ยาจกไปสวรรค์(ธรรมชาดก)

ยาจกไปสวรรค์(ธรรมชาดก)


"บุคคลใด มีศรัธาตั้งมั่นไม่หวั่นไหวในพระตถรคต มีศีลงามที่
พระอริยเจ้าพอใจ สรรเสริญ มีความเลื่อมใสในพระสงฆ์ และมี
ความเห็นตรง บัณฑิตทั้งหลาย เรียกบุคคลนั้นว่า เป็นคนไม่ขัด
สน ชีวิตของเขาไม่เป็นหมันเปล่าไม่ไร้ประโยชน์ เพราะเหตุนั้น
บุคคลผู้มีปัญญา เมื่อระลึกนึกถึงคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้ง
หลาย พึงประกอบเนืองๆ ซึ่งศรัทธา ศีล ความเลื่อมใส และ
ความเห็นธรรมให้เนืองๆเถิด"
(ทฬิทสูตร ๑๕/๓๒๓)

******
พระพุทธพจน์ข้างต้นนี้ พระพุทธองค์ได้ตรัสถึงคนกำพร้าและคน
ยากจนทรัพย์มากคนหนึ่ง แต่เขายึดมั่นในศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ
และปัญญา ในพระธรรมวินัยของพระตถาคตที่ประกาศแล้ว

ครั้นเมื่อเขาตายไป ก็ได้ไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เป็นเทพ
บุตรที่มีรัศมี และรุ่งเรืองกว่าเทวดาเหล่าอื่นๆเป็นอันมาก เลยเป็น
เหตุให้พวกเทพต่างๆพากันสงสัยยิ่งนัก ว่าเหตุใดคนยากจนไม่มี
การให้ทาน จึงมาเกิดในสวรรค์ และมีรัศมีมากกว่าตนได้?

เรื่องนี้ นับว่าเป็นเรื่องที่หวือหวามากในยุคนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ก็ในหมู่เทวดาต่างๆในชั้นเดียวกัน เพราะส่วนมาก ผู้ที่มาเกิดในสวรรค์
ชั้นนี้ ล้วนแต่ประกอบการบุญด้านวัตถุ

แต่เทพบุตรองค์นี้ เมื่ออยู่ในมนุษย์เป็นคนยากจนแสนเข็ญ แต่ตาย
แล้วยังมาเกิดในสวรรค์ได้ และมีรัศมียิ่งกว่าพวกเขาเสียอีก เรื่อง
เลยต้องร้อนไปถึงท้าวสักกะจอมเทพ ท่านต้องออกแถลงการณ์ด่วน
เพื่อระงับข้อกังขาของเทวดาว่า

"ท่านผู้นิรทุกข์ทั้งหลาย! ท่านทั้งหลายอย่าได้โทษต่อเทพบุตรนี้เลย
เทพบุตรนี้แล เมื่อยังเป็นมนุษย์อยู่ในกาลก่อน เป็นผู้ยึดมั่นศรัทธา
ศีล สุตะ จาคะ และปัญญา ในธรรมวินัยที่พระตถาคตทรงประกาศ
แล้ว ครั้นเมื่อตายลง จึงได้อุบัติยังสุคติโลกสวรรค์ คือ ความเป็น
สหายของเทวดาชั้นดาวดึงส์ ย่อมรุ่งเรืองล่วงเทวดาเหล่าอื่นด้วย
รัศมีและยศ"

พระธรรมบทนี้ เป็นเครื่องยืนยันว่า แม้คนที่ยากจน ไม่มีทรัพย์สิน
เงินทองข้าวของต่างๆจะบริจาคทาน แต่ถ้าตั้งมั่นอยู่ในศรัทธาและ
ความเชื่ออย่างมั่นคงในพระรัตนตรัย มั่นคงในคำสอนของพระพุทธ
เจ้า ไม่โยกคลอน มีศีลดีงาม (ศีลที่พระอริยเจ้าพอใจ)หมั่นฟังธรรม
มีความเลื่อมใสในพระสงฆ์(ที่ดี) มีความเห็นตรงต่อธรรม สวรรค์
ก็ย่อมจะเปิดประตูรออยู่แล้ว...ฯ

~ขอนอบน้อมแด่คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์~

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์