มันเป็นเช่นนั้นเอง...(หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ)

มันเป็นเช่นนั้นเอง...(หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ)


ชาวพุทธเราควรจะอยู่ด้วยความไม่เป็นทุกข์ในอะไร ๆ ที่เกิดขึ้น
ให้ทำใจให้เป็นสุขอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าส่งใดจะเกิดขึ้น ฝนจะตก ฟ้าจะร้อง
หรือว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในวิถีชีวิตของเรา เราก็จะไม่เป็นทุกข์ในเรื่องนั้น
เราจะใช้สติปัญญา เป็นเครื่องพิจารณา แล้วรู้จักปลง รู้จักวางในสิ่งนั้น ๆ
ไม่เข้าไปยึดถือด้วยความโง่ ด้วยความเขลา


เพราะถ้าเราเข้าไปยึดไปถือด้วยความโง่ความเขลา เราก็เป็นทุกข์
มันไม่ได้ประโยชน์อะไรแม้แต่น้อยที่นั่งเป็นทุกข์
แต่เป็นการลงโทษตัวเอง ลงโทษสุขภาพจิต สุขภาพกาย ทำให้จิตเสื่อม
ทำให้ร่างกายทรุดโทรม แก่เร็ว แล้วก็ตายเร็วด้วย
เพราะว่ามีความทุกข์มาก มีความกลุ้มใจมาก
ตัดทอนสุขภาพทั้งกายทั้งใจ ไม่เป็นเรื่องดีแม้แต่น้อย


ความทุกข์เป็นเหมือนน้ำร้อน เราคิดให้มันเป็นทุกข์
ก็เหมือนเอาน้ำร้อนมาราดตัว ตั้งแต่หัวถึงตีน
ถลอกปอกเปิกเป็นคนดำ ๆ ด่าง ๆ ไป
มันจะได้เรื่องอะไร เราไม่ควรจะคิดเช่นนั้น


เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นเฉพาะหน้าให้พยายามคิดว่า ดีแล้ว ... พอแล้ว
หรือ "เท่านี้ก็ดีถมไปแล้ว" อย่างนี้ใจก็สบาย
เช่น คนทำมาค้าขาย เป็นนักธุรกิจ ทำกิจการต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา
บางคราวมันก็ได้กำไร บางคราวก็ขาดทุน บางคราวก็พอเสมอตัว
ถ้าหากว่าจิตใจของเราตื่นเต้นอยู่กับิสิ่งเหล่านั้น
พอได้ก็ดีใจ เกิดใจฟูขึ้น พอไม่ได้ก็แฟบลงไป
ขึ้นแล้วก็ลงขึ้นแล้วก็ลงอยู่อย่างนี้
เหมือนกับวานรมันเต้นอยู่ในกรงของมัน ดิ้นรนอยู่ แต่ออกไม่ได้
มันเป็นสุขที่ตรงไหนในการที่จิตของเราเป็นอย่างนั้น
ไม่เป็นความสุขอะไรเลย


เราจึงควรจะทำความพอใจในสิ่งที่มันเกิดขึ้น
นึกว่า "ธรรมดา ... มันเป็นเช่นนั้นเอง"


คำนี้สำคัญมาก เรียกว่าเป็นคาถาวิเศษสำหรับเอาไปใช้ในชีวิตประจำวัน
คือคำว่า "ตถาตา" แปลว่า "มันเป็นเช่นนั้นเอง"


อะไร ๆ มันก็เป็นอย่างนั้นแหละ เราจะไปบังคับมันก็ไม่ได้ จะไปฝึนมันก็ไม่ได้
มันไม่ได้อยุ่ในอำนาจของเรา เราควรจะคิดว่า "เออ ! ธรรมดามันเป็นอย่างนี้"
เรานึกอย่างนี้ ก็พอปลง พอวาง สภาพจิตก็พอจะรู้เท่ารู้ทันในสิ่งนั้น ๆ
ความทุกข์ก็จะเบาไป คือ ไม่หนักอื้ง
เพราะเรารู้จักวาง รู้จักพักผ่อนทางใจ ใจก็สบาย...


ที่มา...ปาฏกถาธรรมของ ปัญญานันทะ ภิกขุ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์