~ทานน้ำใจ~ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม)

~ทานน้ำใจ~ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม)


การได้มาบำเพ็ญทานโดยเสียสละเวลา เสียสละกิจการงานของท่านมา
บำเพ็ญกุศลในวันธรรมสวนะนี้ เป็นทานอันสำคัญที่ทำได้ยาก

นี่แหละทานอันนี้ไม่มีใครทราบ ไม่มีใครตัดปลิโพธได้ ไม่มีใครตัดกังวล
ได้ จึงมาไม่ได้ อ้างว่าที่บ้านยุ่ง ลูกทำให้ยุ่ง สามีทำให้ยุ่ง ภรรยาทำให้
ยุ่ง เลยเสียสละทานนี้ไม่ได้ จึงหมดโอกาสที่จะมาสร้างความดีให้กับตัว
เอง
บางคนบอกว่ารอให้รวยก่อนแล้วถึงจะมาปฏิบัติสร้างความดี ท่านจะรอ
รวยเมื่อไร สร้างความดีนั้นนะรวยแน่ๆ สร้างกุศล เจริญพระกรรมฐาน
รวยแน่ๆ รวยทรัพย์ รวยคุณสมบัติ รวยชื่อเสียง รวยความรัก มีแต่
เมตตาปรานีกัน เมตตาอุปถัมภ์โลก ให้โลกอยู่เย็นเป็นสุข

คนเราเสียสละทานข้อนี้ไม่ได้ เข้าใจทานของพระพุทธเจ้าผิดเข้าใจว่าทาน
คือ เอาสตางค์ออกมาทำบุญ เอาสตางค์ใส่บาตรพระ นั้นเป็นทานประเภท
สอง ข้อนี้โปรดฟังอาตมาไปคิดกัน

ท่านสาธุชนทั้งหลายโปรดคิดโดยทั่วหน้ากัน ข้อนี้ไม่มีใครคิดเลยนะ ผัด
วันประกันพรุ่ง คนมาวัดอัมพวันผัดทั้งนั้น
อาตมาบอก..."โยมมาเถอะนะ ตัดกังวลมา มาเจริญพระกรรมฐานสัก ๗
วัน ๑๕ วัน"...
"โอ้ย! ไม่มีเวลา"
สร้างความดีไม่มีเวลา แต่สร้างความชั่วมีเวลามากมาย สร้างหนี้สิน สร้าง
หนี้บุญคุณคนมีเวลามาก แต่จะใช้หนี้ไม่มีเวลาเลยหรือ?

การมาเจริญพระกรรมฐานเป็นการใช้หนี้กรรม ที่เราทำไว้เมื่อชาติก่อน เป็น
การอโหสิกรรม และเป็นการใช้บุญคุญคนตั้งแต่ครั้งอดีตมา จะรำลึกถึงบุพ-
การีได้ จะนึกถึงบุญคุณคนขึ้นมา นี่ข้อนี้อย่าผัด
นับว่าเป็นโชคดีของท่านสาธุชน โชคดีที่ท่านเสียสละทางบ้านมาได้ตัดปลิ-
โพธกังวล ไม่ห่วงลูกห่วงหลาน ห่วงครอบครัวแต่ประการใด นี่แหละช่วย
ตัวเองแล้ว ช่วยตัวเองได้หมื่นเปอร์เซ็นต์

ข้อแรกได้มี...'ทานน้ำใจ' เสียสละเวลามีค่ามาก อยู่ที่บ้านก็ต้องประกอบ
อาชีพการงาน แต่เอาเวลาประกอบอาชีพการงานได้เงินได้ทองทรัพย์ภาย
นอก เอามาเป็นทรัพย์ภายใน เสียสละมาสร้างบุญ สร้างกุศล เป็นประเภท
หนึ่ง เป็นการหาที่พึ่งให้แก่ตัวเอง หากุศลให้แก่ตัวเอง นี่แหละ..'บุญประ-
เภทหนึ่ง' เป็นทานน้ำใจ ทานสำหรับผู้มีบุญวาสนาเท่านั้น

คนที่ไร้บุญขาดวาสนาจะมาไม่ได้แน่ จะทิ้งบ้านมาไม่ได้ ตัดปลิโพธกังวล
ไม่ได้ มีแต่วุ่นวายในบ้านของตน แก้ปัญหาไม่ได้เลย คนอาภัพวาสนา คน
อับเฉาอับจน จึงมาสร้างกุศลกับเขาไม่ได่
คนที่มาสร้างบุญสร้างกุศล มาเจริญวิปัสสนากรรมฐานเป็นการสร้างตนเอง
เป็นการพึ่งตนเอง และเป็นการช่วยเหลือจิตใจตนเอง ให้เกิดผลงอกงาม
ไพบูลย์ ทำให้จิตชื่นบาน ทำให้จิตหรรษาในกุศลบุญของตน

นี่แหละท่่านสาธุชน วันนี้โชคดีของท่าน เป็นวันของท่านแล้ว วันพรุ่งนี้
ไม่แน่ว่าจะเป็นของท่านหรือเปล่า ท่านอาจจะตายคืนนี้ก็ได้ เดือนนี้เป็น
ของท่านแล้วเดือนหน้ามิใช่ ปีนี้เป็นปีของท่านแล้ว ปีหน้าไม่ใช่
ไม่ใช่ว่าคนอื่นทำให้เราได้ พ่อแม่ก็ช่วยเราได้เท่านี้เอง จะช่วยเอาบุญ
มายัดเยียดให้ก็คงไม่ได้

เพราะพ่อแม่ก็อยากให้ลูกมีความสุข แต่ลูกมีความทุกข์ ไหนเลยพ่อแม่
จะช่วยลูกให้ถึงเหตุดับทุกข์ ให้เกิดความสุขได้ เพราะฉะนั้นเราท่านทั้ง
หลายต้องช่วยตัวเอง
'ช่วยตัวเองทำอย่างไร?'....ช่วยตัวเองก็มาเจริญกุศล สร้างบุญไว้ในใจ
สร้างจิตใจให้สบาย ทำใจให้เป็นสุข ปราศจากทุกข์ ทำใจให้ผ่องแผ้ว
ทำใจให้บริสุทธิ์ ตรงนี้ซิท่านช่วยตัวของท่านได้เอง

ท่านจะเกิดความสุข มีความสนุกในการทำงาน ในครอบครัวของตนท่าน
จะมีความสุข ท่านจะไม่ทะเลาะวิวาทกันระหว่างสามีภรรยา แล้วลูกก็จะดี
มีปัญญาทุกคน นี่แหละพระพุทธเจ้าทรงแนะแนวอย่างนี้
เราสร้างบุญไว้ในใจ ด้วยการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน แล้วท่านจะเรียบ-
ร้อยเอง ท่านจะเป็นผู้ดีเต็มขั้น มีกุศลส่งผลให้ท่านเป็นสุขในอนาคต เป็น
การช่วยตัวเอง เป็นการพึ่งตนเอง...'อัตตาหิ อัตตาโนนาโถ' โดยแท้

การสร้างบุญกุศลเช่นนี้น่ะ เพื่อต้องการมาฝึกให้อดทนต้องการจะมาเพิ่ม
บารมีของตน สร้างกุศลไว้ในใจ แล้วกุศลจะได้ช่วย
รับรองรวยทุกคน รับรองรวยน้ำใจ จิตใจรวยแล้ว อย่างอื่นก็รวยตามมา
ทำอะไรก็งอกงาม ทำนาก็ได้ข้าว ค้าขายก็ได้กำไร รับราชการก็มีตำแหน่ง
คนนั้นจะมีเงินไหลนองทองไหลมา นี่แหละทานเบื้องต้น ที่ท่านเสียสละมา
เป็นทานอันสำคัญที่ใครเสียสละได้ยาก

ถ้าพ่อแม่เจริญวิปัสสนา รับรองลูกจะเป็นคนดีมีปัญญา จะไม่ว่านอนสอน
ยาก ลูกจะไม่หัวดื้อหัวรั้นแต่ประการใด
นี่แหละต้องสร้างบุญประเภทหนึ่งเอาไว้ในใจ แล้วก็ปฏิบัติพระกรรมฐาน
อย่างนี้ การปฏิบัติไม่ใช่มาเล่นกันนะ อย่าให้เวลาหมดไปโดยใช่เหตุ เป็น
ที่น่าเสียดายมาก

ท่านเป็นผู้มีบุญ เสียสละเวลามาสร้างบุญกุศลให้แก่ตัวเองได้ โยมถึง
ธรรมะ คือสมาธิภาวนาแล้ว มีทั้งศีล สมาธิ ปัญญาแล้ว โยมก็มีทาน
ชั้นสูง สามารถเสียสละความชั่ว ออกจากตัวได้ สามารถจะ...'ละทิฏฐิ'
อันเป็นทุนเดิม คือ..'สันดาน' ออกจากตัวได้ทันที จะไม่มีอัปรีย์จัญไร
ต่อไป นี่คือบุญกุศลที่เป็นทานที่จะกำจัดความชั่วออกจากตัวได้
ขอความสุขสวัสดีจงมีแก่ผู้ปฏิบัติธรรม ขอทุกท่านจงงอกงามไพบูลย์
ในกิจพระศาสนา ตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดย
ทั่วหน้ากัน...ฯ

~ขอนอบน้อมแด่คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์~

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์