ชอบอาบน้ำแร่ อาจได้แช่เชื้อโรค

ภาพประกอบทางอินเตอร์เน็ตภาพประกอบทางอินเตอร์เน็ต


ความสวยความงามทั่วทั้งเรือนร่างเป็นเรื่องที่ใครๆก็ถวิลหา จึงไม่ใช่เรื่องแปลกนักที่ปัจจุบันธุรกิจสปาและบ่อน้ำพุร้อนจะเฟื่องฟูขึ้นมา

เมื่อเร็วๆนี้ทางกระทรวงสาธารณสุข ได้เผยผลวิจัยความปลอดภัยของน้ำพุร้อนตา ธรรมชาติที่ 4 จังหวัดภาคเหนือ ทำให้พบว่าปลอดภัยจากเชื้ออะมีบา แต่เจ้ากรรมกลับพบ “เชื้อลีจิโอเนลลา” ซึ่งทำให้เกิดโรคปอดอักเสบได้ ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน งานนี้ใครที่ชอบตระเวนแช่น้ำพุร้อน คงจะต้องใส่ใจสักนิดก่อนเลือกใช้บริการ

ปัจจุบันสถานที่พักผ่อนเสริมสุขภาพหรือสปา เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากในประเทศไทย โดยจุดขายหลักของกิจกรรมแต่เดิมคือการอาบน้ำแร่หรือน้ำพุร้อนธรรมชาติ เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาปรับปรุงรูปแบบ โดยนำกิจกรรมอื่นเข้ามาเสริมด้วย เช่น การนวดไทย นวดเพื่อการเสริมสวย แต่เกือบทุกแห่งก็ยังมีการอาบน้ำพุร้อนร่วมอยู่ซึ่งในต่างประเทศมีการศึกษารายละเอียดไว้มาก พบมีทั้งประโยชน์และโทษ ซึ่งข้อเสียที่สำคัญคือ การสัมผัสเชื้อจุลชีพที่ก่อโรค ที่อาจอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำประเภทนี้

ตรงกันข้ามกับประเทศไทย ค่อนข้างมีผู้ศึกษาเรื่องนี้น้อยมาก ทางกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) จึงได้เร่งทำการศึกษาวิจัยเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยสุขภาพของประชาชน

โดยนางวันทนา ปวีณกิติพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ศ.ดร.นพ.สมชัย บวรกิตติ และคณะ ได้ทำการศึกษานำร่องใน 4 จังหวัดภาคเหนือ ซึ่งมีแหล่งน้ำพุร้อนจำนวนมาก ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย และลำปาง ในช่วงปลายปี 2546 จากการเก็บตัวอย่างน้ำพุร้อน 18 แห่งเพื่อหาจุลชีพก่อโรคที่อาจอาศัยในน้ำประเภทนี้ ที่สำคัญคือเชื้อลีจิโอเนลลา ต้นเหตุทำให้ปอดอักเสบและอะมีบาที่เป็นอันตรายต่อสมอง

ผลปรากฏว่าทุกแหล่งไม่พบอะมีบา แต่ตรวจพบเชื้อลีจิโอเนลลา จากบ่อน้ำพุร้อนที่เก็บมาจากแม่สะงา อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน โดยมีข้อสังเกตว่าอุณหภูมิของน้ำแหล่งที่พบเชื้อนี้ มีระดับความร้อนเพียง 55 องศาเซลเซียส ซึ่งต่ำที่สุดในกลุ่มตัวอย่าง

นางนิตยา จันทร์เรือง มหาผล โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า น้ำพุร้อน น้ำแร่จากแหล่งธรรมชาติ ถูกนำไปใช้สอยโดยมนุษย์ทั้งโดยตรงจากแหล่ง นำส่งทางท่อน้ำไปสู่ผู้ใช้ที่อยู่ห่างไกล น้ำที่นำไปใช้อาจเป็นน้ำดิบหรือน้ำที่ผ่านการบำบัดหรือดัดแปลงแล้ว ในกรณีที่ใช้น้ำดิบหากมีสารพิษหรือจุลชีพก่อโรค จะเกิดอันตรายแก่ผู้ใช้ได้ เคยมีรายงานหลายครั้งจากประเทศญี่ปุ่นว่าผู้ที่อาบน้ำจากน้ำพุร้อนธรรมชาติติดเชื้อลีจิโอเนลลา ส่วนที่ประเทศเกาหลีมีคนงานสถานบริการน้ำพุร้อน เป็นโรคผิวหนังจากเชื้อมัยโคแบคทีเรียที่ไม่ใช่เชื้อวัณโรค และที่ประเทศอังกฤษมีเด็กป่วยด้วยโรคสมองอักเสบจากเชื้ออะมีบา

สำหรับแหล่งน้ำพุธรรมชาติ 18 แห่งที่เก็บน้ำมาตรวจ ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน มี 7 แห่ง คือที่ อ.ปาย 2 แห่ง อ.เมือง 2 แห่ง อ.ขุนยวม 1 แห่ง อ.แม่ลาน้อย 1 แห่ง และอ.แม่สะเรียง 1 แห่ง ระดับความร้อนอยู่ที่ 55- 95 องศาเซลเซียส ที่จังหวัดเชียงใหม่ มี 3 อำเภอ คือ อ.แม่แตง 1 แห่ง อ.ฮอด 1 แห่ง และกิ่งอ.แม่ออม 2 แห่ง ระดับความร้อนสูงเกิน 90 องศาเซลเซียส จังหวัดเชียงราย 4 อำเภอ ได้แก่ อ.แม่จัน 1 แห่ง อ.เมือง 3 แห่ง อ.แม่ สรวย 1 แห่ง และอ.บ้านขะจาน 1 แห่ง ระดับอุณหภูมิ 60-80 องศาเซลเซียส และที่จ.ลำปาง

ทั้งนี้เชื้อลีจิโอเนลลา (Legionella pneumophila) เป็นเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ที่มีแหล่งอาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีความชื้นสูง และเจริญได้ดีในน้ำที่อุณหภูมิ 20-45 องศาเซลเซียส เป็นต้นเหตุทำให้เกิดโรคปอดอักเสบ พบเชื้อนี้ได้ทั้งแหล่งน้ำธรรมชาติและแหล่งน้ำที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น ถังหล่อเย็นระบายความร้อนแอร์รวม ฝักบัว ก๊อกน้ำ ถังระบบทำน้ำร้อนและน้ำพุ การเกิดโรคโดยการสูดเอาละอองน้ำที่มีเชื้อนี้เข้าไป


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์