ไม่ผิดคำสัญญา ฟ้าก็ผ่าได้..!!
ฟ้าผ่า...ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่อันตรายไม่ต้องสาบานก็มีสิทธิ์เสี่ยงตายไหม้เกรียมได้
ในแต่ละปีมีเด็กและผู้ใหญ่ทั่วโลกเสียชีวิตเพราะถูกฟ้าผ่ามากกว่า 1,000 ราย เมืองไทยมีเด็กอายุน้อยกว่า 17 ปี เสียชีวิตเพราะถูกฟ้าผ่าเฉลี่ยปีละ 20 คน นับเป็น ความสูญเสียที่น่าเศร้า เพราะเราสามารถป้องกันตัวเองจากภัยธรรมชาตินี้ได้หากมีความ รู้และไม่ประมาท
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย แนะวิธี ป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่าในฤดูฝน ดังนี้
• อยู่กลางแจ้ง สังเกตสายฟ้า หากเอียงเกิน 45 องศา แสดงว่าพายุกำลังเคลื่อนตัวหนี จากตำแหน่งที่เราอยู่ แต่ถ้ามีลักษณะตรงๆ หรือเอียงไม่เกิน 45 องศา แสดงว่าพายุ กำลังเคลื่อนตัวมาหาเรา หากเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง ซึ่งถ้าอยู่กลางแจ้งไม่สามารถหาที่ หลบได้ ให้นั่งทำตัวให้อยู่ต่ำมากที่สุดคือ นั่งยองๆ ขาชิดกันที่พื้น แต่ห้ามนอนเด็ดขาด เพราะฟ้าผ่าจะเกิดจากความพยายามลดความต่างศักย์ระหว่างก้อนเมฆกับพื้นดิน หลัง จากก้อนเมฆได้สะสมประจุไว้ในลักษณะไฟฟ้าสถิต จะลดระดับเข้าใกล้พื้นดินทำให้ เกิดความต่างศักย์ขึ้น การนอนจะยิ่งเพิ่มความต่างศักย์ทำให้เกิดอันตรายมากกว่านั่ง
• ห้ามหลบใต้ต้นไม้ใหญ่ ใกล้ป้ายโฆษณา วัสดุคอนกรีต และเสาไฟฟ้าแรงสูงที่มี ส่วนประกอบหลักเป็นโลหะเพราะฟ้ามักผ่าลงที่สูงและบริเวณที่เป็นสื่อนำไฟฟ้า เช่น เครื่องประดับเงิน ทองคำ ทองแดง นาค สร้อยโลหะ กำไล และร่มที่มีส่วนยอดเป็น โลหะ ห้ามอยู่ใกล้หรือใช้อุปกรณ์ที่เป็นสื่อนำไฟฟ้า เช่น เครื่องมือการเกษตร โทรศัพท์มือถือ หรือแม้แต่หลบในตู้โทรศัพท์สาธารณะ เพราะอุปกรณ์เหล่านี้มีส่วน ประกอบของโลหะ สายอากาศ และแบตเตอรี่ที่เป็นตัวล่อไฟฟ้า ไม่ว่าจะเปิดหรือปิดจะ ใช้หรือไม่ใช้เครื่อง หากอยู่ในมือจะมีความเสี่ยงสูงเช่นกัน
• อยู่ในอาคาร ควรหลบในอาคารที่ติดตั้งสายล่อฟ้าจะปลอดภัยกว่า ไม่ควรอยู่ใกล้ประตู หน้าต่างที่มีส่วนประกอบเป็นโลหะขณะฟ้าร้องฟ้าผ่า เลี่ยงการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าทุก ชนิด โดยเฉพาะโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น ตู้เย็น หรือแม้แต่โทรศัพท์ เพราะเมื่อฟ้าผ่าลงบ้านอาจจะเกิดการกระจายของไฟฟ้าไหลไปตามเครื่องใช้และสื่อนำ ไฟฟ้าต่างๆ ยิ่งบ้านไหนไม่มีสายล่อฟ้าหรือสายดินยิ่งต้องระวัง
• อยู่ในรถ ปลอดภัยกว่ากลางแจ้งขณะเกิดฟ้าผ่า เพราะรถยนต์มีโลหะที่เป็นตัวนำไฟฟ้า แต่ไม่ดีนัก ควรปิดกระจกให้มิดชิดกันการผ่านของกระแสไฟฟ้าที่ผ่าลงมาเข้าสู้รถ หากดวงซวยเกิดฟ้าผ่าลงรถตรงๆ ก็ควรตั้งสติให้มั่น อย่าออกจากรถ เพราะกระแส ไฟฟ้าที่ไหลตามผิวโลหะของตัวถังรถจะไหลลงสู่พื้นดิน หากวิ่งออกมานอกรถยิ่งมีความ เสี่ยงสูงที่จะถูกฟ้าผ่า การหลบฟ้าผ่าในรถจึงเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุด เพราะโครงสร้าง รถยนต์เป็นโลหะนำไฟฟ้าที่ไม่ดีนัก และมียางรถยนต์ช่วยยกระดับให้พ้นจากพื้นน้ำ จึง ช่วยป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่าได้