เหนื่อยก็หยุดพักแต่อย่าเดินกลับหลัง
ชีวิตต้องก้าวไปข้างหน้า-เหนื่อยก็หยุดพักแต่อย่าเดินกลับหลัง
นานๆ ทีฉันนัดกินข้าวกับเพื่อนเก่าทีละหลายๆ คน
แบบเฮฮาปาร์ตี้ เพื่อนหลายคนชีวิตยังเรื่อยๆ
บางคนก็สุดโต่งรีบไปเสียไกลเชียว
(ฉันเป็นประเภทกลางๆ นั่งพักกายพักใจ ไม่ถอยไม่ก้าว)
เพื่อนฉันบางคนอยู่ในช่วงที่เหนื่อย ท้อ ไม่มีแรง
เขาบอกฉันว่า "ชีวิตเร่งรีบนักก็ไม่ดี"
พอมานั่งคิดตามก็เห็นว่า เออก็จริงของมันเหมือนกันนะ
แต่ถ้ามาคิดลึกๆ แล้ว
ถ้าเราก้าวช้าก็ไปได้ช้า
เวลาผ่านไปทุกวัน ไม่เคยคอยใครเลย
ฉันมักบอกเพื่อนประเภทเรื่อยเฉื่อยเกินไปทั้งหลายว่า
ไม่ว่าเธอจะเหนื่อยกายเหนื่อยใจสักแค่ไหน
ถ้าเธอเดินเร็ว
เวลาที่ล้มที่ลุก มันก็จะมากขึ้น
โอกาสที่เธอจะยืนได้อย่างแข็งแรงก็มีมากขึ้น
แต่ถ้าเธอมัวแต่ดินช้า เวลาที่จะล้มจะลุก
มันก็จะน้อยลง กว่าจะรู้จุดยืน
เธออาจจะไม่มีแรงเดินแล้วก็ได้
ไม่ใช่ว่าฉันเป็นคนไม่เหนื่อยไม่ท้อ
(แหม ฉันก็คนมีเลือดเนื้อ มีหัวใจ เซ็งโลกเป็นเหมือนกันนั่นแหละ)
ทุกครั้งที่อยากเดินถอยหลัง ฉันจะนึกถึงตอนที่ฉันก้าวมา
ฉันเหนื่อยแค่ไหน เหยียบหนามเจ็บตัวกี่ครั้ง
ถ้าฉันเดินกลับหลัง ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง
เท่ากับว่าที่ผ่านมาฉันเหนื่อยฟรีสิ
บุคคลต้นแบบที่ฉันแอบปลื้มคนหนึ่ง
เขาบอกว่า
"ชีวิตคนเราต้องก้าวไปข้างหน้า
ถ้าเมื่อไหร่ที่เราเดินกลับหลัง
สิ่งนั้นเป็นการวัดอนาคตเราแล้วล่ะ"
สมัยเป็นนักศึกษาเล็กๆ ฉันมีเพื่อนหลายคน
ที่เดินออกจากมหาวิทยาลัยอย่างสง่าผ่าเผย
ด้วยปัญหาที่ฉันมองตอนนี้ว่าเล็กๆ
แต่ตอนนั้นก็ไม่เล็กสำหรับเด็กวัยขนาดนั้น
ฉันพยายามรั้ง...เดินมาตั้งครึ่งทางแล้วยังเดินมาได้
จะเดินต่ออีกนิดจะเป็นจะตายเชียวเหรอ...
แต่เขาถอดใจและเดินกลับหลังเสียดื้อๆ
ทิ้งความหวังความฝันของตัวเองลงกลางทาง
ตอนนี้ทุกครั้งที่เจอกันเขาบ่นเสียใจ และเสียดาย
ถ้าย้อนเวลาได้ เขาจะผ่านมันไปอย่างแข็งแรง
ทุกครั้งที่เหนื่อย ท้อ และทุกข์
ฉันบอกกับตัวเอง "แล้วมันจะผ่านไป"
ยังไงก็ไม่เดินกลับหลัง อย่างดีก็แค่อยู่เฉยๆ
พักกายพักใจ พอมีแรงแล้วเดินต่อ
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น...
ขอให้เธอผ่านมันไปอย่างแข็งแรง
ค่อยๆ เดินค่อยๆ ขยับ
เผลอแป๊บเดียว พอหันกลับไปดู แล้วจะตกใจว่า...
โห...เราเดินมาได้ไกลขนาดนี้แล้วหรือนี่...
_________________________________
จาก......"กล้าที่จะก้าว"
โดย........การ์ตูน