวิตแล้วเพราะหัวใจวายระหว่างเดินทาง

แต่ในที่สุดทุกอย่างก็คลี่คลายไปในทางที่ดี เธอตามหาเจมส์ไปทั่วโรงพยาบาลและก็พบเขาในที่สุด ข่าวที่เธอได้มาคงคลาดเคลื่อน แพทย์ระบุว่าเจมส์หัวใจหยุดเต้นจริง แต่เกิดระหว่างการผ่าตัดนำกระสุนออก และสุดท้ายก็ปลอดภัยดี และยังพูดติดตลกให้เธอเบาใจว่า รอดกระสุน 3 นัดมาได้แบบนี้ เขาคงไม่ตายง่าย ๆ

ในตอนนี้เจมส์ถูกส่งตัวกลับไปรักษาและพักฟื้นต่อในประเทศอังกฤษแล้ว และทั้งคู่จะได้รับการบำบัดฟื้นฟูสภาพจิตใจจากิตแพทย์ด้วย เจมส์ได้พบหน้าลูก ๆ อีกครั้งหลังเหตุการณ์เฉียดตาย พร้อมเผยว่า รอวันที่จะได้ออกจากโรงพยาบาล กลับบ้านไปทำหน้าที่คุณพ่อของลูก ๆ แทบไม่ไหว โดยเจมส์มีลูกสาววัย 6 ขวบ 1 คน ซึ่งเป็นลูกติดของเซียรากับคนรักเก่าของเธอ และลูกชายวัย 15 เดือน ที่เกิดจากเขาและเซียราอีก 1 คน

นอกจากนี้ตอนนี้เขากับเซียรา ก็วางแผนว่าจะแต่งงานกันในช่วงเวลาเดียวกันนี้ของปีหน้า ถึงจะเป็นช่วงเวลาที่มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น แต่ทั้งคู่อยากให้มันกลายเป็นเครื่องเตือนใจว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ทั้งสองยังมีกันและกัน และจะพากันเดินไปข้างหน้าต่อไป

ขอบคุณที่มา ::::: เฟซบุ๊ก Matthew James Fund Tunisian attack , tatafoearsblog.com :: kapook