รองเท้าส้นสูงใส่อย่างไร?!?ช่วงหน้าฝน

รองเท้าส้นสูงใส่อย่างไร?!?ช่วงหน้าฝน


รองเท้าส้นสูงใส่อย่างไร?!?ช่วงหน้าฝน

 “รองเท้าส้นสูง” ของที่คู่กับผู้หญิงที่อยากดูสูงเพรียวและสวยสมส่วนยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะต้องแลกกับความเมื่อย หรือเจ็บปวดอย่างไรก็ตาม แม้กระทั่งหน้าฝนที่ต้องต่อสู้กับความเฉอะแฉะ และก่อให้เกิดอุบัติเหตุลื่นหกล้มได้ง่ายก็ตาม คุณผู้หญิงก็ไม่ยั่น

เพื่อสนับสนุนคุณผู้หญิงที่ห่างรองเท้าส้นสูงไม่ได้ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์หรือฤดูกาลใดๆ ก็ตาม น.ส.อังค์สุมาลี แร่กาสิน นักกายภาพบำบัด แผนกประกันสังคม รพ.กล้วยน้ำไท 1 มีคำแนะนำที่น่าสนใจ

เริ่มจากเราควรจะรู้ว่าปกติคนเราเดินกันวันละ 3,000-5,000 ก้าวโดยเฉลี่ย ส้นรองเท้าที่ยิ่งสูงจะทำให้เกิดแรงกดที่กระดูกนิ้วเท้าและข้อต่อนิ้วเท้า ทำให้การกระจายแรงที่เกิดจากการเดินผิดเพี้ยนไป เนื่องจากเวลาก้าวเดินปกติ เราจะยกด้านหน้าของเท้าขึ้นประมาณ 10-20 องศา แล้วเริ่มลงน้ำหนักจากส้นเท้า กลางเท้า และบริเวณด้านหน้าเท้า (นิ้วเท้า) แต่เมื่อเราใส่รองเท้าส้นสูง จะทำให้การยกหน้าเท้าน้อยลง ลักษณะการเดินจะคล้ายกับการลากเท้า และน้ำหนักส่วนใหญ่จะไปลงที่บริเวณกระดูกนิ้วเท้ารวมถึงข้อต่อนิ้วเท้า (Metarsal Joint) ซึ่งการกระจายแรงที่ไม่ทั่วถึงทั้งเท้านี้จะส่งผลให้เกิดอาการเจ็บบริเวณฝ่าเท้าด้านหน้า หรือการอักเสบของเอ็นที่เท้าตามมาด้วย และการใส่รองเท้าส้นสูงนานๆ จะทำให้เกิดอาการปวดน่อง เพราะต้องเขย่งบนรองเท้าส้นสูงตลอด ทำให้กล้ามเนื้อน่องต้องทำงานหนักขึ้น นอกจากนี้การเดินบนรองเท้าส้นสูงจะมีแรงกระแทกมาที่ข้อเข่า มากกว่าการใส่รองเท้าส้นเตี้ยจึงทำให้ปวดเข่า และเป็นสาเหตุให้เข่าเสื่อมได้ระยะยาว

รองเท้าที่เหมาะสำหรับการเดินบนพื้นถนนที่เปียกลื่นอย่างหน้าฝน คือรองเท้าไม่มีส้น และผลิตด้วยวัสดุที่ไม่เปียกน้ำง่าย เช่น รองเท้าบัลเลย์ (Ballet Shoes) ชนิดที่เป็นหนังหรือยางแบบที่มีแผ่นยางกันลื่นที่ใต้พื้นรองเท้า และรองเท้าแตะรัดส้นที่มีพื้นยางประเภทที่เกาะพื้นถนนได้ดี หรือรองเท้าผ้าใบแบบที่ช่วยกันน้ำได้ รวมถึงรองเท้าบูทยางแบบใส่ลุยฝน ฯลฯ นอกจากนี้ บริเวณ “พื้นรองเท้า” ควรเลือกรองเท้าที่ยึดเกาะพื้นผิวชนิดต่างๆ ขณะเปียกได้ดี และควรเลือกพื้นแบบที่มีลาย หรือพื้นผิวขรุขระซึ่งน่าจะเกาะพื้นผิวได้ดีกว่า ขณะเดียวกันหากมีรองเท้าอยู่แล้วแต่กลัวลื่นก็ควรนำไปที่ร้านรองเท้าเพื่อให้ติดแผ่นยางกันลื่น ส่วน “พื้นด้านในรองเท้า” ควรเป็นแบบที่ใส่แล้วกระชับกับฝ่าเท้าไม่ลื่น และมีความอ่อนนุ่มพอประมาณ แต่ไม่ควรจะนิ่มเกินไป เพราะอาจทำให้เมื่อยได้ง่ายเมื่อต้องเดินระยะยาว ขณะเดียวกัน “ลักษณะรองเท้า” ควรเลือกรองเท้าหุ้มส้น หรือรัดส้นที่ใส่แล้วรู้สึกกระชับกับหลังเท้า หลีกเลี่ยงรองเท้าหัวแหลม เนื่องจากบีบปลายนิ้วเท้า ทำให้เท้าผิดรูป และที่ขาดไม่ได้คือ “ส้นรองเท้า” ควรหลีกเลี่ยงรองเท้าส้นเข็ม เนื่องจากต้องเกร็งขณะเท้าเพื่อพยายามทรงตัว ทำให้เมื่อยยิ่งขึ้น ซึ่งส้นรองเท้าที่ทำจากยางดีกว่าไม้แข็งๆ เพราะช่วยดูดซับแรงกระแทกได้ 

แต่หากสาวๆ คนไหนที่อยากอวดเรียวขาเซ็กซี่ด้วยส้นสูง ควรเลือกใส่ด้วยความระวังมากขึ้น โดยเลือกความสูงให้อยู่ที่ประมาณ 0.5 นิ้ว -1.5 นิ้ว เนื่องจากพื้นถนนที่มีความลื่น และเวลาเดินจะต้องคอยระวังเรื่องการทรงตัวเพราะเท้าจะเกร็งมากกว่าปกติ โดยลักษณะพื้นเท้าของเราจะเกร็งในลักษณะงุ้ม และจิกพื้น อาการเกร็งจะเกร็งไปถึงบริเวณข้อเท้าและน่อง หรือในบางครั้งถ้ามีน้ำเข้าไปในรองเท้าทำให้เท้าแฉะ จะยิ่งทำให้เดินลำบากมากขึ้น โดยเฉพาะถ้าใส่รองเท้าที่ไม่มีสายรัดช่วงส้น จะต้องเกร็งเท้าเพื่อคอยประคองไม่ให้รองเท้าหลุดตลอดเวลา จะยิ่งเสียการทรงตัวได้ง่าย ดังนั้นจึงควรเลือกรองเท้าส้นสูงที่มีลักษณะส้นใหญ่ เพราะจะช่วยกระจายน้ำหนักได้ดี ทำให้ยืนและเดินได้อย่างมั่นคง ซึ่งรองเท้าส้นสูงที่ใส่สบายที่สุดคือ รองเท้าส้นเตารีดที่มีน้ำหนักเบา แต่การเลือกแบบที่สูงจนเกินไปก็ต้องระวังเรื่องข้อเท้าพลิกและวิธีที่ดีสำหรับสาวออฟฟิศที่ต้องออกไปข้างนอกบ่อยๆ แต่ก็ยังอยากสวยด้วยรองเท้าส้นสูงสี่นิ้ว หัวแหลม ส้นเข็ม คือการมีถุงเล็กๆ ไว้ในกระเป๋าถือ เพื่อใส่รองเท้าคู่สวยสลับกับรองเท้าคู่สบายนั่นเอง

ท้ายนี้ น.ส.อังค์สุมาลี แนะนำว่า “รองเท้าส้นสูง” เป็นเหมือนเฟอร์นิเจอร์ชิ้นสุดท้าย ที่สร้างความลงตัวให้ผู้หญิงก่อนออกจากบ้านไปทำงานหรือไปไหนๆ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรเลือกเพียงเพราะความชอบในแบบสีหรือราคาเท่านั้น การเลือกรองเท้าส้นสูงก็ควรให้ความสำคัญทั้งรูปแบบ วัสดุต่างๆ ที่ประกอบในรองเท้า และความเหมาะสมของการหยิบแต่ละคู่มาใส่ในแต่ละโอกาสและพื้นที่ที่เดินทาง ระยะเวลาที่สวมใส่ด้วย เพื่อช่วยลดความเมื่อยล้าและปัญหาสุขภาพในระยะยาว.


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์