บ่วงมาร

บ่วงมาร


บ่วงมาร
โดยพระมหาอุเทน ปัญญาปริทัตต์

ทุกคนกำลังก้าวเท้าเดินไปบนถนนของความไม่รู้ เมื่อถูกเมฆหมอกแห่งอวิชชาบดบัง กิเลสคือ โลภ โกรธ หลง ก็พร้อมแผ่คลุมให้ตกอยู่ใต้เงามืด กิเลสจะคอยชักไยความคิดให้ปรุงแต่งต่างๆนานา ก่อนออกมาสู่พฤติกรรมทาง กาย วาจา ใจ โลภ-รับเข้า โกรธ-ผลักออก หลง-มัวเมา สังเกตไหมว่าแต่ละวันเราแสดงพฤติกรรมไปตามอำนาจของมัน โลภกันกี่ครั้ง โกรธกันกี่หน หลงกันกี่รอบ โลภะมาพร้อมกับความทะยานอยาก มันเหมือนตุ่มรั่วที่เราตักน้ำเติมเท่าไหร่ไม่รู้จักเต็ม โทสะมาพร้อมกับความอาฆาตมาดร้าย มันเหมือนเพลิงไฟไม่เต็มด้วยเชื้อ โมหะมาพร้อมกับความลุ่มหลง มันเหมือนคนเมาไม่อิ่มด้วยสุรา

และกิเลสมันก็ฉลาดคอยปรบมือตบรางวัลโดยให้โลภะ-ยินดีพอใจ โทสะ-มันสะใจ โมหะ-เคลิบเคลิ้มคลั่งไคล้ วางบ่วงมารคือบ่วงแห่งความตายดักรอ หากเผลอสอดคอสวมจะถูกมันลากไปสู่แดนประหารลงดาบ บ่วงมารไม่ธรรมดาเสน่ห์มันแรง มารไม่ต้องเหนื่อยที่จะโยนบ่วงออกไปคล้อง คนทั้งหลายโดยเฉพาะคนโง่ก็พร้อมจะสอดคอสวม คล้ายๆโคสอดคอสวมแอกลากเกวียนไป ทว่าโคมันอยากปลดแอก แต่คนโง่นี่ซิไม่อยากปลดออกเลย

ลูกศรน้าวยิงปล่อยพร้อมจะแล่นทันใด บ่วงถูกเหวี่ยงโยนออกไปก็พร้อมจะคล้องทันที ลูกศรหลายชนิดบ่วงหลายอย่าง หากปักคล้องสิ่งใดแล้วยังพอถอนปลดแก้ออก แต่ลูกศรแห่งราคะบ่วงแห่งมารนี่สิมันปักอยู่ในใจคล้องอยู่กับจิต ลูกศรราคะแข็งแกร่งเสียบปักกระจายความรุ่มร้อน และบ่วงมารก็เกลียวฟั่นอย่างเหนียวแน่นมัดรัดตรึงอยู่ยากที่จะถอนปลดแก้ แต่หาใช่จะหมดหนทางเลยเสียทีเดียว ยังพอหาทางปลดถอนแก้กันได้ สำคัญอยู่ที่ว่าท่านต้องการปลดถอนแก้หรือเปล่า

หากยังติดใจความรุ่มร้อนจากลุกศรราคะ ชอบให้บ่วงมารรัดตรึง แม้พระพุทธองค์จะมาโปรดเทศนาสักเท่าไรก็คงช่วยไม่ได้ ลูกศรบ่วงมารขึ้นอยู่กับตัวเรานี่แหละและขึ้นอยู่กับใจโดยเฉพาะ ลูกศรราคะจะแข็งแกร่งขนาดไหน หากใจแข็งดุจเพชร ลูกศรมันก็เสียบปักไม่ได้ บ่วงมารจะเหนียวแน่นขนาดไหน หากใจไม่ยอมสวมสลัดออก มันก็คล้องมัดไม่ได้

เราหลงแล่นอยู่ในวิสัยมาร ถูกลูกศรราคะเสียบคาใจ แต่เราก็สามารถปลดเปลื้องตน ออกจากบ่วงมัจจุราชนั้นได้

ถึงหลงแล่นล่องเลี้ยวแรมกาล ตกสู่อำนาจมารมัดข้อง ศรรักปักดวงมานมาเนิ่นนานนา ฉันก็อาจปกป้องปลดเปลื้องบ่วงมารฯ

มือถือสิ่งของแม้สิ่งของนั้นไม่หนัก หากถือไปถือมามันก็หนักได้เหมือนกัน “การถือ” แม้เรื่องนั้นจะดี “ถือดี”ก็ยังไม่ดี การถือนั้นหนักต่างจากการวาง ซึ่งเบาและปลอดโปร่ง ทว่าคนเราชอบถือมากกว่าวางไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง วางแต่มือ อโหสิแต่ปาก แต่ใจยังถือโทษกันอยู่ บางเรื่องมันเกาะติดจนแกะไม่ออก อย่างไรก็ตาม จะถือเรื่องใดก็ไม่เท่ากับ “ถือตัว” เพราะไม่หนักเฉพาะคนถือ มันยังสร้างความหนักอกหนักใจให้แก่คนอื่น

ผู้ใหญ่ถือตัวย่อมสร้างความหนักอกหนักใจให้แก่ผู้น้อย การถือตัว “อัตตา” หากไม่ระมัดระวังมันจะกระโดดสวมขี่คอทันที เมื่อยศถาบรรดาศักดิ์ตำแหน่งหน้าที่การงาน เกียรติยศชื่อเสียงมาเยือนรู้สึกตัวมันพองขึ้น เราไม่ค่อยระวังอัตตาปล่อยให้มันเติบโต บรรยากาศเป็นกันเองอบอุ่นคุ้นเคยจึงไม่เกิดขึ้น ธงอะไรไม่น่ากลัวเท่าธงอัตตา ลองชักธงอัตตาขึ้นแล้วยากจะลดลง



                               ขอบคุณบทความจาก ธรรมจักรดอทเน็ต

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์