เราคบกันนานเกินไปแล้ว หากเป็นคู่ที่คบหาและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแล้ว ปัญหานี้พบเจอกันมาก ไม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือทั้งสองฝ่าย จะเกิดอาการเบื่อกันและกัน ส่วนใหญ่จะเกิดกับฝ่ายชายมากกว่า
เบื่อ... กิจวัตรประจำวัน
ที่ต้องทำกับคนรัก
"เธอกำลังทำความรักให้เป็นสิ่งฟุ้งเฟ้อ ไม่ใช่สิ่งจำเป็นต่อชีวิต"
อายุราชการของภารกิจแฟนจะหมดเมื่อไหร่ ขึ้นอยู่กับความพอใจของคู่รักแต่ละคู่ และเมื่อไหร่ที่ถึงวันหมดอายุ ก็มีอยู่สองทางให้แต่ละคนเลือก คือหนึ่งพร้อมใจ กันเดินทางเข้าสู่ประตูวิวาห์ และสอง พร้อมใจกันเดินทางเข้าประตูวิวาท แล้วก็แยกย้ายกันไป คู่รักหลายคู่ที่คบหาเป็นแฟนกันนานพอสมควร มักเกิดปัญหาหนึ่งตามมา และเป็นกันบ่อยๆ ในคู่ที่คบกันมากกว่า 5 ปี คือเกิดคำถามที่มักนำพาไปสู่กรณีที่สอง คือ เริ่มรู้สึกว่าเราคบกันนานเกินไปแล้ว มันน่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างขึ้นบ้างแล้วนะ ควรพูดคุยกันว่าจะเอายังไงต่อ
เพราะเกิดความรู้สึกว่าอยู่ด้วยกันจนชินแล้ว ไม่เห็นต้องทำอะไรมากไปกว่านี้ แต่ฝ่ายชายจะรู้สึกอึดอัดมากขึ้น เมื่อฝ่ายหญิงแสดงออกให้เห็นว่า ไม่อยากเป็นอยู่อย่างนี้ต่อไป
และให้ความหมายเลาๆว่า เธอควรจะจริงจังกับฉันได้แล้ว เมื่อไหร่เราจะแต่งงานกันซะที ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ตกลงอยู่กินกับผู้ชายมานานแล้วคิดจะไปเริ่มต้นใหม่กับคนอื่น
แทบทุกคนก็อยากให้เราอยู่ด้วย คือสามีของเราในอนาคต แต่หากฝ่ายชายยังเฉยๆ ไม่แสดงออกถึงความรู้สึกเดียวกัน ปัญหาคงามไม่เข้าใจก็ตามมา และเป็นความน้อยใจ
ไม่มั่นใจฝ่ายชายผสมปนแปลงไป โดยอาจจะลืมพิจารณาว่า เราอาจจะตัดสินใจเร็วเกินไปในการก้าวเข้ามาใช้ชีวิตอยู่กับเขา
เหมือนที่หลายคนชอบพูดว่า "อยู่ก่อนแต่งดีกว่า" เพระาถ้าไปด้วยกันไม่ได้ก็จะตัดสินใจแยกกันไปก่อนที่จะทำสัญญาผูกมัดซึ่งกันและกัน โดยไม่ได้มองตัวเองว่า หากเมื่อถึงวันนั้นจริง คนที่คิดว่าไปด้วยกันไม่ได้คือเขาไม่ใช่เรา เราจะยินดีต้อนรับสถานการณ์มั้นได้มากแค่ไหน ถ้าคิดว่าตัวเองเสียเปรียบ หากใช้ชีวิตอยู่กับใคร แล้วเขาไม่แต่งงานด้วย ถ้าคิดอย่างนี้ตั้งแต่ต้น ก็ไม่ควรตัดสินใจที่จะ "อยู่ก่อนแต่ง" กับใคร เพราะเมื่อความมั่นคงในรักมีไม่พอ ยังไม่ได้รู้จักกันและกันมากพอให้มั่นใจได้ หรือยังมีอีกหลายอย่างที่ยังไม่เข้าใจกันมันก็ต้องมีวันใดวันหนึ่งที่ทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียใจคนๆ นั้นอาจเป็นเธอก็ได้
ปัญหาความเบื่อหน่ายจากการคบกันนานเกินไป เนื่องมาจากว่า เราสองคนไม่ได้ใชความเข้าใจเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงความรักแต่เราใช้ความแปลกใหม่ ความ้ทาทายเป็นตัวดูแลความรักของกันและกัน ให้หวานแหววอยู่เสมอ เมื่อไหร่ที่ต่างฝ่ายไม่ใช่ความแปลกใหม่ของกันและกัน และไม่มีอะไให้ลุ้นเหมือนแรกๆ ที่คบกันอีก ความเบื่อหน่ายก็เกิดขึ้นตามมา เช่นเมื่อความรักเริ่มขึ้นในระยะแรก เธอจะสามารถบังคับตัวเอง ให้ทำได้ทุกอย่างเพ่อเขา และปฏิบัติได้อย่างสม่ำเสมอ ในช่วงเวลานั้น เช่นโทรหาเขาได้ทุกวัน เจอกันทุกเย็น หรือทำอะไรหลายๆอย่างจนกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของเธอ เธอคบกันเหมือนเธอกินข้าว
แต่เมื่อความรักเดินทางมาถึงช่วงเวลาหนึ่ง เวลาที่เธอเริ่มมองว่าสิ่งที่เธอทำอยู่บางเรื่องไม่เห็นจำเป็น ทำไมเราต้องทำอย่างนั้น ทำไมเราต้องโทรหากันทุกวัน เมื่อไหร่ที่เธอใช้เวลากับเรื่องความรักในแต่ละวันมากเกินไปจนทำให้สูญเสียกิจกรรมหลายๆอย่างวันนี้แหละที่ทำให้เธอรู้สึกว่า เธอพลาดเรื่องราวสนุกๆ ไปเยอะ เธอกำลงัทำความรัก ให้ไปเป็นสิ้งฟุ้งเฟ้อ ไม่ใช่สิ่งจำเป็นต่อชีวิต
มองความรักให้เป็นความสบาย ไม่ใช่สนุก เธอจะไม่รู้สึกว่าอยากสลัดมันออกไปในวันหนึ่ง เธอจะไม่คิดว่า เย็นนี้เราต้องไปรับเขาอีกแล้ว ทำอะไรเดิมๆด้วยกัน เจอกันก็กินข้าว ดูหนัง ฟังเพลงแล้วแยกย้ายกัน กลับบ้านเหมือนเดิม จะไปกับเพื่อนก็ไม่ได้ วันนี้มันเป็นวันของเขา และมันก็เป็นมาตลอด อึดอัดจังทำไงดี ลองเปลี่ยนกิจกรรมทำร่วมกันดูบ้าง ถ้าเธอยังรู้สึกเบื่อ และไม่สนุก นั่นแสดงว่าไม่ใช่กิจกรรมแล้วหล่ะ ถ้าเป็นอย่างนี้ เขากับเธอก้ไม่ใช่สิ่งจำเป็นในชีวิตของกันและกัน และเธอก็ไม่มีสิทธ์ยกเขาเป็นความรักของเธอได้เหมือนกัน เพราะความรักที่แท้จริง... มันจะทำให้เราขาดกันไม่ได้กลายเป็นความสำคัญของกันและกัน จนไม่มานั่งคิดหรอกว่า วันนี้เราน่าจะไปกับเพื่อนไม่น่านัดแฟนเลย
ฉะนั้น ไม่ว่าเร็วหรือช้า เราก็สามารถพบกับปัญหาอีกร้อยแปดประการด้วยกันทั้งนั้น แต่ถ้าคู่ไหนมีความรักที่เข้าใจ มั่นคงให้กัน ก็จะสามารถฝ่าวิกฤตนั้นไปได้ด้วยดี ถ้าเธอสามารถอยู่กับคนนี้ได้ตลอดชีวิต ไม่มีวันเบื่อ และเขาก็มีความมั่นคงให้มาเสมอ แม้จะคบกันมา 14 ปี แต่ความรักที่เรามีต่อกัน มันยังเหมือนเดิม 14 ปี ที่แล้วไม่มีผิด เธอยังคบเขาได้อีกนาน
เราคบกันนานเกินไปแล้ว...
ขอขอบคุณบทความดี จากหนังสือ เป็นอะไรไปความรัก?
โดย ว.แหวน
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!