
เมื่อวานนี้ผมเขียนไว้ในคอลัมน์ แนะนำหนังสือประจำวันเสาร์สั้นๆว่า ได้รับหนังสือที่มีประโยชน์มากเล่มหนึ่งจาก "ศิลปวัฒนธรรมฉบับพิเศษ" สำนักพิมพ์มติชน ชื่อหนังสือ "ชื่อบ้านนามเมือง ในกรุงเทพฯ"
เป็นหนังสือที่ว่าด้วยที่มาที่ไปของ ถนน สะพาน วัด คลอง แยก และย่านต่างๆ ในกรุงเทพมหานครของเรานี่แหละครับอ่านแล้วก็ทำให้รู้ว่า ทำไมถนนนั้นจึงชื่ออย่างนั้น สะพานนี้จึงชื่ออย่างนี้ รวบรวมเรียบเรียง โดย คุณ ศันสนีย์ วีระศิลป์ชัย
ที่สำคัญมากก็คือ ความเป็นมาเป็นไปต่างๆเหล่านี้ หากไม่มีการจดบันทึกไว้ วันใดวันหนึ่งก็อาจจะสูญหายไปได้
อนุชนรุ่นหลังๆก็จะไม่มีทางทราบได้เลยว่า เหตุใดบริเวณนั้นจึงชื่อเช่นนั้น บริเวณนี้จึงชื่อเช่นนี้ ทำนองเดียวกับเรื่องราวหลายๆเรื่องที่สูญหายไปอย่างไร้ร่องรอยจนถึงบัดนี้
นอกจากจะชื่นชมและขอบคุณผู้จัดทำหนังสือเล่มนี้แล้ว เผอิญผมมีความหลังอยู่กับตรอก 2 ตรอก... เป็นความหลังที่เนิ่นนานมาก แต่ไม่เคยรู้เลยว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร ตรอกแรกคือ "ตรอกโรงไหม" ถนนพระอาทิตย์ ครับ
ตรอกโรงไหมที่ว่านี้ จะอยู่ตรงข้ามกับวิทยาลัยนาฏศิลป์ หรือเยื้องๆร้านอาหารท่านํ้าของสโมสรกรุงเทพมหานครมาหน่อยหนึ่ง
เรียกว่าถ้าเราขับรถเลี้ยวเข้าถนนพระอาทิตย์ ทางด้านที่มาจากสนามหลวง หรือโรงละครแห่งชาติปุ๊บ จะถึงตรอกโรงไหมทันที (อยู่ทางฝั่งขวามือ) เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว ในตรอกโรงไหมจะเป็นที่ตั้งของค่ายมวย "วรวุฒิ" ซึ่งมี ผุดผาดน้อย วรวุฒิ ยอดนักชกรูปหล่อเป็นนักมวยเอกประจำค่าย
เลยไปหน่อยจะเป็นหอพัก ชื่อ "หอพักเวช-ธรรม" ซึ่งผู้อยู่อาศัยกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ จะเป็นนักศึกษา ธรรมศาสตร์ หรือไม่ก็คนทำงานที่จบธรรมศาสตร์แล้ว แต่ยังไม่มีปัญญาซื้อบ้านเลยต้องอยู่หอพักต่อ
ทะลุตรอกออกไปอีกซีกหนึ่งจะเป็นบริเวณ โรงกษาปณ์ ซึ่งสมัยก่อนจะมีโรงอาหารที่มีชื่อเสียงมาก ข้าวแกงถูก โอเลี้ยงถูก...โดยเฉพาะโอเลี้ยงโรงกษาปณ์แก้วขนาดยักษ์ สนนราคาเพียงแค่ 50 สตางค์ ก่อนจะขึ้นเป็น 75 สตางค์ และ 1 บาท ในภายหลังเป็นที่เลื่องลือทั่วกรุง
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว