โอ้โห!! ตำนานต้นคริสต์มาส

โอ้โห!! ตำนานต้นคริสต์มาส


ในสมัยโบราณ ต้นคริสต์มาส


หมายถึง ต้นไม้ในสวนสวรรค์ ซึ่งอดัมและเอวาไปหยิบผลไม้มากิน และทำบาปไม่เชื่อฟังพระเจ้า


โอ้โห!! ตำนานต้นคริสต์มาส


ตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ชาวคิสต์แสดงละครที่หน้าวัด


ถึงความหมายของคริสต์มาส และเอาต้นไม้ต้นหนึ่งไว้ตรงกลาง เพื่อประดับฉาก แสดงถึงบาปกำเนิดของอาดัมและเอวา ต้นไม้ที่ใช้เป็นต้นสน เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่หาง่ายที่สุดในประเทศเหล่านั้น

การแสดงละคร คริสต์มาสเหล่านี้มีมาเป็นเวลาช้านานหลายร้อยปี

จนถึงศตวรรษที่ 15 พระสังฆราชหลายแห่งได้ห้ามแสดง เนื่องจากการแสดง นั้นกลายเป็นการเล่นลิเกล้อชาวบ้าน ผู้ปกครองบ้านเมืองและศาสนาซึ่งไม่ตรงกับบรรยากาศของการฉลอง ชาวบ้านรู้สึกเสียดาย ที่ไม่มีโอกาสดูละครสนุกๆแบบนั้นอีก จึงไปสนุกกันที่บ้านของตน โดยเอาต้นไม้มาวางไว้ที่บ้าน

โอ้โห!! ตำนานต้นคริสต์มาส


เพราะต้นไม้เป็นจุดเด่นในลานวัด


ที่เขาเคยร่วมสนุกสนานกันหลังจากนั้น ก็เริ่มมีการแขวนลูกแอ็ปเปิ้ล และแขวนแผ่นขนมปัง เพื่อระลึกถึงศีลมหาสนิท ซึ่งมีวิวัฒนาการ เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ จนในที่สุด ก็กลายเป็นขนมและของขวัญ



โอ้โห!! ตำนานต้นคริสต์มาส


นอกจากนั้น


ชาวเยอรมันยังมีพิธีอีกอย่างหนึ่ง คือมีการจุดเทียน หลายเล่มเป็นรูปปิรามิดไว้ตลอดคืนคริสต์มาส โดยมีดาวของดาวิดอยู่ที่ยอดของปิรามิด ซึ่งประเพณีที่จะแขวนของขวัญ และขนม ก็ได้รวมกับประเพณีของชาวเยอรมันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 โดยเอาเทียนมาไว้ที่ต้นไม้เป็นรูปทรงปิรามิด นี่เป็นที่มา ของประเพณี

โอ้โห!! ตำนานต้นคริสต์มาส


ปัจจุบัน

มีการแขวนของขวัญและไฟกระพริบไว้ที่ต้นคริสต์มาส และมีดาวของเดวิดไว้ที่สุดยอดประเพณีนี้เป็นที่นิยมของชาวตะวันตก อยู่มาก แม้ว่าประเพณีการตั้งต้นคริสต์มาสมีความเป็นมาดังกล่าว ชาวคริสต์ในสมัยนี้ก็ยังนิยมทำกันอยู่เพราะเห็นว่ามีความหมาย ถึงพระเยซูเจ้าผู้เปรียบเสมือนต้นไม้แห่งชีวิตที่เขียวสดเสมอในทุกฤดูกาล ซึ่งหมายถึงนิรันดรภาพของพระเยซูเจ้า

และนอกจากนี้ยังหมายถึง

ความสว่างของพระองค์เสมือนแสงเทียนที่ส่องในความมืดทั้งยังหมายถึงความชื่นชมยินดีและความสามัคคีที่พระเยซู เจ้า ประทานให้ เพราะต้นไม้เป็นจุดรวมของครอบครัวในเทศกาลนี้




variety
สนับสนุนข้อคิดนานาสาระโดย:

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์