9 อาการบ่งบอกว่าเรากำลัง แอบนอกใจ
คงไม่มีคนดีๆที่ไหนตั้งหน้าตั้งตาคิดจะทำนอกลู่นอกรอยด้วยการสร้างนิยายรักผิดศีลธรรม แต่บางครั้งอาการหมาหยอกไก่ที่เราคิดว่าก็แค่แซวกันเล่นๆนี่แหละ เรียกได้ว่าแอบนอกใจคู่ของเราแล้ว เพียงแต่เป็นการนอกใจโดยไม่รู้ตัวและไม่ได้เป็นเรื่องคอขาดบาดตายถึงขนาดถูกประณามว่าผิดศีลธรรมเท่านั้นเอง
เชื่อว่าหลายคนอาจเคยรู้สึกประทับใจในตัวเพื่อนต่างเพศทั้งๆที่เราก็ไม่ใช่สาวโสดแล้ว และคิดว่าตราบใดที่ไม่ได้ถึงขั้นมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้งจนผิดศีลธรรมก็ถือว่ายังไม่ได้นอกใจ จริงอยู่ว่าคนที่ยังละกิเลสไม่ได้อย่างเราๆ ย่อมต้องมีบ้างที่จะเกิดอาการรัก โลภ โกรธ หลง และเราคงไม่ถูกพระเจ้าลงโทษเพียงเพราะแค่แอบชอบเขาอยู่ในใจหรอก
แต่รู้ไหมว่าการกระทำบางอย่างก็ถือว่าข้ามเส้นไปสู่สิ่งที่เรียกว่า ´การแอบนอกใจ´ และอาการนอกใจทางอารมณ์ก็สามารถก่อผลที่เลวร้ายได้พอๆ กับการนอกใจแบบมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้งทีเดียว ฉะนั้น ผู้ต้องสงสัยทั้งหลายควรลองเช็กดูก่อนว่าพฤติกรรมของตัวเองเข้าข่ายอาการนอกใจทางอารมณ์บ้างหรือไม่
9 อาการบ่งบอกว่าเรากำลัง "แอบนอกใจ"
1. เปิดเผยเรื่องลึกซึ้งในใจที่น้อยคนนักจะเคยรับรู้ หรือปัญหาชีวิตสมรสให้เขารับฟัง
2. รู้สึกตื่นเต้น หรือรอคอยโอกาสที่จะได้ขึ้นรถไปด้วยกันสองต่อสองตอนออกไปทำงานนอกบริษัท แล้วพูดคุยแลก เปลี่ยนทรรศนะ (ที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องงาน) ด้วยความรู้สึกเบิกบานสดชื่น
3. ให้ความสำคัญและเวลาในการเลือกของขวัญ ´ชิ้นพิเศษ´ ให้เขาคนนั้นนานพอๆกันหรือมากกว่า เลือกของขวัญให้คู่ของตัวเอง
4. เชื่อว่าการแอบทำกุ๊กกิ๊กหัวใจกับเขาเล่นๆ จะทำให้ชีวิตแต่งงานหวือหวามีรสมีชาติมากขึ้น หรือ เชื่อว่าการปล่อยใจให้ออกนอกลู่นอกรอยบ้างทำให้รู้ว่าต้องการอะไรจากชีวิตคู่
5. หาเรื่องอยากมาบริษัทนอกเวลางานเพราะรู้ว่าเขาจะมา ทั้งๆที่เวลานั้นสมควรอยู่กับครอบครัวมากกว่า
6. ออกไปกินอาหารกลางวันตอนพักเที่ยงกันสองต่อสองบ่อยๆ บางครั้งพ่วงดินเนอร์เข้าไปด้วย ซึ่งไม่ได้ไปเพื่อพูดคุยปรึกษากันเรื่องงาน
7. เมื่อมีปัญหาในที่ทำงาน คนแรกที่ปรึกษาคือเขา ไม่ว่าเขาจะเกี่ยวข้องกับงานนั้นหรือไม่ก็ตาม
8. สามารถแบ่งปันเรื่องขำขันหรือเรื่องน่าตื่นเต้นให้เขาฟังได้อย่างสนุกสนาน แต่พอถึงคราวกลับไปเล่าให้คู่สมรสฟัง กลับกลายเป็นเรื่องกร่อยสนิท
9. รู้สึกว่าการมาทำงานเป็นช่วงเวลาที่รอคอยอย่างใจจดใจจ่อ และจะรู้สึกว่างเปล่าหากวันนั้นเขาไม่อยู่บริษัท
การนอกใจส่วนใหญ่แล้วมีจุดเริ่มต้นมาจากเรื่องเล็กๆที่ไม่ได้ตั้งใจให้เกิด เชื่อว่าคนที่มีสติดีๆอยู่กับตัวคงไม่คิดหมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องคว้าหนุ่มหน้าตาดีคนนั้นมาเป็นชู้รักของเราสักวัน หรือตั้งหน้าตั้งตาคิดจับเอ็มดีบริษัทผู้มีฐานะและภรรยาแล้วคนนั้นให้มาเป็นรักสามเส้าสี่เส้าให้ได้ แม้ว่าจะไม่ได้ถึงกับคอขาดบาดตายที่คนเราจะมีอาการพึงพอใจต่อเพศตรงข้ามบ้าง แต่ในบางสถานการณ์ แค่ข้ามเส้นบางๆ เพียงเส้นเดียวเราก็อาจทำเรื่องเสี่ยงกับการปีนต้นงิ้วได้แล้ว
ฉะนั้น อย่ามองข้ามอาการกิ๊กเล็กๆน้อยๆ ที่เราคิดว่า แค่หยอกกันนิด แซวกันหน่อย ถึงแม้ว่าจะเป็นความสุขเล็กๆน้อยๆ ที่ได้พูดคุยนอกเหนือจากเรื่องงานกับคนที่เราแอบพึงพอใจก็อย่าทำเป็นเล่นไป เพราะคงไม่มีใครรับรองว่าได้ว่า เรื่องเล่นๆอย่างนี้จะไม่กลาย "เป็นเรื่อง" ได้สักวัน