ความกล้าหาญทางจริยธรรม 2

ความกล้าหาญทางจริยธรรม 2



แต่หากจะถามว่า ความกล้าหาญทางจริยธรรมคืออะไร คำตอบก็คือ


หนึ่ง ความรักในความเป็นธรรม ความถูกต้อง และความจริง

สอง ความกล้าที่จะจักยืนทำในสิ่งที่ถูกต้องและดีงาม
รวมถึงเข้าใจโลกและชีวิตอีกด้วย

สิ่งนี้คือความหมายที่แท้ของความกล้าหาญทางจริยธรรม
และเราจะสามารถสร้างความกล้าหาญทางจริยธรรม
ที่ทำให้คนองอาจกล้าหาญในการที่จะทำเพื่อประชาชน
หรือทำเพื่อเพื่อนมนุษยชาติได้อย่างไรนั้น

"พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี" ได้ยกตัวอย่าง
ผู้ที่มีความกล้าหาญทางจริยธรรม เช่น "สุทธิชัย หยุ่น" มาให้ฟังว่า...

สุทธิชัย หยุ่น เป็นสื่อมวลชนที่เรียกร้องหาสิทธิ
และเสรีภาพของสื่อมาโดยตลอด
ในช่วงที่เขาไปทำงานเป็นเพียงแค่
ผู้ช่วยบรรณาธิการให้หนังสือพิมพ์แห่งหนึ่ง

ก็มีข่าวว่าลูกชายนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่งไปพังศาลาริมทาง
แล้วยังไปปัสสาวะรดอีกด้วย
ซึ่งเหตุดังกล่าวนักข่าวรู้กันหมดแต่ไม่มีฉบับไหนกล้าลงแม้แต่ฉบับเดียว
คุณสุทธิชัยนั้นก็เชื่อมั่นว่าสื่อจะต้องมีเสรีภาพ
ถ้าสื่อไม่มีเสรีภาพจะเป็นสื่อไปทำไม
จึงไปขอภาพ นักข่าวมาลง โดยแอบลงไม่ให้บรรณาธิการทราบ

เหตุการณ์กลับตาลปัตร เมื่อวันรุ่งขึ้นพบว่า
นายกรัฐมนตรีท่านนั้นเรียกลูกชายไปตักเตือน
ที่ดีกว่านั้นคือ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เขียนชมข่าวชิ้นนี้
และนับตั้งแต่ วันนั้น คำว่า สุทธิชัย หยุ่น
จึงกลายเป็นชื่อนักข่าวคุณภาพเป็นต้นมา

"นี่คือความกล้าหาญทางจริยธรรมที่แท้จริง
แต่คนที่มีความกล้าหาญทางจริยธรรมอย่างนี้นั้น
จะต้องมีความระมัดระวังเช่นกัน

เพราะเมื่อเราลุกขึ้นมาเรียกร้องความกล้าหาญทางจริยธรรมแล้วได้รับความสำเร็จ
หยัดยืนลุกขึ้นมาแสดงความกล้าหาญทางจริยธรรมที่ถูก ที่ควร
เราอาจจะเป็นโรคเสพย์ติดจริยธรรมได้

คือจะทำตัวเป็นทั้งมโนธรรม คือเป็นศาลเตี้ย
อันนั้นไม่ดี อันนี้ไม่ได้ ที่ฉันว่าดีจึงดี ที่ฉันว่าใช่คือใช่
เริ่มไม่ฟังใคร จนบางครั้งเผลอตัวคิดว่าฉันเป็นสถาบันบุคคล"


ทำให้ในเวลาต่อมา
จะเริ่มทำตัวเป็นไม้บรรทัดวัดไปเสียทุกคนและทุกเรื่อง
คนไหนหรือเรื่องไหนที่ไม่ตรงกับไม้บรรทัดของตนเองนั้น
ก็จะผลักเขาไปอีกข้างหนึ่งแล้วบอกว่าคนเหล่านั้นเป็นคนไม่ดี ไม่มีจริยธรรม
เราจะกลายเป็นมโนธรรม ของสังคมในลักษณะแบบเผด็จการ


สิ่งเหล่านี้จะเป็นภัยให้กับตนเอง
เพราะคุณขาดความเข้าใจในโลกและชีวิต
ถ้าคุณไม่เข้าใจในโลกและชีวิต ไม่รู้จัก อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
วันหนึ่งคุณจะกลายเป็นคนที่มีความกล้าหาญทางจริยธรรมที่แข็งกล้า

และที่หนักกว่านั้น คุณอาจจะกลายเป็นผู้นำทางการเมือง
ที่ทำให้ บ้านเมืองไม่สงบสุขสักเท่าไหร่
เพราะคุณผูกขาดความมีจริยธรรมใหม่
และเชื่อมั่นว่าจริยธรรมของฉันเท่านั้นถูกที่สุด

"มนุษย์เรานั้นพอเชื่อมั่นว่าตัวเองถูกที่สุดแล้วทำร้ายใครก็ได้ในโลกนี้
เพราะ เขาจะถือว่าเขาผู้นั้นเป็นฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับจริยธรรม
ก็คือฝ่ายอธรรมนั่นเอง และจะถือว่าฉันคือธรรมะ

เพราะฉะนั้นพฤติกรรมที่ฉันทำทั้งหมดจึงถูกต้อง
นี่คืออันตรายของคนที่มีความกล้าหาญทางจริยธรรม
ที่จะต้องเรียนรู้เอาไว้ให้เท่าทัน
มิเช่นนั้นคนที่มีความกล้าหาญทางจริยธรรมนั่นเอง
จะเป็นผู้ที่ประพฤติร้ายต่อจริยธรรมของสังคมอย่างน่าเป็นห่วง"


ในทางกลับกัน หากผู้ที่มีความกล้าหาญทางจริยธรรม
มีการศึกษาธรรมะควบคู่กันไป
แทนที่เขาจะทำตัวเป็นมโนธรรม เป็นไม้บรรทัดของสังคม
เขาจะปรับตัวใหม่ กลายเป็นมโนธรรมของสังคม
เป็นเสียงแห่งสติของสังคม

มีหน้าที่คอยติงและคอยเตือน แต่ไม่ใช่ตำหนิ
และเขาจะไม่ใช่ไม้บรรทัดของสังคมอีกต่อไป
หากแต่จะยังเป็นเข็มทิศที่เที่ยงธรรมของสังคม
วางตนเป็นแบบอย่างให้สังคมเห็นว่า
ธรรมเป็นเช่นนี้ และอธรรมเป็นเช่นนี้


เหมือนดังที่ กุหลาบ สายประดิษฐ์
นักหนังสือพิมพ์ผู้ยิ่งใหญ่ ได้เขียนเอาไว้ว่า

ก่อนพายุก็ดี ขณะที่พายุกำลังโหมกระหน่ำก็ดี
หลังพายุก็ดี เรายืนอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่ต้น
และเราไม่ได้ไปไหน เราอยู่ตรงนั้น มาโดยตลอด

นั่นคือเขาจะทำตัวเป็น เข็มทิศทางจริยธรรม
ไม่หนักไปในทางคุกคามคนอื่น
ให้สมาทานทางจริยธรรมของตนเองเบี่ยงเบนไป
ด้วยวิธีนี้จริยธรรมของเขาจึงเป็นจริยธรรมที่ทุกฝ่ายรับได้
ไม่ใช่จริยธรรมที่มาพร้อมกับความกลัวอีกต่อไป


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์