ค่าแห่งงาน..ค่าแห่งชีวิต
เมื่อหลายปีทางการได้จัดงานมอบรางวัลชมเชยแก่เจ้าหน้าที่
ที่ปฏิบัติหน้าที่ในแขนงต่างๆ และหนึ่งในผู้ที่ได้รับรางวัลก็คือ
บุรุษไปรษณีย์หลิน
ในตอนที่คุณหลินอายุได้ประมาณ 20 ปี
ก็เริ่มเข้าทำงานในกรมไปรษณีย์ ซึ่งก่อนหน้านั้นก็เคยทำงานด้านบริการ
ในบริษัทผลิตยางพาราแห่งหนึ่งมาก่อน แต่ด้วยเหตุผลที่เบื่อชีวิต
ของการเป็นลูกจ้าง จึงสมัครเข้าทำงานในกรมไปรษณีย์
แม้ว่าเขาจะไม่ชอบเท่าใดนักกับการเป็นบุรุษไปรษณีย์
ชีวิตที่ต้องส่งจดหมายเขาคิดว่าเป็นงานที่ไร้รสชาติสิ้นดี
กับเพื่อนร่วมงานแล้ว เขาก็ไม่ได้สนิทกับใครเป็นพิเศษ
ไม่ถึงหนึ่งปีเขาก็คิดที่จะเปลี่ยนงานอีก
และก่อนหน้า ที่เขาจะตัดสินใจยื่นใบลาออกหนึ่งวัน เขาก็พบว่า
ในกระเป๋าส่งจดหมายของเขายังมีจดหมายอีกฉบับหนึ่งที่ยังไม่ได้ส่ง
เมื่อหยิบขึ้นมาดูปรากฏว่าเป็นจดหมายที่อยู่ของผู้รับไม่ค่อยชัดเจนเท่าไรนัก
"เอาล่ะ! ไหนๆ ก็จะลาออกแล้วฉันจะทำหน้าที่ส่งจดหมาย
ฉบับนี้เป็นฉบับสุดท้ายก็แล้วกัน" เขาคิดในใจ
แต่การที่เขาตัดสินใจเช่นนี้ก็ทำให้เขาต้องเสียเวลาในการหาสถานที่
ตามที่อยู่ไปหนึ่งวันเต็มๆ และต้องถามผู้คนมากมาย เมื่อเขาหาจนเจอ
ตอนนั้นฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว
"บุรุษไปรษณีย์ครับ ขอบคุณจริงๆครับ"
เมื่อชายหนุ่มเจ้าของจดหมายได้รับจดหมายจากคุณหลินไม่เพียงกล่าวเช่นนั้น
ชายหนุ่มยังจับมือแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจ เพราะจดหมายฉบับนั้น
เป็นจดหมายตอบรับเข้าทำงานที่ชายหนุ่มได้สมัครไว้นั่นเอง
เห็นชายหนุ่มดีใจที่ได้รับจดหมาย และคนในครอบครัวที่ร่วมยินดีกับเขา
เหตุการณ์เช่นนี้ตั้งแต่เขาเป็นบุรุษไปรษณีย์มานี่ เป็นครั้งแรกที่เขาสัมผัสได้ถึง
เรื่องราวที่ซาบซึ้งและสะเทือนใจตลอดมา เขาทำงานอย่างเงียบๆ
โดยไม่รู้ว่ามีใครบ้างที่ขอบคุณเขาที่คอยบริการส่งจดหมาย
เขาเริ่มเปลี่ยนความคิดเดิมที่ว่า ชีวิตบุรุษไปรษณีย์ไร้ความหมายและไม่มีคุณค่า
ก็เมื่อตอนที่ส่งจดหมายฉบับนี้แล้วและเห็นความปิติยินดีของผู้รับ
จึงเห็นคุณค่าที่แฝงอยู่ในหน้าที่ของตน
ทำให้เข้าใจความหมายของการเป็นบุรุษไปรษณีย์อย่างแท้จริง
ในขณะนั้นเขาคิดในใจ "ฉันจะทำหน้าที่นี้ต่อไป"
เพราะจดหมายที่เขาส่งเพียงแค่ฉบับเดียวแต่ผู้รับรวมทั้งครอบครัวของเขา
ต่างปิติเป็นสุขเมื่อได้รับจดหมายทำให้คุณหลินรู้ถึงความสำคัญต่อการส่งจดหมาย
จากนั้นเป็นต้นมา เขาจะรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่เขาได้ส่งจดหมาย
25 ปี ผ่านดั่งหนึ่งวันมิเคยขาดหายและไม่เคยท้อแท้หรือเกียจคร้านอีกต่อไป!
ชีวิตมนุษย์ทุกผู้นาม ล้วนดำรงตนอยู่ได้ด้วยความหวัง
หากชีวิตมิได้ดำรงอยู่ด้วยความปรารถนาเพื่อที่จะสำเร็จต่อจุดมุ่งหมาย
ไหนเลยจะตรากตรำลำบากกายา และลุ่มหลงมัวเมาอยู่ในความเพ้อฝัน
และหากจะใช้ชีวิตของใครคนใดคนหนึ่ง อยู่ได้อย่างมีความสุข
มีความหมายและมีคุณค่า โดยไม่รู้สึกว่าอ้างว้างหรือเบื่อหน่าย
ข้อสำคัญคือจุดมุ่งหวังนั้นคืออะไร?