จับไต๋ หนุ่มเจ้าชู้!

จับไต๋ หนุ่มเจ้าชู้!



ทำมั้ย ทำไม ผู้หญิงมักถูกกล่าวหา ว่าเป็นจอมบงการ หรือเจ้ากี้เจ้าการกับแฟนอยู่เรื่อย ไม่แฟร์นะเฟ้ย ทั้งๆที่เธออาจไม่ได้อยากทำแบบนี้ก็ได้ เอ้า ก็ถ้าแฟนของหล่อน อยู่ในโอวาท...เอ้ย...อยู่กะร่องกะรอย ไม่ไปก้อร่อก้อติก หรืออ้างว่าหัวใจอ่อนแอ รักสาวไปทั่ว เข้าข่ายเจ้าชู้ยักษ์ไม่เลือกหน้าละก็.. เชื่อดิ ผู้หญิงไม่มีใครอยากจุ้นจ้าน จุกจิกจู้จี้กะแฟนหรอก...


ว่าแล้วพวกเรา...สู้สู้...แต่ไม่ได้บอกให้สู้กะแฟนนะ ให้สู้กะความไม่มั่นใจในตัวเองต่างหาก เพราะ ฉะนั้นจงเชื่อใจตัวเองว่าคุณมีดีพอที่จะเป็น รักเดียวในดวงใจ ของแฟนได้ เขาจึงไม่จำเป็นต้องไปจีบคนอื่นมาเติมเต็มความอยากส่วนตัวอีก ยกเว้นใจเขาไม่รักดีเองก็บอกมาเหอะ...งั้นมาหาทางจับผิดเจ้าแฟนตัวแสบกันดีกว่า ว่ามีสัญญาณอะไรบ้างน้า..ที่บอกได้ว่า เขากำลังนอกใจคนรัก ซึ่งก็มีพฤติกรรมใจลอยที่จะเล่าดังต่อไปนี้ไง




1. เขาเริ่มซื้อหาของขวัญประเคนให้แฟนสาว แถมให้เยอะซะด้วยนะ เรียกว่ายอมทุ่มทุนเชียวละงานนี้ แต่ของทั้งหลายทั้งปวงที่เขามอบให้น่ะ รู้ป่าวว่า อีกนัยนึงมันก็หมายถึง ของขวัญแห่งการสำนึกผิด ดีๆนี่เอง ไม่ได้อยู่เฉยๆ แล้วอยากให้ซะที่ไหนล่ะ เอ้า ก็หลังจากที่เขาทรยศคุณไปแอบจีบสาวอื่น เขาจึงซื้อของมากำนัลแฟนเพื่อทดแทนความผิดไง แต่ก็ขอให้รับของชิ้นนั้นไว้เหอะ แล้วแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ละกัน ในเมื่อเขาอยากให้หนูโง่อยู่แล้วนี่ ยอม กินหญ้า สักวันก็ได้ แต่กินปลอมๆนะ



2. พฤติกรรมมั่วนิ่มที่ชอบเกรี้ยวกราด ใส่แฟนสาว ถือเป็นการแสดงออกของชายเห่ยๆ อย่างนึง ที่ทำเป็นไม่พอใจแฟนตัวเอง จะได้หาเหตุไปยุ่งเกี่ยวกับสาวคนอื่นได้ไง ลูกไม้เยอะนักนะ แต่ การแสดงแบบแย่ๆอย่างงี้ ไม่ไหวแฮะ สู้เป็นแบบข้อ 1 ไปเลยดีกว่า คือนอกใจแล้วยังสำนึก หยั่งงี้ยังดีกว่าเยอะ



3. ถ้าเมื่อไหร่ทะเลาะกัน แล้วเขาเปิดฉากพูดทำนองว่า คุณจะทำยังไงถ้าเราเลิกเป็นแฟน กัน...หึ? หรือไม่ก็ ถ้าเลิกกันถึงไงเราก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันใช่มะ หรือที่ผ่านมาผมไม่ได้รักคุณซะหน่อย ผมก็แค่สงสารคุณเท่านั้นแหละ (เอ หากแค่สงสารก็อย่าทำเป็นพ่อพระเลยว่ะ พูดงี้คนฟังเสียความรู้สึกตาย).... ถ้าเขาพูดทำนองนี้บ่อยๆ ให้สงสัยไว้ละกันว่าเขาอยากปันใจไปจากแฟนสาวน่ะสิ



4. เขาไม่ค่อยคุยกับแฟนสาวเท่าไหร่ สงสัยจะชอบ สงครามเย็น ว่างั้นเหอะ แม้ทั้งคู่จะอยู่ บ้านเดียวกันก็ตาม เขาจะเป็นฝ่ายเย็นชา อยากเป็นน้ำแข็งว่างั้นเถอะ



5. เขาเปลี่ยนรสนิยมในการฟังเพลงไปจากเดิม แหม เมื่อก่อนฟังสุนทราภรณ์ แต่เดี๋ยวนี้ดันฟังบริทนีย์ สเปียร์ส, แต่ก่อนฟังวงแอ๊บบ้า เดี๋ยวนี้เปลี่ยนมาคลั่งเอ็มมิเนม กระชากวัยโก๋กลับมากี๋ใหม่ ก็พิลึกอยู่นะ แต่การเปลี่ยนรสนิยมจะโบ้ยว่ากำลังปันใจก็ไม่จริงเสมอไป ควรสังเกตต่อไปอีกหน่อย ว่าที่เขามีรสนิยมใหม่เอี่ยมเรี่ยมนี่ เพราะอยากหนุ่มขึ้น หรือทำตัวให้ มีชีวิตชีวา เพราะมีอีหนูวัยละอ่อนมากกกอดกันแน่



6. เขาส่ออารมณ์หงุดหงิด ตลอดเวลารึเปล่า? ทั้งที่เมื่อก่อนไม่ได้บึ้งตึงไม่เป็นเวล่ำเวลานี่หว่า สงสัยเพราะคิดไม่ตกว่าจะพยายามรักษาความสัมพันธ์กับสาวทั้งสองคน (แฟนจริงกะอีหนู) ให้ราบรื่นได้ไงน่ะเซ่ จึงคิดไม่ตก เหมือนถูกกดดัน หน้าตาจึงบอก บุญไม่รับขนาดนั้น อยากมีสองใจก็งี้แหละ


7. เขาเริ่มวิพากษ์วิจารณ์ในสิ่งที่เคยทำให้ เช่น เขาเคยชมว่าเธอยิ้มสวย แต่เดี๋ยวนี้น่ะเหรอ เขาจะเปลี่ยนไปพูดว่า ทำไมเธอต้องแสยะยิ้มด้วย เห็นแล้วคลื่นไส้ โอ้โห...ยามรักน้ำผักก็ว่าหวาน แต่พอไม่รัก ทำอะไรก็ไม่ดี ลืมน้ำพริกรสสแตนดาร์ดซะแล้ว


8. เขาเลิกพูดคำว่า ผมรักคุณ ไปตั้งนานแล้วใช่มะ? ทบทวนดูซิ


9. เขาเลิกชมแฟน แม้ในยามที่หล่อนคิดว่าตัวเองสวยที่สุดแล้วนะเนี่ย แต่เขายังทำเฉย



10. เขาอ้างว่า แฟนสาวนั่นแหละเจ้าชู้ และ นอกใจ ไม่ใช่เขาซะหน่อยที่คิดนอกใจหล่อน เชอะ เปิดประเด็นตรงข้ามกับความจริงหยั่งงี้เลยรึ


ป.ล. ได้ลองไปถามใครๆ เรื่องการนอกอกนอกใจดูแล้ว ว่ามีสาเหตุจากอะไร? ก็ได้คำตอบต่างๆนานา เช่น เบื่อของเก่า (ตอบได้กำปั้นทุบดินมาก) จึงสลัดไปสี...เอ้ย ไปมีรักใหม่อ่ะเดะ หรือ เข้ากันไม่ได้ แต่ไม่กล้าบอกตรงๆ ฮี่โธ่ แล้วใช้การนอกใจเนี่ยนะเป็นการบอก?

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์