วันคืนล่วงไปๆ เรากำลังทำอะไรอยู่
ขณะที่เราอยู่อย่างนี้ เวลาไม่เคยรอใคร
เวลาผ่านไปๆ ทุกขณะๆ วันคืนล่วงไปๆ
ความตายเข้ามาใกล้ทุกขณะๆ
จงพิจารณาดูชีวิตของตนว่า
...เรากำลังทำอะไรอยู่
สร้างประโยชน์ให้กับตนเองและต่อผู้อื่นแล้วหรือยัง
สร้างประโยชน์ปัจจุบัน ประโยชน์ข้างหน้า
ประโยชน์สูงสุดแล้วหรือยัง...
คนเราตั้งแต่เกิดมาจนทุกวันนี้
ดิ้นรนแสวงหาแต่ความสุขกันทุกคน
แต่มีใครบ้างได้พบความสุขที่แท้จริง
หรือพอใจในชีวิตของตนจริงๆ
ชีวิตของเราทุกวันนี้มันแข่งกับเวลา รีบร้อนตลอดเวลา
แม้แต่เวลานอนก็ยังรีบร้อนอยู่
คิดนี่ คิดโน่น คิดไปทั่วทุกสารทิศทั้งใกล้ทั้งไกล
รีบร้อนแสวงหาความสุข
แต่ชีวิตเราสังคมเราดูๆ เหมือนจะสับสนวุ่นวาย
ความเดือดร้อนรุนแรงมากขึ้นๆ ทุกวัน
มนุษย์เราค้นคว้าหาความรู้มากขึ้นๆ
วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ประวัติศาสตร์
สังคมศาสตร์ ภูมิศาสตร์ มนุษย์ศาสตร์
แพทย์ศาสตร์ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ฯลฯ
ศาสตร์เหล่านี้ก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามกาล ตามเหตุปัจจัย ทุกปีๆ
คนเราส่วนใหญ่วิ่งตามแต่ตามไม่ทัน
หมดแรง หมดหวัง สับสนวุ่นวาย
ศาสตร์เหล่านี้ไม่เคยช่วยเราให้มีความสุขที่แท้จริงไ ด้
ศาสตร์หนึ่งที่พวกเรามองข้ามไปคือ พุทธศาสตร์ นั่นเอง
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งเป็นพระบรมครูของเ รา
ตรัสรู้มาเป็นเวลา 2583 ปี ก่อนโน้น
พวกเราจำนวนมากมักจะดูหมิ่นดูถูกมองข้ามไป
เห็นว่าเป็นเรื่องเก่าแก่ล้าสมัย
แต่ความจริงคำสั่งสอนของพระองค์นั้น
เป็นสัจจะความจริงไม่เปลี่ยนตามกาล
ใครประพฤติปฏิบัติถูก และเข้าไปรู้เข้าไปสัมผัสแล้วก็จะเหมือนกัน
รู้แล้วก็ทั้งตื่นและเบิกบานใจมีความสุข
จนแม้กระทั่งความสุขอย่างยิ่ง
ตามที่ท่านกล่าวไว้ว่า.....
...นิพพานัง ปรมัง สุขัง พระนิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง...
ขอบคุณข้อมูลจากจันทน์เจ้าขาดอทคอม