แฉวิธี ! ที่หัวขโมยใช้ ลักทรัพย์ ผู้โดยสาร โดยที่ไม่รู้ตัว

วันนี้ได้มีการแชร์ว่อนในโลกออนไลน์ กับเรื่องราวเตือนใจผู้โดยสารที่เดินทางบ่อยๆจากเพจ เรื่องเล่าจากฟากฟ้า ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงบนเครื่องบินลำหนึ่งและสายการบินขื่อดัง โดยเหตุเกิดหลักทรัพย์ในชั้นธุรกิจว่า

เรื่องเล่าจากฟากฟ้า ตอน หน่วยลาดตระเวน
เหตุเกิดในเที่ยวบินจากดูไบ มุ่งหน้าสู่ดินแดนมาตุภูมิในยามค่ำคืน หลังจากที่ลูกเรือทุกคนได้จัดเตรียมของเพื่อให้บริการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่ผู้โดยสารจะขึ้นเครื่อง ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งรายชื่อกลุ่มผู้โดยสารกลุ่มนึงเพื่อให้ดูแลเป็นพิเศษ 
เนื่องจากมีประวัติเกี่ยวกับเรื่องลักทรัพย์บนเครื่องบิน
หลังจากที่ลูกเรือทุกคนได้รับข้อมูลดังกล่าว ต่างช่วยกันสอดส่องดูแลและเดินเวรยามมากกว่าปกติอีกหนึ่งเท่าตัว สืบเนื่องจากเที่ยวบินดังกล่าวเป็นเที่ยวบินยามค่ำคืนและต้องทำการปิดไฟในห้องโดยสาร เวลาผ่านไปและไม่พบสิ่งพิรุธ ตราบจนกระทั่งถึงช่วงเวลาที่ให้บริการอาหารมื้อที่สอง ลูกเรือทุกคนต่างก็ให้บริการกันสุดพลัง จนกระทั่งผิงอันเดินเก็บแก้วที่ใช้แล้วจากห้องโดยสาร และเดินกลับมาที่ครัว
ภาพแรกที่ผิงอันพบคือ มีลูกเรือชายท่านนึงกำลังชุลมุนกับผู้โดยสารท่านนึงในห้องน้ำ ประตูมีการเปิดปิดเสียงดังอย่างรัวๆ วินาทีนั้นผิงอันคิดว่ามีผู้โดยสารเป็นลมในห้องน้ำ และแล้วจู่ๆก็มีการเหวี่ยงตัวผู้โดยสารออกมาจากห้องน้ำ และมีเสียงตามมาว่า " จับตัวไว้ "
ทันใดนั้นเองผิงอันได้เอื้อมแขนสองข้างโอบรัดชายผู้นั้นไว้จากด้านหลัง พร้อมทั้งจับข้อทั้งสองข้างของชายผู้นั้นไว้อย่างแน่น ชายคนดังกล่าวแสดงท่าทีขัดขืนแต่ด้วยขนาดร่างกายที่เล็กกว่าผิงอันจึงไม่สามารถดิ้นหลุดได้ ชายคนดังกล่าวได้พูดภาษาถิ่นออกมา เดชะบุญเป็นภาษาที่ผิงอันเข้าใจอย่างถ่องแท้
ทันใดนั้นเอง รุ่นพี่สจ๊วตที่เหวี่ยงตัวผู้โดยสารท่านนั้นออกมาก็ออกมาจากห้องน้ำ พร้อมกับเงินจำนวนนึงซึ่งค่อนข้างมาก แบ่งออกเป็นหลายสกุลเงิน พร้อมกับตะโกนและชูจำนวนเงินดังกล่าวและพูดว่า " ได้เงินแล้ว "
ผิงอันจึงหันไปสบตาหัวหน้าพนักงานพร้อมถามว่า " ให้ผมพูดได้เลยมั้ยครับ " เมื่อผิงอันได้รับอนุญาตให้พูดภาษาจีนได้ จึงเริ่มพูดภาษาจีนอย่างไฟแล่บใจความว่า
" ตอนนี้คุณถูกจับแล้ว เนื่องจากคุณขโมยเงินของผู้โดยสารอื่น กรุณาอยู่เฉยๆและอย่าขัดขืน หลังจากนี้เมื่อเครื่องลงจะมีเจ้าหน้าที่พาตัวคุณไปที่โรงพัก "
สิ้นสุดการสนทนาจากผิงอัน ผู้โดยสารชายท่านนั้นจึงมีสีหน้าซีดผาด คอก้มลงและพูดกับผิงอันว่า "
ผู้ต้องหา : เธอพูดจีนได้ยังไง
ผิงอัน : พ่อผมเป็นคนไต้หวัน ผมพูดภาษาจีนตั้งแต่เด็ก และหลังจากนี้ผมจะตามไปเป็นล่ามให้คุณ
-- ชายคนดังกล่าวได้สงบนิ่งและไม่มีท่าทีขัดขืนอีก ระหว่างนั้นหัวหน้าพนักงานได้ทำการขออนุญาตใช้ที่รัดข้อมือจากนักบินมเพื่อทำการจับกุมผู้โดยสาร --
-- ส่วนพนักงานท่านอื่นก็ตามเจ้าของเงินมาเพื่อสอบถามว่ามีอะไรสูญหายหรือไม่ เมื่อชายเจ้าของเงินเดินมาถึงก็แสดงท่าทีงุนงงว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อพนักงานได้อธิบายถึงเหตุการณ์ทั้งหมด ชายคนดังกล่าวก็ตกใจและรีบตรวจสอบสิ่งของมีค่า และพบว่าเงินในกระเป๋าเงินหายไป เมื่อพนักงานต้อนรับชายแสดงจำนวนเงินให้ ชายคนดังกล่าวก็สามารถแจ้งได้ว่าเงินในปึกใหญ่ปึกนั้นมีสกุลเงินอะไรบ้าง ทางพนักงานต้อนรับจึงคืนเงินให้ชายผู้เป็นเจ้าของ --
พนักงานต้อนรับได้ให้ผิงอันเริ่มทำการประกาศเป็นภาษาจีนใจความว่า " ขณะนี้ไดตรวจพบผู้ลักทรัพย์ในเที่ยวบิน ผู้โดยสารโปรดตรวจสอบสัมภาระและของมีค่าส่วนตัว " สิ้นสุดการประกาศดังกล่าว ลูกเรือก็เข้าเดินตรวจสอบโดยรอบมและสังเกตุได้ว่าสมาชิกขบวนดังกล่าวได้มีท่าทีรุกรี้รุกรนอย่างเห็นได้ชัด "
หลังจากนั้นเมื่อเครื่องบินลงถึงสุวรรณภูมิอย่างปลอดภัย ก็ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมารอรับชายผู้ต้องหาเพื่อดำเนินคดี พร้อมทั้งต้องกันพยานที่เห็นเหตุการณ์เพื่อให้ปากคำ
" พยานคนแรก " ( ผู้พบเห็น ) กล่าวว่า - ชายผู้ต้องหาเป็นผู้โดยสารที่นั่งอยู่บริเวณฝั่งขวาในชั้นธุรกิจ ซึ่งในระหว่างที่พยานกำลังจัดเก็บของอยู่ก็เหลือบไปเห็นชายผู้ต้องหามาเปิดกระเป๋าของผู้โดยสารฝั่งตรงข้าม ( ฝั่งซ้าย ) พยานคนแรกจึงเดินเข้าไปถามว่าต้องการอะไรมั้ย ทันใดนั้นเมื่อผู้ต้องหาถูกจับได้ จึงได้วิ่งไปห้องน้ำเพื่อทำลายหลักฐาน
" พยานคนที่สอง " ( ผู้จับกุม ) กล่าวว่า - ในขณะนั้นตนเองได้ยืนอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำพอดี ประจวบเหมาะกับชายผู้ต้องหาวิ่งมาด้วยความเร็วเพื่อเข้าห้องน้ำ พยานคนที่สองจึงถามว่ามีอะไรให้ช่วยหรือไม่ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงตะโดนจากพยานคนแรกว่าให้จับตัวไว้ พยานคนที่สองจึงรีบคว้าตัวผู้ต้องหาไว้
เหตุการณ์ในห้องน้ำเริ่มชุลมุน โดยที่ผู้ต้องหาพยายามนำสิ่งของบางอย่างในมือโยนลงชักโครกเพื่อกดปุ่มชำระทำลายหลักฐาน แต่ก็ทำการไม่สำเร็จจึงเปลี่ยนมาเป็นการทิ้งลงถังขยะ แต่ก็ไม่สามารถหลีกพ้นสายตาจากพนักงานได้
" พยานคนที่สาม " คือตัวผิงอันเอง เป็นผู้ประสานงานกับผู้ต้องหาโดยตรง โดยการเก็บข้อมูลการเดินทาง และขอยึดหนังสือเดินทางไว้กับหัวหน้าพนักงาน
คุณทราบหรือไม่ว่า : กระบวนการลักทรัพย์บนอากาศยานมีมาเป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะกลุ่มผู้โดยสารชาวจีนที่นิยมเดินทางเป็นกลุ่ม โดยเน้นจะเดินทางในเที่ยวบินในช่วงกลางคืน แต่จะนั่งกระจายตัวกันโดยที่จะนั่งบริเวณริมทางเดิน เพื่อสะดวกต่อการลักทรัพย์ มากไปกว่านั้นผู้โดยสารกลุ่มดังกล่าวจะเป็นผู้โดยสารที่จะมีการซื้อตั๋วเปลี่ยนเครื่องไปอีกเส้นทางนึงโดยทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุม
คำเตือน : ผู้โดยสารควรเก็บสิ่งของมีค่าไว้กับตัวเสมอ ไม่ควรนำเก็บไว้ในกระเป๋าเหนือศีรษะ
ปล. ณ เวลานี้เวลาผ่านไป 5 ชั่วโมงหลังจากเครื่องลง พยานทั้งสาม พร้อมทั้งหัวหน้าพนักงานยังคงอยู่สถานีตำรวจเพื่อให้ปากคำ และชี้จุดเกิดเหตุ

แฉวิธี ! ที่หัวขโมยใช้ ลักทรัพย์ ผู้โดยสาร โดยที่ไม่รู้ตัว


แฉวิธี ! ที่หัวขโมยใช้ ลักทรัพย์ ผู้โดยสาร โดยที่ไม่รู้ตัว


แฉวิธี ! ที่หัวขโมยใช้ ลักทรัพย์ ผู้โดยสาร โดยที่ไม่รู้ตัว

ขอบคุณเรื่องราวจาก FB เรื่องเล่าจากฟากฟ้า


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์