มนตราแห่งรักและสันติ

มนตราแห่งรักและสันติ


มนตราแห่งรักและสันติ

ธรรมบรรยายโดย ท่านติช นัท ฮันห์


มนตราข้อที่สอง คือ "ที่รัก ฉันรู้ว่าเธออยู่ที่นั่นและฉันมีความสุขมาก"
มนตราข้อแรกกล่าวว่า "ที่รัก ฉันอยู่ที่นี่เพื่อเธอ" ฉันรู้ว่าของขวัญที่ดีที่สุดที่ฉันสามารถให้เธอได้คือการอยู่กับเธอ ในการปฏิบัติมนตราข้อแรก เธอจะต้องอยู่ที่นี่และเดี๋ยวนี้จริงๆ มิฉะนั้น มนตรานี้จะไม่ได้ผล เธอต้องอยู่ที่นี่อย่างแท้จริง กายและใจรวมเป็นหนึ่ง เธอต้องตั้งมั่นอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้มนตรานี้เป็นมนตราที่นำความสุขมาให้เธอและคนที่เธอรัก

"ที่รัก ฉันอยู่ที่นี่เพื่อเธอ" มนตราข้อแรกมีจุดประสงค์เพื่อให้เธอดำรงอยู่ที่นี่และเดี๋ยวนี้ ส่วนมนตราข้อที่สอง "ที่รัก ฉันรู้ว่าเธออยู่ที่นั่นและฉันมีความสุขมาก" มีจุดประสงค์เพื่อให้เธอตระหนักรู้ถึงการดำรงอยู่ของผู้อื่น ถ้าเธออยู่ที่นั่นจริง เธอจะสามารถรับรู้ถึงการดำรงอยู่ของผู้อื่น การที่เรารักใครบางคนหมายถึงการรับรู้ถึงการคงอยู่ของเขา ดังนั้นถ้าเธอฝึกมนตราข้อแรกไม่สำเร็จ เธอก็ไม่สามารถฝึกมนตราข้อที่สองให้สำเร็จได้ ต่อเมื่อเธอดำรงอยู่ในปัจจุบันได้อย่างแท้จริง เธอจึงจะสามารถตระหนักถึงการดำรงอยู่ในปัจจุบันของผู้อื่นได้ พลังแห่งสติช่วยให้เธอดำรงอยู่อย่างแท้จริงและมีชีวิตอย่างเต็มเปี่ยม พลังแห่งสติ สมาธิและปัญญาเป็นพลังที่เธอใช้ในการรับรู้การดำรงอยู่ของเขา เธอโอบกอดเขาด้วยพลังแห่งสติ สมาธิและปัญญาที่มาจากการฝึกปฏิบัติของเธอ การรู้ว่าคนที่เธอรักนั้นมีชีวิตอยู่ ถือเป็นปัญญาอย่างหนึ่งด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นสิ่งตรงกันข้ามคือความหลงลืม เธออาจเคยหลงลืมเขา ไม่ได้ทะนุถนอมหรือสนใจการดำรงอยู่ของเขา แต่เมื่อเธอฝึกปฏิบัติจนมีสติ สมาธิและปัญญา เธอจะมีความสุข และผู้ที่ได้รับการโอบกอดโดยแหล่งพลังนี้จะเบ่งบานเหมือนดอกไม้ เขารู้ว่าเขาเป็นที่รักและการคงอยู่ของเขาได้รับการรับรู้ และแน่นอน เธอสามารถฝึกปฏิบัติมนตรานี้ผ่านทางอีเมล์ เราสามารถนำเทคโนโลยีมาช่วยในการฝึกมนตราได้

มนตราข้อที่สาม
จะนำมาปฏิบัติในกรณีที่เธอรู้ว่าคนที่เธอรักตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เธอมีสติ เธอจึงรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเธอและคนที่เธอรัก เธอห่วงใยเขา เธอจึงสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ เธอจึงกล่าว มนตราข้อที่สาม "ที่รัก ฉันรู้ว่าเธอมีความทุกข์ และนี่คือเหตุผลที่ฉันอยู่ที่นี่" และเช่นเดียวกัน เธอสามารถฝึกมนตรานี้ด้วยโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ ระยะทางไม่ใช่ปัญหา หากเธออยู่ที่นั่นจริงๆ เธอจะสามารถตระหนักถึงความเจ็บปวดและเศร้าโศกของเขาได้ ก่อนที่เธอจะลงมือทำสิ่งใดเพื่อคลายความทุกข์ของเขา ความทุกข์ของเขาก็ได้บรรเทาลงแล้ว เพราะเขารู้ว่าเธออยู่ที่นั่นเพื่อเขา เขารู้ว่าเธอรับรู้ได้ถึงความยากลำบากที่เขาจะต้องผ่านพ้น และนี่คือการฝึกสติ สมาธิและปัญญา นี่คือการฝึกปฏิบัติแห่งความรัก

มนตราข้อที่สี่นั้น
ฝึกปฏิบัติยากกว่าเล็กน้อย แต่เธอจำเป็นต้องรู้ไว้ หากเธอมีความทุกข์และเชื่อว่าความทุกข์นั้นมีสาเหตุมาจากคนที่เธอรักและ เชื่อใจอย่างที่สุด นี่คือสภาวะที่ยากลำบาก ถ้าคนที่ทำให้เธอเป็นทุกข์ไม่ใช่คนที่เธอรัก เธอคงเป็นทุกข์น้อยกว่านี้ แต่นี่คือคนที่เธอเชื่อใจมากที่สุด คนที่เธอรักมากที่สุด เขาได้พูดและทำเช่นนั้นกับเธอ เธอจึงช้ำใจมาก ปฏิกิริยาตามธรรมชาติของเธอคือการแยกตัวออกมา เธอต้องการอยู่กับความทุกข์คนเดียว เธอต้องการแสดงให้เขาเห็นว่าเธอสามารถอยู่รอดได้โดยไม่มีเขา นี่คือนิสัยแห่งการลงโทษ แม้ว่าเธอจะเจ็บปวดรวดร้าว แต่เธอต้องการลงโทษ เธอทำได้ทุกอย่างยกเว้นการกลับไปหาเขา ถามว่าทำไม เพราะเธอเจ็บลึก แต่มนตราข้อนี้แนะนำให้เธอทำในสิ่งตรงกันข้าม เธอต้องไปหาเขาหรือโทรศัพท์ไปหาเขาเพื่อถามเหตุผล เธอต้องวางศักดิ์ศรีของเธอลง เพราะรักแท้ไม่มีที่ว่างสำหรับศักดิ์ศรี มนตราข้อสี่ กล่าวว่า "ที่รัก ฉันมีความทุกข์ โปรดช่วยฉันด้วย" หลังจากที่เธอกล่าวมนตรานี้ไม่นาน ความทุกข์ของเธอจะลดน้อยลง มนตรานี้มีความหมายว่า "ที่ รัก ฉันมีความทุกข์มากเหลือเกิน ฉันต้องการให้เธอรู้ ฉันไม่รู้ว่าเหตุใดเธอจึงทำเช่นนั้นหรือพูดเช่นนั้นกับฉัน ถ้าเป็นคนอื่น ฉันจะไม่ทุกข์ใจเช่นนี้ แต่นี่เป็นเธอ ฉันเป็นนักปฏิบัติ ดังนั้น ฉันจะทำอย่างดีที่สุด แต่ว่าในขณะนี้ ฉันตกอยู่ในความทุกข์ ฉันจะพยายามฝึกปฏิบัติ แต่ฉันต้องการความช่วยเหลือจากเธอ"

เธออาจหาเวลาอยู่คนเดียวเพื่อมองอย่างลึกซึ้งถึงสภาพการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อมองให้เห็นว่าความทุกข์ของเธอมาจากการรับรู้ที่ผิดหรือไม่ ก่อนที่เธอจะกล่าวหาผู้อื่น เธอต้องมองอย่างลึกซึ้ง เพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของเธอ ไม่ได้เกิดจากความคิดเห็นที่ผิดของเธอ ถ้าเธอค้นพบ เธอจะเลิกโกรธเขา เพราะเธอรู้ว่าความคิดเห็นที่ผิดนั่นเองที่นำความทุกข์มาสู่เธอ แต่หาก 24 ชั่วโมงผ่านไป เธอยังดิ้นรนอยู่ในความทุกข์ ตามประเพณีของหมู่บ้านพลัม เธอต้องปฏิบัติมนตราข้อที่สี่ ก่อนเส้นตาย 24 ชั่วโมง "ที่รัก ฉันมีความทุกข์ โปรดช่วยฉันด้วย" ถ้าเธอไม่สามารถกล่าวกับเขาได้โดยตรง ให้เขียนจดหมายหรืออีเมล์ถึงเขา ความทุกข์ของเธอจะลดน้อยลง นี่เป็นการเชื้อเชิญให้เขามองอย่างลึกซึ้งถึงสิ่งที่เขากระทำหรือพูดว่าทำ ให้ผู้อื่นมีความทุกข์หรือไม่ ทั้งสองคนจะฝึกปฏิบัติการมองอย่างลึกซึ้ง และนี่คือปฏิบัติการแห่งสันติภาพ



ที่มา
http://www.thaiplumvillage.org/


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์