มี.. ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นอาวุธ
อาวุธนี้เป็นการแก้ไขปัญหาฝ่าอุปสรรค คือ กิเลสนานาประการ
เอาความดีเข้าไปแก้กลับร้ายให้กลายดี
มีปัญญานั่น คือ มีอาวุธ ต้องเตรียมการเสียแต่บัดนี้
ถ้าไม่เตรียมการเสียแต่บัดนี้ ท่านจะไปเอาอาวุธที่ไหน
ท่านจะเสียใจเมื่อตอนแก่ มันจะแย่เท่งทึง
มีลูกมีหลาน ขอเจริญพร อย่าไปกดดันลูกนัก
อย่าไปกักให้มันเกินไป ให้โอกาสลูกหลานบ้าง
ให้ลูกหลานลืมตาอ้าปากดูเหตุการณ์ของโลกมนุษย์ยุคใหม่ สมัยนี้ดูบ้าง
แต่ก็อย่าให้มันเหลิง อย่าให้มันระเริง
อย่าให้หลงไปนอกลู่นอกทาง ดูแลเท่านี้ก็พอ
เราเป็นคุณพ่อคุณแม่ คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย
แผ่เมตตาให้ลูกให้หลานรับรองไปรอดได้
ลูกหลานจะไปเหนือมาใต้ก็ต้องกลับบ้าน จะไม่ผิดหวังในชีวิต
อาวุธนี้เป็นอาวุธของพระพุทธเจ้ามอบหมายมา
เราเอาไปทิ้งทำไมเล่า คือ ศีล สมาธิ ปัญญา น่าเสียดายมาก
มีอาวุธก็ไปทิ้ง แล้วท่านจะใช้อาวุธอะไรเล่า?
นี่แหละอาวุธการเจริญกรรมฐาน
การสร้างอาวุธให้มีประจำตัว เหาะเหินเดินอากาศก็ใช้อาวุธอันนี้
จะได้รู้ว่าควรทะเลาะกันหรือเปล่า
เสียเวลาเหลือเกิน ไปนั่งทะเลาะกันทำไม
นึกถึงความรักกัน นึกถึงความดีซึ่งกันและกัน จะไม่ทะเลาะกันเลย
ท่านพี่น้องทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน
โกรธใครขอจงอย่าโกรธหมด เกลียดใครอย่าเกลียดหมด
เอาไว้รักกันภายหน้า จะได้มองหน้ากันได้
เราไปโกรธไปเกลียดเขาทั้งหมดร้อยเปอร์เซนต์
ถ้าเกิดไปรักเขาอีก ก็วางหน้าไม่สนิท
ขอฝากไว้ ถ้าเรารักกันจนหมดตัว เอาตัวพัวพันอยู่ในกิเลส
เกิดเกลียดเกิดแตกแยกกันไป ก็จะวางหน้าไม่สนิท
ควรจะเอาแต่ครึ่งเดียว จะคิดทำอะไรอย่าให้มันหละหลวมเกินไป