ก่อนกินไข่ ต้องอ่าน..!!

ก่อนกินไข่  ต้องอ่าน..!!


เรื่องของไข่ก็เช่นเดียวกัน เป็นอาหารจานเด็ดทรงคุณค่าทางโภชนาการอย่างยิ่ง

ก่อนกินไข่  ต้องอ่าน..!!


โดยเฉพาะไข่เจียวร้อน ๆ กับข้าวสวย เหยาะพริกน้ำปลาแถมหอมซอยนิดหน่อย อร่อยอย่าบอกใครเชียว

มีการศึกษาทีในอเมริกาให้อาสาสมัครที่ปกติ 2,000 คน ซึ่งไม่มีภาวะไขมันในเลือดสูง ทานไข่ไก่ 2 ฟอง ต่อวันติดต่อ เป็นเวลา 2 อาทิตย์ แล้วลองเจาะเลือดซ้ำ พบว่าระดับไขมันในเลือดก่อนและหลัง 1 เดือน ไม่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ คงเป็นข่าวที่ดีสำหรับสมาคมผู้เลี้ยงไก่ แต่ช้าก่อน...

ถ้าหากคุณมีภาวะไขมันในเลือดสูงอยู่แล้ว จะต้องระมัดระวัง เพราะไข่แดงนั้นมีคลอเลสเตอรอลสูงถึง 210 มก./ฟอง เลยทีเดียวและทางการแพทย์แนะว่าคนที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือดไม่ควรทางคลอเลสเตอรอลเกินกว่าวันละ 200 มก.

และที่ยิ่งไปกว่านั้น หากให้อาสาสมัครดังกล่าว ทานไข่ ร่วมกับไขมันอิ่มตัว เช่น ไส้กรอก หรือ เบคอน ด้วยแล้ว จะทำให้ระดับของ คลอเลสเตอรอล เพิ่มขึ้นอย่างมาก


ก่อนกินไข่  ต้องอ่าน..!!


อันที่จริงคลอเลสเตอรอลก็เป็นสารที่ร่างกายจำเป็นต้องมีไว้


กล่าวถึงคลอเลสเตอรอลและอาหารต่าง ๆ มาเสียยืดยาว เดี๋ยวผู้อ่านจะคิดไปว่าได้เจ้าสารตัวนี้จะเป็นแต่วายร้ายที่คอยไปอุดตันตามหลอดเลือด จนก่อปัญหาหลอดเลือดอุดตัน

อันที่จริงคลอเลสเตอรอลก็เป็นสารที่ร่างกายจำเป็นต้องมีไว้ (ในปริมาณที่เหมาะสม) เพราะเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ ที่จะนำไป สร้างเยื่อบุผนังเซลล์ สร้างเป็นฮอร์โมนชนิดต่าง ๆ

และที่สำคัญคือ ไป สร้างเป็นน้ำดีไว้ย่อยไขมันในลำไส้ ฟังแล้วแปลกดี ไขมันเอาไปย่อยไขมัน น้ำดีที่ออกมาในลำไส้นี้ก็จะดูดซึมกลับไปยังตับอีก วนเวียนเช่นนี้

นักวิทยาศาสตร์หัวใสเมื่อทราบดังนี้ ก็ได้คิดผลิตยาชนิดหนึ่งซึ่งคอยจับกับน้ำดีในลำไส้ ชื่อว่า Choletyramine ให้น้ำดีถูกขับออกมาอย่างเดียวไม่ย้อนกลับไปยังตับ คลอเลสเตอรอลก็จะถูกเปลี่ยนเป็นน้ำดีมากขึ้น ๆ ระดับคลอเลสเตอรอลในเลือดก็ลดลงได้

แต่ที่เด็ดไปกว่านั้น เมื่อเราทราบแล้วว่าคลอเลสเตอรอลสร้างจากตับ ก็อาศัยยาที่ไปยับยั้งการสร้างคลอเลสเตอรอลจากตับเสียเลย เราเรียกยากลุ่มนี้ว่า Statin ซึ่งเรื่องราคาค่อนข้างแพง ราคาเม็ดหนึ่งประมาณ 20-50 บาท จะทำอย่างไรได้ให้คุมอาหารก็ไม่ไหว ให้ออกกำลังก็ไม่เอา ก็คงต้องเสียเงินซื้อยาไปตามระเบียบ


ก่อนกินไข่  ต้องอ่าน..!!


มีรายงานทางการแพทย์ พบว่า


ผู้ที่มีระดับคลอเลสเตอรอลในเลือดต่ำ มีโอกาสเกิดภาวะซึมเศร้า (Depression) และมีโอกาสฆ่าตัวตายสูงกว่าปกติ ! อ่านแล้วก็อย่าเพิ่งตกใจเลิกคุมอาหาร เลิกทานยา เพราะคนที่ซึมเศร้าอยากฆ่าตัวตายคงไม่ค่อยมีกระจิตกระใจจะทานอาหารเลยทำให้ระดับไขมันต่ำ ส่วนเราเป็นพวกอารมณ์ดีมีใจเบิกบาน ก็เลยมีไขมันสูงเป็นธรรมดา

อะไรคือ ไขมันร้าย ไขมันดี ไตรกลีเซอไรด์

พูดถึงคลอเลสเตอรอลกันให้ละเอียดลึกซึ้ง นอกจากจะมีทั้งประโยชน์และโทษดังกล่าวแล้ว แต่ถ้าพูดให้ชัดลงไปว่า แล้วเจ้าตัวที่เป็นผู้ร้ายจริง ๆ คือตัวไหนกันแน่

เปรียบเหมือนพูดถึงรถยนต์บนท้องถนนทั้งหมด คือคลอเลสเตอรอลรวม ก็มีรถที่คอยปล่อยควันดำ ทิ้งขยะ น้ำมันเครื่องลงท้องถนน

ซึ่งถูกเรียกว่า ไขมันร้าย (Bad cholesterol) มีลักษณะโครงสร้างที่ใหญ่และมีความหนาแน่นต่ำ จึงเรียกเป็นศัพท์การแพทย์ว่า Low density lipoprotein ย่อว่า LDL-Cholesterol (LDL-C) LDL-C นี้เอง คือผู้ร้ายตัวจริง ยิ่งมีมากก็ยิ่งก่อปัญหาหลอดเลือดอุดตัน

ในทางกลับกันคลอเลสเตอรอลอีกประเภทหนึ่งซึ่งมีความหนาแน่นสูง เรียกว่า High density lipoprotein (HDL) เป็นพระเอกของร่างกายเรา หรือ ไขมันดี (good cholesterol) เปรียบเหมือนรถขนขยะของกทม. คอยเก็บของเสียหรือไขมันส่วนเกินจากผนังหลอดเลือดกลับคืนสู่กระแสเลือด และนำไปยังโรงงานแปรรูปกำจัดขยะ คือ ตับ เพื่อเปลี่ยนสภาพจากไขมันคลอเลสเตอรอล ให้กลายเป็นน้ำดีเพื่อใช้ย่อยไขมันต่อไป

ทีนี้ทำอย่างไร เราจึงจะทราบตัวเรานี้มีระดับ LDL และ HDL สูงมากน้อยเท่าไร ก็ต้องหยิบกระดาษ ดินสอ มาบวกลบเลขกันสักเล็กน้อย


ก่อนกินไข่  ต้องอ่าน..!!


โดยปกติการเจาะเลือดนั้น


จะสามารถทราบระดับของคลอเลสเตอรอลรวม (Total cholesterol) ไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) ซึ่งเป็นไขมันอีกชนิดหนึ่งและ HDL ได้และนำมาคำนวณโดยอาศัยสูตรดังนี้ คือ

LDL C = Total cholesterol (Triglyceride/5)-HDL

ค่าปกติของ LDL ไม่ควรเกิน 160 มก.% ในคนปกติ และไม่เกิน 130 มก.% ในผู้ที่เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ส่วน HDL ที่ดีควรมีค่าเกินกว่า 45 มก.%ถ้าต้องการจะลดระดับ LDL-C ในเลือดนอกจากลดการบริโภคอาหารที่มีคลอเลสเตอรอลดังว่ามาแล้ว

พบว่าการลดอาหารที่มีระดับกรดไขมันอิ่มตัวสูงจะมีส่วนลดระดับ LDL ได้ด้วย ซึ่งเจ้าไขมันที่อิ่มตัวที่ว่านี้นอกจากจะพบในไขมันสัตว์แล้ว ในน้ำมันพืชบางประเภท เช่น น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว กะทิ จะมีไขมันประเภทนี้สูง

ที่น่าวิตกก็คือ ผลิตภัณฑ์อาหารส่วนใหญ่ที่เราและลูกหลานของเรากำลังบริโภคกันอยู่อย่างเอร็ดอร่อย ไม่ว่าจะเป็นไก่ทอด มันทอด แมคโดนัลด์ KFC อาหารจานด่วน ต่างก็ประกอบจากน้ำมันที่ว่านี้ทั้งนั้น เพราะราคาถูกแถมไม่ค่อยเหม็นหืนเสียอีกด้วย

มีการศึกษาที่พบว่าระดับ LDL-C ของคนในภูมิภาคเอเชีย กำลังเพิ่มขึ้นอย่างน่าวิตก หลังจากร้านอาหารข้ามชาติผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด และเป็นที่นิยมชื่นชอบของวัยรุ่นและคนทำงานทั่วไป จนกลายเป็นวัฒนธรรมการบริโภคของคนยุคใหม่ไปแล้ว จึงไม่น่าแปลกใจว่าโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตันยิ่งเป็นกันมากขึ้น และยิ่งพบในคนอายุน้อยลงกว่าเมื่อสมัยก่อน


ก่อนกินไข่  ต้องอ่าน..!!


จะเลือกใช้น้ำมันอะไรดี

ก่อนกินไข่  ต้องอ่าน..!!


ถ้าคุณเลือกได้ ควรเลือกอาหารที่ปรุงจากไขมันชนิดที่ไม่อิ่มตัว ประเภทที่มีขายกันอยู่ทั่วไปและราคาไม่แพงมาก เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด ทานตะวัน น้ำมันงา ประเภทนี้เรียกว่าไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน อีกประเภทที่จะเรียกว่าดีที่สุดก็คือ ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดียวซึ่งพบมากใน น้ำมันมะกอก (ไม่ใช่ที่เอาไว้ทาตัวหรือใส่ผม)

ซึ่งเป็นน้ำมันที่ต้องนำเข้า มักมีที่มาจากยุโรป และอเมริกา สนนราคาช่วงนี้คงจะแพงพอสมควร ก็อาจจะใช้เป็นน้ำมันถั่วเหลืองทานตะวัน ฯลฯ ที่มีขายกันอยู่ทั่วไปพวกนั้นจะเหมาะสมกว่า สามารถช่วยลดระดับ ไขมันร้าย LDL ลงได้ประมาณ 12%

มีผลิตภัณฑ์อีกประเภทหนึ่งที่ครั้งหนึ่งเคยคิดว่าน่าจะได้ประโยชน์กับคนที่อยากทานเนยแต่กลัวไขมันสูง เลยทานเป็นรูป เนยเทียมหรือมาการีนแทน ปรากฏว่ามีสารประเภทหนึ่งที่เรียกว่า Trans fatty acid

ซึ่งเกิดจากกระบวนการแปรรูปไขมัน ที่ต้องอาศัยความร้อนสูงมาก และมีการเติมอะตอมของ ไฮโดรเจนเข้าไป (Hydrogenation) ทำให้จุดเดือดของไขมันสูงขึ้น และสามารถจับเป็นก้อนที่อุณหภูมิห้อง

ผลิตภัณฑ์เหล่านี้นอกจากเนยเทียม ยังพบในครีม ขนมกรอบ เวเฟอร์ เมื่อบริโภคเข้าไปจะทำให้ผลในการลด LDL เหลือเพียง 5% แต่ที่สำคัญคืออาจลดระดับของ HDL ซึ่งเป็นไขมันดีลงไปได้ด้วย


ก่อนกินไข่  ต้องอ่าน..!!



คราวนี้ต้องถึงคราวพระเอก HDL ของเราบ้าง ทำอย่างไรเล่าจึงจะทำให้ HDL มีระดับเพิ่มขึ้น คงไม่มีปัญหาในคนที่มีระดับสูงอยู่แล้ว แต่ในคนที่ระดับต่ำ (น้อยกว่า 35 มก.%) จะทำอย่างไรกันดี

วิธีการที่จะช่วยเพื่ม HDL ก่อนที่จะต้องปรึกษาแพทย์เพื่อรับยา ดังต่อไปนี้

- หมั่นอออกกำลัง แบบแอโรบิค 30-40 นาทีอย่างน้อยอาทิตย์ละ 4 วัน

- หยุดสูบบุหรี่ เพราะสารในบุหรี่ลดระดับ HDL

- บางารายงาน เครื่องดื่มประเภทไวน์วันหนึ่งไม่เกิน 1 แก้ว จะสามารถเพิ่มระดับ HDL ได้ ซึ่งก็ต้องเป็นไวน์แดง แต่ก็ยังไม่มีข้อพิสูจน์ที่แน่ชัด และแพทย์ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยเห็นด้วยที่จะแนะนำให้ผู้ป่วยหันมาดื่มแอลกอฮอล์ เพราะส่วนมากมักจะเลยเถิด (เกิน 1 แก้ว) พลอยเป็นโรคตับแข็ง โรคความดันสูง ต่อไปอีก

มีข้อมูล จากวารสาร Circuiation พบว่าการบริโภคน้ำองุ่นแดงวันละประมาณ 600 ซีซี ก็สามารถให้ผลที่น่าพอใจ แม้จะมากไปหน่อย ก็เทียบได้กับการดื่มไวน์เหมือนกัน

ซึ่งเรื่องนี้อันที่จริงมันไปเกี่ยวข้องกับสารประเภทหนึ่ง คือ Flavonoids ซึ่งพบมากในผิวขององุ่นแดง สารตัวนี้จะทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant)

ซึ่งจะคอยป้องกันไม่ให้โมเลกุลของ LDL เข้าไปทำอันตรายต่อเยื่อบุชั้นในของหลอดเลือด ซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดหลอดเลือดแข็งตัวได้


ก่อนกินไข่  ต้องอ่าน..!!


ขอขอบคุณ :

ก่อนกินไข่  ต้องอ่าน..!!


บทความอันเป็นประโยชน์โดย
น.พ.วรงค์ ลาภานันต์
กองอายุรกรรม โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช
แพทย์ที่ปรึกษาศูนย์หัวใจ รพ.วิภาวดี



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์