เจ้าของ hi5 ร่อนหนังสือเสียใจกรณีอื้อฉาวในไทย

ระบุสมาชิกมีทั่วโลก แต่ไทยเป็นประเทศเดียวที่ใช้ในทางไม่เหมาะสมพร้อมขอข้อมูลไปแก้ปัญหา ด้าน พศ.เสนอทางออก ติดตั้งระบบเซิร์ฟเวอร์ให้พระลงทะเบียน เพื่อตรวจสอบการใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม

เว็บ hi5 ยอดฮิตเว็บ hi5 ยอดฮิต











จากกรณีเครือข่ายองค์กรภาคประชาชนพิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ออกมาแฉว่า ขณะนี้มีพระสงฆ์บางกลุ่ม นิยมเข้าไปใช้เว็บไซต์ www.hi5.com (ไฮไฟว์) และสร้างเว็บไซต์เป็นของตนเอง ใช้เป็นช่องทางในการสนทนากับวัยรุ่น พระบางรูปก็ใช้ไปในทางที่ดี โดยการใช้เป็นช่องทางในการเผยแผ่ธรรมะสู่วัยรุ่น แต่บางรูปกลับมีการใช้เป็นช่องทางในการสนทนากับวัยรุ่น โดยใช้คำพูด ที่ไม่เหมาะสม เช่น "ฝันดี" "คิดถึง" เป็นต้น ทำให้สังคมเป็นห่วงว่าจะเกิดเรื่องที่ไม่เหมาะสมกับพระสงฆ์แล้วในที่สุดเหตุการณ์ดังกล่าวก็เกิดขึ้นจริง เมื่อมีพระลูกวัดวัดท่าเลียบ ต.บึงเนียม อ.เมืองขอนแก่น ใช้โปรแกรมไฮไฟว์ล่อลวงวัยรุ่นสาวให้มาพบที่กุฏิวัด จนตกเป็นข่าวอื้อฉาว

เมื่อวันที่ 10 มี.ค.51- น.ส. ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้รับจดหมายผ่านทางอีเมลล์ จาก นายรามู ยาลามานชิ ผู้บริหารระดับสูงของเว็บต์ไฮไฟว์ ได้ส่งหนังสือมายังศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ว่า เมื่อทางเว็บไซต์ไฮไฟว์ได้รับทราบข่าวการเล่นไฮไฟว์ที่ไม่เหมาะสมของประชนชาชนไทย รวมทั้งกรณีที่เกิดขึ้นกับพระสงฆ์นั้น ทางเว็บไซต์ขอแสดงความเสียใจมายังประเทศไทย ต่อปัญหาที่เกิดขึ้น และขอชี้แจงว่า โดยกระบวนการทำงานของเว็บไซต์ไฮไฟว์ จะมีเจ้าหน้าที่ประจำการ ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง เอาใจใส่สมาชิกที่เข้ามาเล่น รวมทั่งบล็อกสมาชิกที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนไปในทางที่ไม่เหมาะสม

ซึ่งสมาชิกไฮไฟว์มีอยู่ทั่วโลก แต่ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่มีปัญหาการเล่นไฮไฟว์ไปในทางที่ไม่เหมาะ เช่นกรณีพระสงฆ์ ใช้เว็บไซต์ไฮไฟว์ลวงเด็กอายุต่ำหกว่า 18 ปี ดังนั้น ทางเจ้าของไฮไฟว์จึงได้แสดงความปรารถนาดีต่อประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ได้ระบุว่า มีความเคารพในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประชาชนคนไทย และวัฒนธรรมไทย เป็นอย่างยิ่ง รวมทั้งยังแสดงความเสียใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ยินดีที่จะรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะที่ทางเว็บไซต์จะสามารถนำไปแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ยินดีที่จะช่วยปลดล๊อกปัญหาต่างๆ

ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามการที่ผู้บริหารของเว็บไซต์ไฮไฟว์ ส่งหนังสือ เข้ามา ที่ศูนย์เฝ้าระวังนั้น ตนคิดว่าเป็นการรับผิดชอบ ในการทำธุรกิจ ที่มีธรรมาภิบาล มีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยปัญหาที่เกิดขึ้นมีผู้ที่เกี่ยวข้องหลายส่วนที่จะต้องร่วมมือกันแก้ปัญหา ทั้งภาครัฐและเอกชน ดังนั้นศูนย์เฝ้าระวังฯจะรับเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมหารือเกี่ยวกับการหามาตรการป้องกันและแก้ไขกับการเล่นไฮไฟว์ของคนไทย

โดยจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง ได้แก่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศ กระทรวงวัฒนธรรม และเครื่อข่ายครอบครัวและเยาวชน สสส. มาหารือ เพื่อรับฟังความคิดเห็นและแนวทางในการแก้ไขปัญหา จะรวบรวมและสรุปให้กับภาครัฐ และเจ้าของเว็บไซต์ไฮไฟว์ เพื่อ รับทราบปัญหา และนำมาแก้ไขได้อย่างเป็นระบบ

ขณะที่ที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) พุทธมณฑล จ.นครปฐม ได้มีวาระสำคัญ คือ การหามาตรการป้องกัน พระใช้อินเตอร์เน็ตไม่ถูกทาง เช่นกรณีพระเล่น ไฮไฟว์ โดยภายหลังจากการประชุมกว่า 1 ชั่วโมง พระธรรมกิตติเมธี โฆษกมส. กล่าวว่า ที่ประชุมมส.ได้มีมติแต่งตั้งกรรมการ เพื่อศึกษาเรื่องดังกล่าว 3 รูป ได้แก่ พระพรหมสุธี วัดสระเกศ พระธรรมกิตติเมธี วัดสัมพันธวงศ์ และพระธรรมวรเมธี วัดราชบพิธ ขึ้นมาเพื่อศึกษาเรื่องดังกล่าวโดยละเอียด เพราะยอมรับเรื่องเว็บไซต์นี้ คณะสงฆ์ไม่ค่อยมีข้อมูล แต่เบื้องต้น คิดว่าไม่ถึงขั้นต้องบล๊อกเวบไฮไฟว์ เพราะเป็นเว็บไซต์สาธารณะและมีคนเล่นเป็นจำนวนมาก

ด้านนายอำนาจ บัวศิริ ผอ.สำนักเลขาธิการ มส. กล่าวว่า มส.มีความกังวัลและมีความสนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ โดยปกติมส.ได้กับไปยังพระสังฆาธิการโดยตลอดว่า ให้คอยดูแลพระในปกครองให้ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด ปลูกฝังจิตสำนักก่อนบวชให้รู้จักการใช้เทคโนโลยี เฉพาะแต่การศึกษาและการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเท่านั้น ทั้งนี้ เท่าที่ตนได้หารือกับ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านอินเทอร์เน็ต ได้รับคำแนะนำว่า การป้องกันเรื่องนี้ สามารถทำได้โดย ใช้ระบบเซิร์ฟเวอร์ โดยเฉพาะของแต่ละจังหวัด และกำหนดให้พระแต่ละจังหวัดลงทะเบียนกับระบบเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าวก่อนจึงจะสามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้ ดังนั้น จะทำให้สามารถตรวจสอบได้ว่า แต่ละจังหวัดมีพระกี่รูปที่ใช้อินเทอร์เน็ต และเมื่อมีปัญหา เช่น พระล่อลวงเด็กม.3 ผ่านไฮไฟว์ พระเกี่ยวพาราสีสีกาในอินเทอร์เน็ต จะทำให้ตรวจสอบได้ง่ายยิ่งขึ้น

ยอมรับว่า พระเล่นไฮไฟว์ตรวจสอบที่มาที่ไปได้ยาก เพราะการลงทะเบียนเล่นในไฮไฟว์ ใครก็สามารถลงทะเบียนได้ รวมทั้งไม่มีการตรวจสอบสถานะว่า เป็นพระหรือ ฆราวาส แต่เมื่อมีระบบเซิร์ฟเวอร์เฉพาะจะทำให้รู้ว่า แต่ละจังหวัดมีพระเล่นอินเทอร์เน็ตกี่รูป ซึ่งจะสามารถตรวจสอบได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม ผมจะนำแนวทางดังกล่าว หารือกับคณะกรรมการที่มส.แต่งตั้งขึ้น เนื่องจาก จะต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูง โดยเครื่องเซิร์ฟเวอร์ 1 เครื่องราคาต่ำสุดจะอยู่ที่ 40,000 บาท รวมทั้งจะต้องมีเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าระวังตรวจตราอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น จึงจำเป็นจะต้องขอความร่วมมือไปยังกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที)ด้วย เพราะพศ.ไม่มีเจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวแล้ว เห็นว่า ระบบไม่ใช่ปัญหาของทั้งหมด แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลมากกว่า"นายอำนาจ กล่าว

ขอบคุณเนื้อหาข่าวคุณภาพจาก
 






 






เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์