ขโมย!?!?!?
ครั้งหนึ่งในประเทศอาหรับ มีขอทานหิวโซเดินหาของกินอยู่
พอผ่านร้านขายเนื้อย่าง ก็มีเสียงเอะอะ...เจ้าของร้านเข้าฉุด
กระชากขอทาน พร้อมตะโกนว่า..."ขโมย! ขโมย!!"
ขอทานปฏิเสธเสียงลั่น แต่ก็ถูกนำตัวไปหาผู้พิพากษา....
"ชายคนนี้ขโมยอะไรของเจ้า"....ผู้พิพากษาถาม
"ท่านผู้พิพากษาที่เคารพ ขอทานคนนี้ขโมยเนื้อย่างในร้านของข้า
ขณะข้ากำลังย่างเนื้อ เขามาหยุดที่หน้าร้าน...แล้วสูดดมกลิ่นหอม
ของเนื้อเป็นเวลานาน โดยไม่ยอมหลีกทางไปทางอื่น"
ผู้พิพากษาตะลึงที่เจอ...คำกล่าวโทษประหลาด....จึงถามขอทานว่า
"เจ้าทำดังคำกล่าวหาหรือเปล่า?".....
"จริงครับ...เพราะกลิ่นหอมมาก และผมก็หิวจริงๆ"....ขอทานตอบ
"ถ้าเช่นนั้น..เจ้าขโมยกลิ่นหอมเนื้อย่างจริง เจ้าต้องชดใช้ค่าเสียหาย"
ท่านผู้พิพากษาว่า...เจ้าของร้านดีใจแล้วพูด..."ท่านผู้พิพากษา...
ทรงไว้ซึ่งความยุติธรรม...ขอขอบคุณ"
"เจ้ามีเงินชดใช้หรือไม่?"....ผู้พิพากษาถามขอทาน
"ไม่มีเลยครับ"....
"เอาละ...เราจะให้ยืมสองเหรียญ"...พูดจบผู้พิพากษาก็ยื่นเหรียญ
สองอันให้ขอทาน
เจ้าของร้านยิ้มร่า วิ่งออกมาจะรับเงิน...ขณะยื่นมือออกรับ
เหรียญทั้งสองก็กระทบกันดังกริ๊ง
"เดี๋ยวก่อน เจ้าทำไมขโมยของของเขา"....ผู้พิพากษาถาม
"ท่านผู้พิพากษา ท่านเห็นแล้วว่ากระผมไม่ได้ขโมยอะไรเลย"
"ก็เจ้าขโมยเสียงเงินกระทบกันเมื่อตะกี้นี้งัย"
"ปัดโธ่!..เสียงเงินกระทบกันนั้น คนมีหูก็ฟังได้...ทำไมถึงว่าขโมยล่ะ"
เจ้าของร้านตอบ...."ถ้าเช่นนั้น ใครมีจมูกก็สูดดมกลิ่นเนื้อย่างได้
แล้วทำไมถึงว่าขโมยล่ะ"......
เจ้าของร้านนิ่งเงียบ.....ผู้พิพากษากล่าวต่อว่า....
"ศาลขอตัดสิน...จำเลยไม่มีความผิด...ขอปิดคดี!!"
นิทานอาหรับเรื่องนี้ให้แง่คิด.....
"ใครที่คิดเอาเปรียบคนอื่น เขาผู้นั้นกำลังตกอยู่ในสถานะของคน
ที่เสียเปรียบแล้วนั่นเอง"....ค่ะ
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
(จาก"ร้อยใจให้รัก"ของประสาร มฤคพิทักษ์)