10 ข้อมูลเกี่ยวกับสวนลอยบาบิโลน

10 ข้อมูลเกี่ยวกับสวนลอยบาบิโลน

เรื่องของสวนลอยบาบิโลน

เรื่องของสวนลอยบาบิโลน? (The Hanging Garden of Babylon) ครั้งเมื่อนครเมโสโปเตเมียกำลังรุ่งเรืองอยู่นั้น มีสถานที่แห่งหนึ่งที่ชาวนครแห่งนั้นภูมิอกภูมิใจอย่างมาก สถานที่แห่งนี้เด่นยิงกว่าพระราชวังของพวกเขาอีก เพราะสถานที่แห่งนั้นสวยงามราวกับสวรรค์ เต็มไปด้วยพืชพรรณนานาพันธุ์ที่เขียวชอุ่มตลอดปี ชื่อเสียงของมันดังกระฉ่อนโลกและโดดเดินมากในโลกอารยธรรมโบราณอย่างไม่มีสิ่งใดเทียบ จนกระทั้งมันถูกยอมรับอย่างเป็นทางการว่ามันเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก มันคือ “สวนลอยแห่งบาบิโลม”

http://leelub.blogspot.com/2010/07/10.html

สวนลอยบาบิโลนนั้น ตั้งอยู่บนทางทิศตะวันออกริมฝั่งแม่น้ำยูเฟรติส ห่างจากตอนใต้ของกรุงแบกแดด ประเทศอิรักในปัจจุบัน ประมาณ 50 กิโล เชื่อกันว่าถูกสร้างราว 580 ก่อนคริสตกาล สร้างขึ้นโดย พระเจ้าเนบูคัดเนสซาร์ (Nebuchadnezzar) เป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรแคลเดียน ขึ้นครองราชย์เมื่อ 605 ปีก่อนคริสตกาล พระองค์ทรงทำสงครามและธำรงค์บ้านเมืองให้มีความยิ่งใหญ่

อาณาเขตภายใต้การปกครองของพระองค์นั้นครอบคลุมบริเวณทั้งหมดที่เรียกว่า " ดินแดนเสี้ยวจันทร์อันอุดม " หมายถึง อาณาบริเวณนับตั้งแต่เยรูซาเล็มจรดอ่าวเปอร์เซีย ภายใต้การปกครองของพระเจ้าเนบูคัดเนสซาร์ แต่กระนั้นกษัตริย์พระองค์นี้ก็มีด้านมืดเหมือนกัน เพราะชาวยิวเกลียดพระองค์อย่างมาก เพราะพระองค์ทำลายนครเยรูซาเล็ม รื้อทำลายวิหารแห่งเดวิด กวาดด้านชาวยิวเป็นเชลยมาเป็นทาสจำนวนมาก เอาเถอะถึงอย่างไรชาวบาลิโลมก็นับถือพระองค์ละนะ นอกจากพระองค์ยังเก่งด้านสงครามและการปกครองแล้ว ด้านการก่อสร้างก็เก่งด้วย ไม่ว่าจะเป็น การก่อสร้างพระราชวังขนาดใหญ่สองแห่งริมแม่น้ำยูเฟรตีส ประตูอิชตาร์ กำแพงขนาดใหญ่ล้อมรอบเมือง แน่นอนสวนลอยบาบิโลนก็คือหนึ่งในนั้น ทางเข้าสู่สวนลอยลาดโค้งเหมือนเนินเขา สิ่งก่อสร้างภายในสวนตั้งตระหง่านสูงต่ำลดหลั่นกันอย่างสวยงาม.......พื้นดินเขียวชอุ่ม.......ปกคลุมไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด ขนาดที่กว้างใหญ่ไพศาลและความงดงามของสวนทำให้ผู้พบเห็นเคลิบเคลิ้มดังมนต์เสน่ห์ ผลไม้ไม้ดอกนานาพันธุ์น้ำตกที่ไหลหลาก....สวนที่ยืนออกมาจากระเบียงปราสาท สัตว์แปลกๆ จากต่างแดนนี้คือภาพจินตนาการของคนส่วนใหญ่ที่เปิดกูเกิ้ล ดูนิยาย หนังเท่านั้น

แต่....... แม้สถานที่แห่งนั้นมันจะมีชื่อเสียงเทียบเท่าวิหารของเทพซุส หรือประภาคารแห่งอเล็กซานเดรีย แต่เรื่องราวของสวนนี้ก็ยังเป็นปริศนาลึกลับจนถึงทุกวันนี้ เพราะนักประวัติศาสตร์ต่างสงสัยว่าสวนลอยนี้มันมีตัวตนจริงเหรอ? หรือมันจะอุปโลกน์ขึ้น โดยสาเหตุที่นักประวัติศาสตร์ต่างสงสัยว่าอาคารนี้มันมีตัวตนจริงเหรอก็มีดังนี้ครับ

1. ทุกวันนี้ยังไม่มีใครพบหลักฐานวัตถุหรือโครงสร้างของสวนลอยฟ้าแห่งนี้เลย จริงมีเพียงแต่บันทึกหลักฐานของคนโบราณเท่านั้น โดยหลักฐานเกี่ยวกับบันทึกที่สำคัญที่สุดคืองานนิพนธ์ที่เขียนขึ้นเมื่อ 270 ปีก่อนของเบรอสซุส (Berossus) นักประวัติศาสตร์ เขาเล่าว่ากษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ทรงมีบัญชาสร้างสวนนี้เพียง 15 วันเท่านั้น ซึ่งนักประวัติศาสตร์ใช้บทประพันธ์นี้ในการจำลองภาพสวนลอยฟ้าบาบิโลน

นอกจากนี้ก็มีนักประวัติศาสตร์ชาวกรีกหลายคนที่บรรยายสวนลอยแห่งนี้ ที่ดังๆ ก็มี ดิโอโดรัส ซิคูลัส (Diodorus Siculus) แต่งสวนใหญ่มีหลายคนที่บรรยายสวนลอยแห่งนี้หลายแบบจนเหมือนกับว่า “พวกเขาเคยไปเห็นสวนนี้กับตาถึงบาบิโลมจริงๆ เหรอ?”

2. นักประวัติศาสตร์บางคนไม่เชื่อว่ามันมีอยู่จริงเพราะถ้ามันมีจริงชาวบาบิโลมจะเอาเทคโนโลยีไหนมาสร้าง เพราะว่าสมมุติเราจะสร้างสวนลอยฟ้าแบบนี้ในปัจจุบันสมมุติว่าจะสร้างกลางทะเลทราย ก็เป็นเรื่องยากอยู่ดี แม้ว่าเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีด้านวัตถุและวิธีสร้างจะกว้างล้ำไกลมาก แต่ปัญหาการจัดการสวนต้นไม้ใหญ่ในอาคารพื้นที่สูงก็ยังเป็นที่ปวดหัวต่อวิศวกรมาตลอด อย่าลืมสิว่าไม้ใหญ่มันมีรากที่สามารถทะลุวัตถุที่แข็งๆ ได้ ขนาดคอนกรีตปัจจุบันอยู่เอามันไม่อยู่แล้วสวนลอยฟ้าโบราณมันจะเอาอยู่เรอะ

3. แล้วพืชที่สวนลอยนี้มันมีชีวิตได้อย่างไง อย่าลืมว่าสวนนี้ตั้งใจกลางทะเลทราย มันต้องการน้ำในปริมาณมหาศาลมาก ซึ่งนักประวัติศาสตร์ก็มีคำตอบครับเขาว่าพระองค์ทรงนำทาสจำนวนมากมายแบกน้ำขึ้นไปรดต้นไม้ในสวนซะเลย นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือคือเกลียววิดน้ำหรือเรารู้จักกันดีคือเกลียวของอาร์คีมีดิส(Archimedean Screw) ซึ่งมันถูกค้นพบในอีรักมานานแล้ว และยังมีระบบชลประทานที่ออกแบบอย่างดีอยู่แล้วน้ำจึงไม่ขาด

4. มีบางคนเชื่อว่าสาเหตุที่เราไม่พบซากสวนลอย บางทีสวนนี้อาจไม่มีอยู่จริง หากมีจริงมันอาจเป็นไร่นาขั้นบันไดเท่านั้น โดยมีการแต่งเติมเสริมจริงของคนโบราณ

5.เกี่ยวกับคนสร้าง บางคนไม่เชื่อว่าพระเจ้าเนบูคัดเนสซาร์เป็นคนสร้างแต่เป็นเซนาเฮริบ(Senaherib) ต่างหากที่เป็นคนสร้างสวนนี้ขึ้นมา(100 ปีก่อนหน้านั้น)

6.น่าสนใจที่ว่าจากการตรวจดูศิลาจารึกในยุคของพระเจ้าเนบูคัดเนสซาร์ปรากฏว่าไม่มีคำไหนกล่าวถึงสวนลอยฟ้าแห่งนี้สักบรรทัด ซึ่งกล่าวแต่พระราชวัง นคร และกำแพงเมืองเท่านั้น ซึ่งแม้แต่นักประวัติศาสตร์กรีกเท่านั้นที่บรรยายสวนลอย ซึ้งบางที่นักประวัติศาสตร์กรีกเหล่านั้นอาจไม่ได้ไปบาบิโลมก็เป็นได้ พวกเขาอาจได้ยินทหารของกษตริย์อเล็กซานเอร์ที่เคยไปเหยียบดินแดนเมโสโปเตเมียและไปเห็นนครแห่งนั้นสวยราวกับสวรรค์จากนั้นพอกับบ้านเกิดเลยเล่าเรื่องสวนสวยของเมโสโปเตเมีย..........สิ่งก่อสร้าง......หอคอย......กำแพงเมือง........ทำให้นักกวีและนักประวัติศาสตร์กรีกทั้งหลายเลยเอามาผสมปนเปกันจนเป็นสวนลอยบาบิโลมในที่สุด

7. อนึ่งบางที่ที่ตั้งของสวนลอยอาจคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เนื่องจากแม่น้ำยูเฟรติสที่คนอื่นว่าเป็นที่ตั้งของสวนลอยนั้นมันอยู่ห่างจากสถานที่สำคัญของนครบาบิโลมหลายร้อยเมตรจนไม่น่าจะเป็นไปได้ว่ามันจะมาสร้างที่นี้เพราะมันห่างไกลจากความเจริญเหลือเกิน

8. ถึงอย่างไรบริเวณสวนลอยนั้นก็ได้รับการซ่อมแซมโดยยึดคำอ้างอิงตามประวัติศาสตร์กรีกเป็นต้นแบบ(ตอนนี้เลิกโครงการแล้วมั้งจากสงครามอิรัก)

9. บางเว็บบอกว่าเจอบ่อน้ำกับซุ้มประตูบางส่วน แต่ความจริงคือผู้เชี่ยวชาญไม่ยอมรับเท่าไหร่ว่ามันคือสวนหนึ่งของสวนลอย และที่บอกว่าทรุดโทรม แต่ความจริงแล้วไม่พบแม้แต่ซากครับ

10. นักโบราณคดีเยอรมันชื่อโรเบิร์ต โคลเดอเวย์ เคยตั้งคำถามไว้เมื่อปีค.ศ.1899 ว่า นครบาเบลในสมัยโบราณนั้นเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยโคลนตม จึงไม่เชื่อว่าจะมีสถาปัตยกรรมใดตั้งอยู่ แต่หลักฐานที่ให้เชื่อว่ามันมีอยู่จริงคือการพบห้องใต้ดินของสวนและล้อที่เป็นกลไกชักน้ำจากแม่น้ำเข้าสวน จึงเชื่อว่ามีอยู่จริง

เอาเถอะสมมุติว่ามันมีจริงละกัน เอาเป็นว่าตามประวัติศาสตร์บอกว่า พระเจ้าเนบูคัดเนสซาร์ โปรดให้สร้างสวนลอยนี้ขึ้นเหนือพื้นดินกึ่งทะเลทราย เพื่อประทานให้กับพระมเหสีซึ่งเป็นเจ้าหญิงแห่งอาณาจักรมีดส์ หรือ มีเดีย ซึ่งทั้งสองแคว้นเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน ก่อนการสถาปนาเป็นอาณาจักรแคลเดียนนั้น ทั้งสองอาณาจักรเคยร่วมกันขับไล่พวกอัสซีเรียออกจากบริเวณลุ่มแม่น้ำไทกริส - ยูเฟรติส

ตามตำนานได้กล่าวถึงพระนาง " อามิตัส " ว่าพระนางทรงอาลัยอาวรณ์แคว้นของตนเป็นยิ่งนัก นั้นเองที่ทำให้พระเจ้าเนบูคัดเนสซาร์จำต้องสร้างสวนลอยบาบิโลนขึ้น สวนแห่งนี้ได้แน่จำลองเอาลักษณะภูมิประเทศของแคว้นมีเดียมาเป็นต้นแบบ โดยสร้ารภูเขาจำลองขึ้นเป็นชั้นๆ แต่ละชั้นจะสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกและปลูกดอกไม้ พืชพันธุ์ต่างๆ ไว้มากมาย พันธุ์ไม้เหล่านี้ได้รวบรวมเอามาจากทุกมุมโลกเท่าที่จะหาได้ รวมไปถึงไม้ดอกไม้เลื้อย บันไดที่พาขึ้นไปสู่สวนลอยแห่งนี้ มีลักษณะกว้างขวางทำด้วยหินอ่อน ข้างใต้บันไดของแต่ละชั้นนั้นจะมีคานรับน้ำหนักเป็นอย่างดี ข้างบนเฉลียงของสวนจะมีถังน้ำไว้หล่อเลี้ยงน้ำพุ น้ำตก และสายน้ำต่างๆ บนสวนลอย น้ำจำนวนมากเหล่านี้ สูบมาจากแม่น้ำยูเฟรติสด้วยแรงงานทาส โดยการชักน้ำจากเบื้องล่างขึ้นไปสู่ชั้นบนสุดแล้วปล่อยลงมาให้ไหลลงสู่เบื้องล่างของสวนลอย

แน่นอนหลังสวนลอยนี้สร้างเสร็จ มีหรือพระมเหสีจะไม่ถูกใจ หลังหมดยุคของเบรอสซุส ก็มีนักประวัติศาสตร์กรีกจำนวนมากเดินทางมาชมสถานที่แห่งนี้หลายคนและบันทึกสวนลอยแห่งนี้อย่างละเอียดด้วย ตามประสาชนชาติที่ใฝ่หาความรู้ ซึ่งนักประวัติศาสตร์ก็เชื่อในหลักฐานเหล่านี้ แม้จะมีบางคนที่บรรยายสวนนี้แตกต่างกันออกไปก็เถอะ และหลังจากที่มหานครเมโสโปเตเมียถึงคราวเสื่อม และจู่ๆ สวนลอยฟ้าบาบิโลมก็หายหน้าจากประวัติศาสตร์ไปเลยครับ ไม่รู้ว่าทำไมถึงหาย อาจเป็นเพราะขาดการดูแลรักษาจนมันผุพังทลาย หรืออาจเกิดจากการรุกรานจากศัตรูรุกราน หรือมันไม่มีจริงๆ อยู่แล้วไม่ทราบ เพราะเราไม่เห็นแม้แต่ซาก จริงเหลือแต่คำบอกเล่าให้เราจินตนาการให้สนุกสนานเท่านั้นเอง

เนื่องจากมีการบรรยายสวนลอยนี้แตกต่างกัน บ้างก็ว่ามันอาจเป็นพระราชวังก็ได้ บ้างก็ว่าเออมันน่าจะเป็นพีระมิดแบบขั้นบันได หรือเป็นซิกกูแรต หรือศาสนาสถานที่ปลูกต้นไม้จนเต็มเท่านั้น นั้นเองก็มีนักประวัติศาสตร์คนหนึ่งชื่อ ดร.โรเบิร์ต โคลด์วีย์(Robert Koldeey)ที่เขาอุตส่าห์ทุ่มเทสืบค้นมาเกือบชั่วชีวิตในการพิสูจน์ว่าเจ้าสวนลอยนี้มันมีลักษณะยังไงกันแน่ ผลก็คือเขาเชื่อว่าสวนลอยนี้น่าจะมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมภายในลดหลั่นคล้ายอัฒจรรย์ และโครงสร้างหลักของอาคารเป็นอิฐเรียงเป็นซุ้มโค้ง

นอกจากนี้ก็ยังมีนักปราชญ์โบราณชาวกรีกและสตาโบก็บันทึกรายละเอียดและองค์ประกอบของสวนลอยอย่างพ้องต้องกัน ดังนี้ครับ “สวนแห่งนี้เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส แต่ละด้านมีขนาดกว้างใหญ่ไพศาล มีซุ้มประตูเป็นรูปโค้งตั้งอยู่รอบๆ และมีบันไดเป็นทางนำไปสู้ชั้นบน....” “สวนลอยตั้งอยู่สูงกว่าระดับพื้นดินทั่วไป รากเหง้าของต้นไม้นานาชนิดดูเหมือนจะฝังอยู่เหนือพื้นดินสิ่งก่อสร้างทั้งหมดตั้งอยู่บนชั้นหิน...สายน้ำถูกดึงดูดขึ้นมาข้างบนด้วยระบบกลไกก่อนจะไหลลงบนทางโค้งลาดเพื่อหล่อเลี้ยงต้นไม้ก่อให้เกิดความชุ่มชื้นไปทั่วบริเวณ.....นี้คือศิลปะที่หรูหราอลังการและงดงามอย่างยิ่ง” ปัจจุบันสวนลอยบาบิโลนยังติดอันดับเซเว่น วอนเดอร์สของโลกอยู่ อย่างน้อยก็ด้วยความงดงามตามบทกวีที่บันทึกไว้ (จากต่วยตูน ฉบับที่ 330 สิงหาคม 2545) เว็บไซเยอะมาก - - ขอไม่เอามาโชว์เพราะลืมไปแล้ว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์