สีผิวของใจ

สีผิวของใจ


ในโลกมีคนหลายสีผิว และสีผิว หรือวรรณะนี้เองที่ทำให้คนบางกลุ่มตั้งข้อเดียดฉันท์ผู้อื่นหากมีสีผิวต่างไปจากตนหากพระพุทธองค์ทรงแบ่งคนที่ผิวสีใจ สีของผิวใจนี้สำคัญกว่าสีผิวกาย โดยสมเด็จพระญาณสังวรได้รจนาไว้ดังนี้

" พระพุทธองค์ได้ทรงแบ่งบุคคลในโลกออกเป็น ๖ จำพวกตามสีผิวของใจ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดให้เขียนเป็นภาพอธิบายความหมายไว้ที่ต้นเสาในพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหารดังนี้

๑. กัณหาภิชาติ ชาติคนดำ คือคนใจหยาบช้าทารุณ เช่น พรานใจบาปต่างๆ ( ตลอดถึงล่า ฆ่าสัตว์เล่นเป็นสนุก )

๒. นีลาภิชาติ ชาติคนเขียว คือคนที่มีใจประกอบด้วยยุติธรรมมากขึ้น เช่น พิจารณาก่อนจึงนำตัวไปลงโทษ

๓. โลหิตาภิชาติ ชาติคนสีเลือด คือคนที่มีจิตใจสูงขึ้น ใฝ่หาศาสนาที่ถูกต้อง เหมือนดังกษัตริย์ พราหมณ์ พ่อค้า คนรับใช้ กำลังเดินทางไปเฝ้าพระพุทธเจ้า

๔. หลิททาภิชาติ ชาติคนเหลือง คือคนที่มีจิตใจบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น เช่น ผู้มีศีลธรรม เปรียบเหมือนอย่างคนนุ่งขาวห่มขาว หรืออุบาสกอุบาสิกา

๕. สุกกาภิชาติ ชาติคนขาว คือคนที่มุ่งปฏิบัติให้ละเอียดยิ่งขึ้นกว่าคฤหัสถ์ เหมือนอย่างพระภิกษุสงฆ์ ฤาษี หรือนักบวชผู้ปฏิบัติชอบทั่วไป

๖. ปรมสุกกาภิชาติ ชาติคนขาวอย่างยิ่ง คือท่านผู้บริสุทธิ์ทั้งหมด ได้แก่ พระพุทธเจ้า และพระอรหันต์ทั้งหลาย

รวมทั้ง ฉฬาภิชาติ อภิชาต ๖ ย่นลงเป็น ๓ คือ

๑. กัณหะ คนดำ ได้แก่คนชั่วโดยส่วนเดียว

๒. กัณหสุกกะ คนดำๆขาวๆ ได้แก่คนทำชั่วบ้างดีบ้าง

๓. สุกกะ คนขาว ได้แก่ คนที่บริสุทธิ์ส่วนเดียว

คนสามัญทั่วไปอยู่ในประเภท ๒ แต่บางคนขาวแล้วค่อยๆดำ เป็นคนต้นตรงปลายคด บางคนดำแล้วค่อยๆขาว เป็นคนต้นคดปลายตรง พระพุทธเจ้าได้ทรงอบรมพระบารมีสูงขึ้นโดยลำดับ จึงได้ทรงเปลี่ยนผิวของใจให้สูงขึ้น จนถึงขาวอย่างยิ่ง จะเรียกว่าลอกผิวออกหมดก็ได้ เพราะว่าขาวอย่างยิ่งนั้น ไม่ควรนับว่าเป็นสีอะไร "



ที่มา

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลสังฆปรินายก สิริมงคลของชีวิต สำนักพิมพ์อมรินทร์ ๖๕/๑๖ ถนนชัยพฤกษ์ ตลิ่งชันกรุงเทพ พิมพ์ครั้งที่ ๕ พ.ศ. ๒๕๕๐

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์