ทุกข์หนักหน่วงที่สุดคือกามกิเลส หลวงตามหาบัว

ทุกข์หนักหน่วงที่สุดคือกามกิเลส หลวงตามหาบัว


ทุกข์หนักหน่วงที่สุดคือกามกิเลส หลวงตามหาบัว


ทุกข์หนักหน่วงที่สุดคือกามกิเลส

ขอให้ทุก ๆ ท่านจงพินิจพิจารณาและปฏิบัติตามธรรมที่กล่าวมาเบื้องต้นนั้น ก็ขอให้ฟังให้ดีให้ถึงใจ เรื่องบาป บุญ นรก สวรรค์ พรหมโลก นิพพาน ตลอดสัตว์ประเภทต่าง ๆ นี้มีเกลื่อนโลกธาตุมาดั้งเดิมกี่กัปกี่กัลป์ อย่าตั้งความอาจหาญชาญชัยอวดรู้อวดฉลาดไปลบล้างสิ่งเหล่านี้ว่าไม่มี ถ้าไม่อยากฉิบหายทั้งเป็น ให้พยายามแก้ไขดัดแปลงความรู้ความเห็นของตนที่เป็นภัยต่อตน และลบล้างสิ่งเหล่านี้ออกจากใจโดยลำดับ และพยายามดำเนินตามทางของพระพุทธเจ้าด้วยการสร้างคุณงามความดี ละบาป บำเพ็ญบุญต่อไป เราจะเป็นลูกศิษย์ที่มีครู

เราเป็นคนตาบอดต้องอาศัยคนตาดีเป็นผู้ชักจูง นี่ธรรมของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าเป็นผู้ตาดี ธรรมเป็นเครื่องสว่างกระจ่างแจ้ง และครูบาอาจารย์เป็นผู้ตาดีแนะนำสั่งสอนอย่างไร ให้เราปฏิบัติตามท่านแล้วเราก็จะค่อยเป็นไป เหมือนคนตาบอดเดินตามคนตาดี จะเป็นที่ปลอดภัยเรื่อยไป ถ้าคนตาบอดจูงคนตาบอดก็นับวันจะล่มจม นี้เราก็ยิ่งโง่อยู่แล้ว ยิ่งได้ฟังคนโง่ ๆ ที่เป็นภัยต่อชาติต่อศาสนาเป่าเข้าไปอีกทีหนึ่งแล้วว่าบาปไม่มี บุญไม่มี นรกไม่มี สวรรค์ไม่มี พรหมโลก นิพพาน ไม่มี อย่าทำให้เสียเวล่ำเวลา เข้ามาอย่างนี้แล้วเราก็จมทั้งเป็นถ้าเราเชื่อคนตาบอดประเภทนั้น เพราะเขาเหมากองทุกข์ทั้งมวล นรกทั้งมวลอยู่ในหัวอกของเขาแล้ว นี่เขามาแจกจ่ายไฟนรกออกมาให้เรา เรายังชอบอยู่เหรอไฟนรก

ธรรมที่เป็นของเยือกเย็นที่พระพุทธเจ้าประทานสั่งสอนมานานเท่าไร ทำไมเราไม่สนใจในสิ่งที่เป็นสาระนี้ ที่จะเป็นคุณแก่ตนเองทำไมไม่สนใจ

ไปสนใจอะไรกับฟืนกับไฟของคลังกิเลส ที่เผาไหม้อยู่ในคนมืดคนบอดผู้นั้น แล้วมาระบายกระจายให้แก่เรา ยังไปคว้ามับ ๆ เหรอ เราไม่ใช่ลิงอย่าดีดอย่าดิ้น อย่าไปยึดไปถืออย่าไปเชื่อคนประเภทนั้นอย่างง่ายดาย เราเป็นลูกพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าเป็นผู้ฉลาดแหลมคม สอนธรรมด้วยความตรงไปตรงมาตามหลักความจริง ไม่ได้สอนด้วยความหลอกลวงต้มตุ๋นเหมือนกิเลสที่สอนโลกดังที่กล่าวมาสักครู่นี้ ให้ตั้งใจประพฤติปฏิบัติ

เราถือพุทธศาสนาอย่าถือแบบเลื่อน ๆ ลอย ๆ สุ่มสี่สุ่มห้า อยู่ไป ๆ วันหนึ่ง ๆ ก็มีแต่มืดกับแจ้ง ใจของเราเป็นอย่างไร ไม่ได้สร้างหลักสร้างเกณฑ์ซึ่งเป็นสาระสำคัญให้แก่ใจ มีแต่ความทะเยอทะยานดีดดิ้นกับสิ่งนั้นวัตถุนี้ อันนั้นก็ดีอันนี้ก็ดี จิตมันดีดมันดิ้นคว้าน้ำเหลว ๆ ไปกับสิ่งที่เหลว ๆ ไหล ๆ นั้นว่ามาเป็นสารประโยชน์แก่ตน สุดท้ายตายแล้วก็จม เพราะไม่ได้สร้างสารธรรมคือคุณงามความดี ได้แก่การให้ทาน รักษาศีล ภาวนา เข้าสู่ใจ

เฉพาะอย่างยิ่งคือการภาวนาอบรมจิตใจของตน ให้มีความสงบแน่วแน่อยู่สม่ำเสมอด้วยความมีสติ นี่เรียกว่าลูกศิษย์ตถาคต ต้องสร้างหลักใจขึ้นด้วยธรรม ให้มีหลักใจ คนมีหลักใจอยู่ที่ไหนก็สะดวกสบาย ตายไปแล้วก็เป็นสุข นี้คือมีหลักใจ ถ้าไม่มีหลักใจ จะมีเงินมีทองข้าวของกี่หมื่นกี่แสนกี่ล้าน ตึกรามบ้านช่องมีล้นตลาดเต็มบ้านเต็มเมืองก็ตาม ตายแล้วก็หมดความหมายถ้าไม่สนใจกับธรรม อาศัยสิ่งเหล่านั้นมาเป็นเนื้อเป็นหนังเป็นตนของตนมันเป็นไม่ได้ ดินเป็นดิน น้ำเป็นน้ำ ตึกเป็นตึก เงินเป็นเงิน ทองเป็นทอง เป็นแร่ธาตุต่าง ๆ ไปอย่างนั้น เราก็เป็นเรา ถึงวาระสิ้นลมหายใจแล้วเราก็ตาย ไม่เห็นมีสาระอะไรติดเนื้อติดตัวเลย อย่างนี้ไม่สมควรกับเราเป็นชาวพุทธ จึงต้องให้พากันเสาะแสวงหา

สิ่งภายนอกก็เป็นความจำเป็นที่เราจะวิ่งเต้นขวนขวาย เพราะธาตุขันธ์มันรบกวน มีความบกพร่องต้องการตลอดเวลา พาอยู่พากินพาหลับพานอนพาขับพาถ่าย ล้วนแล้วตั้งแต่เรื่องธาตุเรื่องขันธ์มันรบกวน จะต้องหามาเยียวยารักษามัน สิ่งเหล่านี้เราก็ขวนขวาย ธรรมภายในจิตใจซึ่งเป็นเรือนใจสมบัติของใจเราก็ให้ขวนขวายคือคุณงามความดี อย่าปล่อยอย่าวาง เมื่อได้ทั้งสองประเภทนี้แล้วเราก็มีความเป็นสุข อยู่ในโลกนี้เราก็อาศัยสิ่งของเงินทองจตุปัจจัยต่าง ๆ ตายจากโลกนี้ไปแล้วคุณงามความดีก็มีอยู่ที่จิตใจของเรา เราก็เป็นสุข ๆ สุคโต สุคโต แปลว่า ไปเป็นสุข จะไปที่ไหน..เป็นแนวทางเพื่อให้พวกเรามองและใช้ชีวิตในทางที่ถูกต้องและดีงามตลอดไป สาธุครับ..


ทุกข์หนักหน่วงที่สุดคือกามกิเลส หลวงตามหาบัว


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์