สนทนาธรรมตามกาล

สนทนาธรรมตามกาล


คำว่า...'สนทนา'...หมายถึง การพูดคุยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดย
ต่างคนต่างก็นำเอาเรื่องราวต่างๆที่แต่ละคนได้เห็น หรือได้ฟังหรือ
ได้ทราบ มาเล่าสู่กันฟัง เป็นการเฉลี่ยความรู้ในเรื่องเช่นนี้แก่กันและ
กัน ช่วยให้เกิดประโยชน์แก่กัน โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นความรู้ ที่ส่ง
เสริมให้เกิดปัญญา การพูดจาสนทนากันในเรื่่องเช่นนี้ ก็เป็นสิ่งที่ก่อ
ให้เกิดประโยชน์อันจักนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคลของชีวิต

ตามธรรมชาติของคนเรานั้น เรามีปากไว้สำหรับพูดจาสนทนากัน
บางคนแทนที่จะใช้ปากของตนทำประโยชน์ให้กับตน กลับไปใช้ใน
ทางที่ก่อให้เกิดโทษ คือไม่ใช้ในทางดี แต่กลับไปใช้ในทางเสีย คือ
เป็นชนวนก่อให้เกิดทุกข์ โทษภัยแก่ตนเองในภายหลัง เช่นพูดนินทา
กล่าวร้ายผู้อื่น พูดตลกคะนองชวนให้หมองหมางใจ หรือพูดเพ้อเจ้อ
เหลวไหลไร้สาระ พูดหยาบคาย ตลอดจนพูดปด

ซึ่งการพูดคุยสนทนากันทำนองนี้ เป็นการพูดคุยสนทนาที่ไม่เป็น
มงคลแต่ประการใดสำหรับผู้ที่ร่วมวงสนทนาเลย เพราะก่อให้เกิด
การทะเลาะวิวาทบาดหมางน้ำใจกัน เป็นชนวนก่อให้เกิดความแตก
สามัคคี รักใคร่ปรองดองซึ่งกันและกัน เพราะฉะนั้นพระพุทธองค์
จึงได้ทรงจำกัดการสนทนาที่เป็นมงคลไว้เฉพาะ ว่าต้องเป็นการ...
'สนทนาในเรื่องธรรม'...คือ แม้จะเป็นเรื่องของโลก ก็จักต้องเป็น
เรื่องจริง เรื่องถูกต้องเท่านั้น

สำหรับคำตรัสสอนที่ว่า..."สนทนาธรรมตามกาล"...
กาล...คือ เวลา คือหมายความว่า มีการกำหนดนัดหมาย มีการ
ประชุมฟังธรรมกัน ผู้ที่มาประชุมนั้น ผู้ใดมีความสงสัยในธรรมข้อ
ใด ก็จะได้มีโอกาสซักถาม ตอบโต้กันในที่ประชุมสนทนาธรรม
ผู้ใดมีความเห็นอย่างใด ก็แสดงออกไปให้ผู้อื่นฟังด้วย ต่างคนต่าง
ก็พิจารณาเหตุผลในข้อธรรมนั้นๆ ผู้ที่เห็นด้วยก็สนับสนุนรับรอง ผู้
ที่ไม่เห็นด้วยก็แสดงเหตุผลคัดค้าน จนกว่าจะได้้หตุผลแจ่มแจ้งชัด
เจน ได้รับความเห็นชอบทั่วกัน แล้วยึดถือเป็นหลักปฏิบัติ

ฉะนั้น...การสนทนาธรรมในโอกาสที่จะสนทนากันได้นี้ นอกจากจะ
เป็นการเพิ่มความรู้ความเข้าใจ ให้แก่ผู้ที่ยังไม่รู้ไม่เข้าใจแล้ว ยัง
เป็นการทบทวนความรู้ความเข้าใจของผู้ที่รู้แล้วให้รู้ดี รู้ถูกต้องยิ่งขึ้น
ผู้ที่ได้ปฏิบัติเช่นนี้ ย่อมเป็นผู้ที่มีความทรงจำดี ไม่เลอะเลือนในวิชา
การที่ตนได้เล่าเรียนมาแล้ว เพราะมีการทบทวนสอบถามกันอยู่เสมอ
ดังนั้น ผู้ที่หมั่นประชุมสนทนาธรรมกัน จึงมีผลให้ได้รับความแตกฉาน
แม่นยำในวิชาการที่ตนสนใจยิ่งขึ้น และนี่เองที่ช่วยให้ความสำเร็จของ
ชีวิตบังเกิดมีขึ้นได้ อันเป็นผลก่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง
ต่อไป...ฯ

~สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก~
ขอนอบน้อมแด่คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์