ไม่ไกล...แค่ใจเอื้อม

ไม่ไกล...แค่ใจเอื้อม


เมื่อใดที่ใจเราว้าวุ่นอยู่ด้วยสิ่งกระทบทั้งจากโลกภายนอก และ
จากความฟุ้งซ่านภายในใจของเรา ความทุกข์เร่าร้อนเกิดขึ้นเพราะ
เราตามไม่ทันความคิดนั่นเอง ความนึกคิดที่ปรุงแต่งไปโดยมีความ
คาดหวังเป็นเชื้อเพลิง เผาไหม้ให้โทษแก่เราเสมอ...

แต่เมื่อใดใจเราสงบระงับเสียจากความฟุ้งซ่าน อันปรุงแต่งไปทั้ง
อดีตและอนาคต ทั้งเรื่องที่ชอบและที่ชัง ใจเราก็จะว่างเว้นจากการ
พเนจรไปตามอารมณ์น้อยใหญ่ เมื่อนั้นจิตใจเราก็จะว่าง และปล่อย
วางจากกระแสความคิดอันสับสน ไปอยู่ในสภาพอันสงบเย็นเป็นสุข
ณ ที่นั้น มีความคิดความเห็นอันถูกอันควรทุกอย่างบรรจุอยู่ในจิตที่
สงบ...

'ความสงบ' เป็นของใกล้ตัว แต่เรามักมองข้ามคุณค่าไปโดยการ
ปล่อยใจให้เกาะกุมอยู่กับสิ่งกระทบ แล้วครุ่นคิดไปตามสิ่งเหล่านั้น
อย่างหยุดยั้งไม่อยู่ จนเกิดอารมณ์หวั่นไหว ดุจผิวน้ำใสที่ไกวกระ-
ฉอก มิหนำซ้ำเรายังชอบทำลายความสงบของจิตใจเสียบ่อยๆด้วย
การสร้างภาพ เสียง และข่าวสารขึ้นมามากมายในยุคเทคโนโลยี
แห่งโลกาภิวัตน์อันมากเกินพอสำหรับความจำเป็นพื้นฐานหรือปัจจัย4

มลภาวะทางตา ทางหู และทางอารมณ์เหล่านี้จองจำเราไว้ มิให้ว่าง
เว้นเลย จากการปรุงแต่งเป็นความสุขความทุกข์ ความรักความชัง
ความดึงดูดและผลักดันอย่างน่าเหน็ดเหนื่อยยิ่งนัก

ขณะอยู่กับธรรมชาติที่เงียบสงบ เราบางคนอาจรู้สึกว่ามันหงอยเหงา
เปล่าประโยชน์ ต้องหาอะไรมาทำ มาอ่าน มาดู มาฟัง ต้องหาการละ
เล่นมาฆ่าเวลา หรือหาความอึกทึกครึกโครมมาแก้เหงา เราจึงไม่เคย
เปิดโอกาสให้จิคได้พักผ่อนอยู่กับบ้านที่แท้จริงคือ...'ความสงบ' อันเป็น
บ่อเกิดแห่งพลังใจ ซึ่งช่วยจุดประกายสติสัมปชัญญะ ให้เราเฝ้ามองและ
เข้าใจตนเอง ถึงความเป็นไปที่กำลังดำเนินอยู่ในจิต และความต้องการ
อันแท้จริงของชีวิต...

มารู้ตัวแทบทุกครั้ง ก็เมื่อถูกความทุกข์หยั่งเอาแล้ว ดีใจ เสียใจ ลิงโลด
โกรธ รัก ริษยา และบางทีก็เผลอเอ่ยวาจาหรือกระทำสิ่งอันไม่เหมาะควร
ไปเสร็จ อันมรแต่นำพาชีวิตของเราให้ร้อนรุ่ม ยุ่งเหยิงยิ่งกว่าเก่า...

ดูเหมือนว่าเราชอบลงทุนแสวงหาสิ่งภายนอกมาย่ำยีวิหารแห่งความสงบ
และดวงปัญญาในใจของเราเอง...
ทุกแห่งหน แม้ในชนบทที่แสนสงบ ผู้คนยังทำลายความสงบไปโดยไม่รู้
ตัว ไม่ว่าจะเป็นยวดยานพาหนะที่แผดเสียงราวระบายความคับแค้นใจ
ดนตรีที่แข็งกันกระหึ่มราวจะกลบเสียงแห่งความทุกข์ ความแตกตื่นในสิน
ค้า ข้อมูลและข่าวสารจากทุกมุมโลก ที่คอยปิดบังความรู้สึกอ่อนโยนและ
จริงใจที่พึงมีต่อตนเอง

เรายินดีหามันมาบรรจุไว้ในใจจนเต็มแน่นทุกวันๆ ไม่เหลือที่เลยให้..'สติ'
ได้เกิด ให้..'ความสงบ'ได้กล่อม และให้..'ปัญญา'ได้ชโลมชีวิตนำทางเรา
ไปสู่ความสุขอันสงบเย็น ปราศจากความเร่าร้อนดิ้นรน...

หากเรารู้จักศิลปะของการทำใจให้เป็นอิสระ แม้เพียงครู่สั้นๆ อาจด้วยการ
หลีกห่างจากสถานที่อันระงมไปด้วยสิ่งเร้า ไปสู่เขตคามที่มีความทะยาน
อยากน้อย หรือการเจริญสติไว้ในสมาธิ โดยวิธีหนึ่งวิธีใดที่เหมาะกับจริต
เรา ตามครรลองที่ถูกต้อง เราก็จะได้กลับไปพบกับรสชาตแห่งความสงบ
ที่เราจากลามานาน หรือไม่เคยพบเห็นเลย เกิดความรู้เท่าทันความนึกคิด
ของตนเอง และเกิดความเข้าใจในสภาวะธรรมต่างๆตามความเป็นจริง อัน
ล้วนทำให้ชีวิตเราหมุนไปในทางที่ดีขึ้น และเบาบางจากความหลง นับเป็น
รางวัลชีวิตที่ตอบแทนเราอย่างคุ้มค่าและประณีตยิ่งกว่าการปล่อยใจให้กระ
เจิงไปกับอารมณ์ตามโลกภายนอกจากที่เราคลั่งไคล้ มัวเมา...ฯ

นตฺถิ สนฺติปรํ สุขํ
สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบเป็นไม่มี...
~ขอนอบน้อมแด่คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์~

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์