สิ่งที่ ต้องทำ สิ่งที่ น่าทำ
วันหนึ่งก็จบสิ้นลงแล้วด้วยความรวดเร็ว..
แต่ละวันดูสั้นลงไปเรื่อย ๆ เมื่อเทียบกับสิ่งที่อยากทำมีมากขึ้นทุกวัน
ยี่สิบสี่ชั่วโมงดูจะน้อยไป หากมีมากกว่านั้นในแต่ละวัน...ก็คงจะดี
แล้วก็อดถามไม่ได้ว่า...เวลาน้อยลงหรือมีอะไรทำมากขึ้น?...
คำตอบก็คงหาได้ไม่ยาก...
สิ่งที่เป็นหน้าที่ประจำ ที่สอดแทรกเข้ามาตามสถานการณ์ ที่เสนอตัวเข้ามา..
เหล่านี้แหละตัวปริมาณของงานที่ทะลักเข้ามา..จนอยากจะมีสักสิบมือ..
ในเมื่อเวลาดูจะน้อย..และสิ่งที่ต้องทำมีมาก ก็คงต้องทำให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้..
ในแต่ละวัน...วันไหนทำได้มาก..ก็รู้สึกว่าวันนั้นคุ้มค่า
วันไหนทำได้น้อย..ก็อดหดหู่ใจไม่ได้..
ก็เลยเกิดความกดดัน..
หนักเข้าก็เลยกลายเป็นความเครียดลึก...
แล้วก็รู้สึกพาลไม่พอใจตัวเองเอาดื้อ ๆ ..
ที่สุดก็ต้องสรุปเอาง่าย ๆ ว่า..
แม้จะมีสิ่งที่ต้องทำหลายอย่าง...แต่บางอย่างสำคัญมากกว่าอย่างอื่น ๆ ..
บางอย่างก็เป็นหน้าที่ที่ ต้องรับผิดชอบ...ไม่ทำไม่ได้..
อีกหลาย ๆ อย่าง...ก็เป็นสิ่งที่ทำได้ก็ดี..ไม่ทำก็ไม่เป็นไร..
จะพูดให้ง่ายขึ้น...แต่ละวันมีสิ่งที่ " ต้อง" ทำ..และมีสิ่งที่ "น่า" ทำ..
และสิ่งที่น่าทำดูจะมีมากมายก่ายกอง...
เพราะเหตุนี้เอง แต่ละวันจึงดูสั้นเกินไป สำหรับสิ่งที่ต้องทำและสิ่งที่น่าทำ
แถมสิ่งที่ " น่า" ทำดูจะน่าสนใจกว่าสิ่งที่ "ต้อง" ทำเสียอีก
จนบ่อยครั้งมัวแต่เพลินกับสิ่งที่ " น่า" ทำ จนแทบไม่ได้ทำสิ่งที่ "ต้อง" ทำ
หรือใช้เวลามากกับสิ่งที่น่าทำ...จนสิ่งที่ต้องทำพลอยทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร
ที่ร้ายไปกว่านั้น เอาแต่สิ่งที่น่าทำ แล้วทิ้งสิ่งที่ต้องทำไปอย่างไร้ซึ่งความรับผิดชอบ
จริง ๆ แล้ว ยี่สิบสี่ชั่วโมงในแต่ละวัน..ดูเหมือนจะเพียงพอสำหรับสิ่งที่ "ต้อง" ทำ
มีเพียงพอแม้สำหรับบางสิ่งที่ " น่า" ทำด้วย
มันจึงเป็นเรื่องของการเลือกลำดับความสำคัญของแต่ละอย่าง...
ไม่เช่นนั้นแล้ว..ก็เป็นการทำทุกอย่างที่ขวางหน้า..เห็นอะไรเป็นต้องทำหมด
ต่อเมื่อมีการเลือกที่ถูกต้อง ทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดี
แม้จะทำได้ไม่หมดทุกอย่าง...
การบริหารเวลาจึงไม่ใช่เรื่องของการแบ่งสรรเวลาให้สิ่งต่าง ๆ เท่านั้น
แต่เป็นเรื่องของการแยกแยะระหว่างสิ่งที่ " ต้องทำ" กับสิ่งที่ "น่าทำ" ด้วย...
"เวลา...ไม่มีชีวิต...แต่กลืนกินกระทั่งชีวิต...แล้วเธอผู้ใช้ชีวิตเล่า
...ระหว่างทางของกาลเวลา..จะมีระยะทางของตัวเธออยู่บ้างไหม ?.."