ฮือฮา!! แลนด์มาร์ค “พญาคางคก” จ.ยโสธร ทั้งแปลกและอาถรรพ์สุดๆ

โครงการก่อสร้างวิมาน พญาคันคาก โครงการขนาดใหญ่ของ จ.ยโสธร ต้องหยุดชะงักลง เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้คือ

บริษัทรับจ้างก่อสร้างทำงานไม่แล้วเสร็จตามสัญญา เพราะอ้างว่าก่อสร้างไม่ใช่การก่อสร้างแบบอาคารธรรมดาแต่เป็นแบบประติมากรรม จึงถูกปรับและยกเลิกรอหาบริษัทใหม่มาทำต่อ

การปรับปรุงภูมิทัศน์ ผอ.สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินไปตรวจพบการจัดซื้อต้นไม้ยืนต้นมาประดับตกแต่งราคาแพงเกินจริง ไม่ดูแลรักษาจนต้นไม้ดังกล่าวตายจำนวนหลายต้น

อาคารพญานาค (สำหรับจัดนิทรรศการเกี่ยวกับงานประเพณีบั้งไฟ)

อาคารพญาคันคาก (คางคก) จุดชมวิวและภาพเขียนประวัติงานประเพณีบั้งไฟ

โดย งบประมาณก่อสร้าง รูปปั้นขบวนแห่บั้งไฟ , งบการปรับภูมิทัศน์โดยรอบ , งานก่อสร้างอาคารพญาคันคาก ใช้จำนวน 18,900,000 บาท ปัจจุบันก่อสร้างไปแล้วประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ ตัวอาคารกว้าง 19 เมตร สูง 21 เมตร (5 ชั้น) ติดตั้งเครื่องปรับอากาศทุกชั้น พร้อมให้บริการลิฟต์ขึ้นลงสะดวกสบาย

ส่วนอาคารพญานาค ใช้งบประมาณจำนวน 44,800,000 บาท ปัจจุบันก่อสร้างไปแล้วประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ มีความยาวพญานาค 150 เมตร สูง 30 เมตร ภายในจะตกแต่งเป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการวิมานพญาแถน สืบสานตำนานบุญบั้งไฟ ประวัติความเป็นมาของวิถีอีสานตามตำนานบุญบั้งไฟภายในตัวพญานาคและพญาคันคาก ใช้งบประมาณ จำนวน 29,830,000 บาท

โครงการก่อสร้างวิมานพญาแถน มีมาตั้งแต่สมัย นายวันชัย อุดมสิน อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธรและอดีตรองอธิบดีกรมการปกครอง ได้เริ่มดำเนินการเป็นครั้งแรก ต่อมาเมื่อนายพีรพันธุ์ พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ขณะนั้น ได้จัดสรรงบประมาณจากกลุ่มจังหวัดคือ ยโสธร อุบลราชธานี ศรีสะเกษ และอำนาจเจริญ มาดำเนินการก่อสร้าง เป็นช่วงๆ ปี คาดว่าจะใช้งบทั้งสิ้นประมาณ 200 ล้านบาท เป้าหมายเพื่อพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในกลุ่มจังหวัด

พญาคันคาก มีร่างเป็นคางคก ได้เป็นพระราชาครองเมือง มีประชาชนพลเมืองเลื่อมใสมาก พระราชาบ้านเมืองต่างๆ ยกย่องสรรเสริญ พญาแถน เป็นใหญ่บนฟ้า ควบคุมน้ำในก้อนเมฆให้ตกเป็นฝนลงดิน เพื่อชาวนาชาวไร่ปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหาร

เมื่อรู้ข่าวว่าพญาคันคากมีผู้ยกย่องมาก พญาแถนริษยาที่ประชาชนพลเมืองเลื่อมใส จึงไม่ปล่อยน้ำลงมาเพื่อให้ชาวนาชาวไร่เดือดร้อน เพราะฝนแล้ง จะได้เกลียดพญาคันคาก แล้วหันมาเลื่อมใสพญาแถน พญาคันคากรู้ดังนั้น จึงระดมสมัครพรรคพวกซึ่งล้วนเป็นสิงสาราสัตว์สารพัดชนิดไปรบแถนเพื่อทวงน้ำฝน โดยมอบให้ฝูงปลวกขนดินอับชื้นทำถนนหนทางขึ้นฟ้าเหมือนจอมปลวก มีพญานาค (คืองู) เป็นนายทัพ เดินทัพไต่จอมปลวกขึ้นไปรบชนะพญาแถน แล้วปล่อยน้ำฝนจากฟ้าลงมาดินให้ประชาชนพลเมืองทำไร่ทำนาต่อไปตามปกติ แล้วตกลงกันว่าชาวบ้านจะจุดบั้งไฟขึ้นฟ้าบอกแถนให้ปล่อยน้ำประจำทุกปี เป็นตำนานบั้งไฟ