นักวิจัยพบว่า ของกินยามเช้าอย่างเช่น กาแฟกับบิสกิตเคลือบช็อกโกแลต ซึ่งมีไขมันสูงนั้น นอกจากส่งผลเสียระยะยาวทำให้เป็นโรคอ้วน เบาหวานและหัวใจล้มเหลวแล้ว ยังก่อผลเสียเฉพาะหน้าด้วย นั่นคือ ร่างกายรับงานหนักๆ ได้น้อยลงและสมองเฉื่อยชาขึ้น
งานวิจัยซึ่งได้รับทุนจากมูลนิธิโรคหัวใจอังกฤษชิ้นนี้ ได้ข้อสรุปจากการทดลองกับหนูว่า หลังจากได้รับอาหารที่มีไขมันสูงอยู่นาน 9 วัน หนูทดลองกลุ่มนี้สามารถวิ่งบนสายพานได้แค่ 50% เมื่อเทียบกับหนูที่กินอาหารไขมันต่ำ
หนูพวกนี้ยังเลือกทางวิ่งในเขาวงกตผิดพลาดมากกว่าด้วย แสดงว่าระดับสติปัญญาหรือเชาว์ไวไหวพริบของพวกมันได้รับผลกระทบ
ศาสตราจารย์เคียแรน คลาร์ก หัวหน้าทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด บอกว่า ผลการศึกษาครั้งนี้นับว่า "น่าตระหนก" "งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการกินอาหารไขมันสูงแม้ในช่วงเวลาสั้นๆ สามารถส่งผลอย่างชัดเจนต่อร่างกายและจิตใจ"
กินของมันๆทำให้หัวไม่แล่น
สำหรับสาเหตุที่ไขมันทำให้เกิดผลทางลบอย่างปุบปับเช่นนี้นั้น นักวิจัยของออกซฟอร์ดได้พบว่า กรดไขมันในเลือดซึ่งมีในระดับสูง และอุปนิสัยการกินที่ไม่ถูกหลักอนามัย มีความสัมพันธ์กับอาการหัวใจล้มเหลว นักวิจัยจึงต้องการศึกษาว่าอาหารไขมันสูง ซึ่งหมายถึงการกินเนื้อแดง ชีสและอาหารรสหวาน ในช่วงเวลาแค่ไม่กี่วันจะทำให้เกิดผลอย่างไร
การทดลองกับหนูครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นว่า การกินไขมันได้เพิ่มระดับโปรตีนชนิดหนึ่ง ซึ่งจะลดประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจ ทำให้ร่างกายมีความทรหดอดทนน้อยลง
ในเรื่องผลต่อสมองนั้น อาหารไขมันสูงทำให้ความสามารถในการจดจำหรือใช้ความคิดลดน้อยลง และนำไปสู่โรคต่างๆ เช่น สมองเสื่อม
ดร.อลัน มาร์ยอง-เดวิส ประธานองค์การสาธารณสุขอังกฤษ พูดถึงข้อค้นพบนี้โดยอิงกับทฤษฎีวิวัฒนาการของดาร์วินว่า "อาหารไขมันสูงจะส่งสารไปยังสมองของเราว่ามีของกินอุดมสมบูรณ์ ดังนั้นสารเคมีที่เป็นสื่อประสาทจะบอกกับเราว่า เราไม่ต้องดิ้นรนอะไร สัญชาตญาณแบบนักล่าของเราจะถูกปิดพูดง่ายๆ ก็คือ เราจะไม่คิดอ่านอะไรที่เฉียบคม
ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า เก้าวันในชีวิตของหนูเทียบได้กับ 1 เดือนของคนเรา ดร.แอนดรูว์ เมอเรย์ ซึ่งทำงานวิจัยชิ้นนี้ บอกว่า อาหารไขมันต่ำที่หนูทดลองได้กินนั้น เปรียบได้กับการที่คนเราไม่กินอย่างอื่นเลยนอกจากธัญพืชอาหารเช้าทุกวัน
แต่อาหารไขมันสูงที่ใช้ในการทดลองนี้ ซึ่งแคลอรี 55% ได้จากไขมันนั้น ไม่ได้นับว่าสูงมากในมาตรฐานของคน
คำแนะนำก็คือ จำกัดการกินไขมันไม่ให้เกิน 30% ของปริมาณแคลอรีที่เราได้รับต่อวัน แต่ส่วนใหญ่เรามักได้รับเกิน 40% หรือกระทั่ง 50% ในแต่ละวัน ซึ่งใกล้เคียงกับปริมาณที่หนูทดลองกลุ่มนี้ได้รับ
นักวิจัยบอกว่า ปริมาณที่หนูได้รับนั้นเทียบเท่ากับวันละ 3,000 แคลอรี เปรียบได้กับการไปกินมื้อเที่ยงที่แมคโดนัลด์ทุกวัน
นักวิทยาศาสตร์ทีมนี้กำลังศึกษาประเด็นเดียวกันนี้ในมนุษย์ โดยดูผลของการกินของมันๆ ในระยะสั้นที่มีต่อการออกกำลังกายและความสามารถทางสมอง โดยทดลองกับนักศึกษา โดยเปรียบเทียบระหว่างพวกที่เอาแต่กินๆ นอนๆ กับนักกีฬา เพื่อเปรียบเทียบผลของอาหารไขมันสูง
ขอบคุณ วิชาการดอทคอม