โลกนี้เป็นภัยอันน่ากลัวอย่างยิ่ง !

โลกนี้เป็นภัยอันน่ากลัวอย่างยิ่ง !

โลกนี้เป็นภัยอันน่ากลัวอย่างยิ่ง !


ถาม: ..................................

ตอบ: ดูคนรุ่นนี้แล้วกลัวแทนเขา จะเรียกว่าภยตูปัฏฐานญาณ ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ? เพราะว่าญาณตัวนี้จะพิจารณาว่าโลกนี้เป็นภัยอันน่ากลัวอย่างยิ่ง น่ากลัวตรงไหนรู้ไหม ?

อันดับ การอาศัยเครื่องมือเครื่องใช้อะไรต่าง ๆ มากจนเกินไป จนกระทั่งตัวเองเสื่อมสมรรถภาพไปเลย โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ สังเกตว่าเด็กสมัยนี้ลายมือห่วยแตกมาก พิมพ์แต่คอมพิวเตอร์มากไปจนกระทั่งลายมือตัวเองไม่ได้ใช้เลย

อันดับที่ ๒ การค้นหาข้อมูลต่างๆ เขาจะค้นหาจากคอมพิวเตอร์ โดยตัวเองไม่ได้จำ ถึงเวลาถ้าคอมพิวเตอร์พังก็จะไม่มีอะไรเหลืออยู่ในหัวตัวเอง

อันดับที่ ๓ เครื่องอำนวยความสะดวกของเขาทุกอย่างก็ล้วนแล้วแต่พึ่งพาไฟฟ้า ถ้าไฟฟ้าดับ พวกนี้ตายก่อน..!

อันดับที่ ๔ ระบบข้าวของเงินผ่อนทุกประเภท ที่เอาเงินในอนาคตมาใช้

พวกนี้จะหลอกล่อให้เราซื้อโดยยื่นเงื่อนไขที่ล่อใจมากๆ ถ้าคนที่ไม่มีสติสัมปชัญญะ จะโดนแรงโฆษณาและการชวนเชื่อ จนเกิดความต้องการแบบปลอมๆ ขึ้นมา คือ รู้สึกว่าจำเป็น ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วไม่จำเป็น ก็จะต้องไปซื้อเงินผ่อน เรียกได้ว่าเป็นการเอาเงินในอนาคตมาใช้ ทันทีที่ทำอย่างนั้น แปลว่า เราผูกขาเป็นทาสเขา เป็นเวลา ๓ เดือน ๖ เดือน ๑ ปี ๓ ปี ๕ ปี ๒๐ ปี ข้างหน้า เงินที่หามาได้จะกลายเป็นของคนอื่นเขา ไม่ใช่ของตัวเองแล้ว

ยิ่งบัตรเครดิตยิ่งแย่เข้าไปใหญ่เลย เพราะใช้โดยไม่เห็นตัวเงิน กว่าจะรู้ตัวก็หมดไปเท่าไรไม่รู้ ยิ่งปัจจุบันเขายื่นเงื่อนไข ดอกเบี้ย ๐% ใช่ไหม ? แต่บรรทัดสุดท้ายของสัญญา เขาจะเขียนว่า เขาสามารถเปลี่ยนแปลงดอกเบี้ยได้ตามใจของเขา ไม่ใช่ตามใจเรา เพราะฉะนั้น..ต่อไปๆ ก็เสร็จอีก และตัวบัตรเครดิตที่ร้ายที่สุดคือ เอาเงินของเราให้เรากู้ เราต้องมีเงินสำรองในธนาคารเพียงพอ เขาถึงออกบัตรเครดิตให้เรา แล้วในหนังสือสัญญาจะบอกเอาไว้เลยว่า ทันทีที่ท่านเป็นสมาชิกของเราๆ จะสำรองเงินไว้ให้ท่าน

สมัยก่อนบัตรทองยี่ห้อหนึ่ง เขามาตื๊อให้อาตมาเป็นสมาชิก หนังสือสัญญาระบุว่า ทันทีที่ท่านเป็นสมาชิกของเรา ทางเราจะสำรองเงินไว้ให้ท่าน ๒๐๐,๐๐๐ บาท จะไม่คิดดอกเบึ้ยจนกว่าวันแรกที่ท่านใช้บัตร อาตมานั่งอ่านดู อ้าว...แล้วเงินของเราก็มีทำไม ? ทำไมไม่เอาเงินของเรามาใช้ ? เลยกลายเป็นว่าเอาเงินของเรามาให้เรากู้ คือเราต้องมีเงินประกันอยู่ถึงจะยอมออกบัตรให้เรา เงินเราก็มีคาบัญชีอยู่ แต่ไม่เอาเงินที่คาบัญชีอยู่มาให้เราใช้ แล้วเก็บค่าอำนวยความสะดวกไปเหมือนบัตรเอทีเอ็ม...ไม่ทำอย่างนั้น แต่ว่าเอาเงินตัวนี้มาให้เรากู้ ทันทีที่เรารูดบัตรก็คิดดอกเบี้ยเราเดี๋ยวนั้นเลย เรามีแต่เสียกับเสีย ได้อย่างเดียวคือความสะดวกเล็กน้อย

ลองมาคิดถึงว่า โลกข้างหน้าจะพาให้คนเราเป็นหนี้ตั้งแต่ยังไม่ทันจะรู้เรื่องอะไร แล้วก็จะมีแต่การอาศัยเครื่องมือต่าง ๆ อำนวยความสะดวกให้ แล้วลองคิดดูว่าคนเราจะเหลืออะไร ? คงหาตัวตนของตัวเองไม่เจอ แล้วก็ร้อนรนทุกข์ทนอยู่กับสิ่งต่างๆ ทั้งหลายเหล่านั้น


สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๕




ขอบคุณบทความจาก วัดท่าขนุน จ.กาญจนบุรี

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์