สละโสด... เพราะรักหรือสละคาน?
คุณคิดถึงการแต่งงานอย่างไรบ้าง ชุดเกาะอกสุดหรู เค้กสูง 3 ชั้น แขกที่มี ชื่อเสียงโด่งดังพร้อม สุนทรพจน์เก๋ ๆ หรืออะไรเทือกนี้ นะสิ ใครว่านั้น คือการ แต่งงาน มันเป็นแค่งานแต่ง ต่างหาก
คู่ไหนที่ไม่เตรียมรับ ความจริงของชีวิต หลังวันอันประทับใจนั้นล่ะก็ เป็นเห็นความ ล้มเหลวรอท่าอยู่แน่หรือ
ผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องเคยสมมุติภาพว่าตัวเองเป็นเจ้าสาวกันบ้างล่ะ พอโตขึ้นไม่ว่า ชีวิตเราจะเปลี่ยนไปแค่ไหน หรือเก่งกาจสัก ปานใด ก็ยังมีความหวังลึก ๆ ที่จะพบหนึ่งในดวงใจ แล้วจูงมือเข้า ประตู วิวาห์ ยืนยันความรักที่มีต่อกัน ท่ามกลางสักขีพยานล้นหลาม
หากคุณหวังอยู่บ้างจะแปลกอะไร ในเมื่อเราโตมากับมือ คนที่ไม ่โสดกัน ทั้งนั้น ไหนจะแม่ ป้า พี่สาว หรือบรรดาคุณครู ผู้หญิงกลุ่ม นี้ ไม่เคยสอนว่า อย่ามีครอบครัว เพราะต่างได้รับการ ปลูกฝัง มาว่า การแต่งงาน สำหรับ ผู้หญิงเป็นพิธีกรรมสำคัญพอ ๆ กับการ มีประจำเดือนและ ให้กำหนดชีวิตใหม่เลยเชียว
แรงกดดันจากสังคมรอบข้างว่า ต้องมีคู่หนักหนาสาหัส
ถึงกับว่า หากคุณมีวัย เหยียบยี่สิบตอนปลาย หรือสามสิบยังแจ๋วโดยยัง เกาะคานมั่นคง อาจรู้สึกวิเวก โหวงเหวง เหมือนโดนปล่อยเกาะ เพราะเพื่อนฝูงญาติมิตร ทยอยแต่งไปหมดแล้ว และไม่ต้อง สงสัยเลยว่า เวลาควงแฟนไปงานเธอเหล่านั้น คุณจะเจอคำถาม ยอดฮิต "แล้วเมื่อไรจะถึงตาเธอสองคนล่ะยะ" คุณจะตอบ ยังไง ดีล่ะ "เขายังไม่ขอ" หรือ "ยังไม่คิดว่าคนนี้ใช่"
ไม่ว่าจะตอบยังไง ก็อดอึดอัดไม่ได้อยู่ดี เราโดนฝังหัวมาตลอดว่า ความรักจะต้องมี รูปแบบเดียวกัน ออกเดท ตามติดกันเป็นเงา แล้วไม่ใครก็ใครเป็นฝ่ายบอกรัก จากนั้นอาจแชร์ค่าผ่อน บ้าน ผ่อนรถ แล้วไงอีก ไม่ช้าคุณจะเริ่มสงสัยว่า ทำไมเขา ยังไม่ ขอแต่ง ซะที แต่คุณอยากเข้าร่วมวิธีชีวิตแบบนี้แน่เลอะ คุณ ต้องการ เขาหรือ แค่อยากลงจากคานให้พ้น ๆ กันล่ะ
การแต่งงาน ไม่ใช่แค่ ร่วมทุกข์ร่วมสุข ยังต้อง รับมือ กับความ เบื่อหน่าย ความ เรียบง่าย ในแต่ละวันด้วย
คู่ที่อยู่กันยืดทุกราย จะพูดเป็น เสียง เดียวกันว่า การแต่งงาน ไม่ใช่แค่ ร่วมทุกข์ร่วมสุข ยังต้อง รับมือ กับความ เบื่อหน่าย ความ เรียบง่าย ในแต่ละวันด้วย เวลา ที่อยู่ด้วยกัน ส่วนใหญ่ไม่ได้ หวือหวา เหมือนกับ นั่งรถไฟเหาะ
ก็แค่เดินเอื่อย ๆ เคียงกันไป หลายคู่คิดผิดว่า การแต่งงานคงนำ ความตื่นเต้นเพียงเพราะ ตอนเตรียมงาน มันตื่นเต้น ความจริงไม่ เป็นอย่างนั้นหรอก น้องเอย
แต่ข้อควรจำเดียวก็คือ งานแต่งงานไม่ใช่ การแต่งงาน นิยายน้ำเน่า ทั้งหลาย ที่ยังครอบงำ สาวบางคนไม่เคยไปไกลกว่าลงเอย ด้วยงาน แต่งงานหรอกนะ ไม่ผิดที่คุณอยากเป็นเจ้าสาวสักวัน เพื่อเรียก ความสนใจ แต่ก็ควรคิดให้หนัก ก่อนจะประกาศให้ชาวประชารรับรู้ และไม่ต้องรู้สึกว่า อะไรมันจะขาด ถ้าเราจะไม่แต่ง หรือแต่งแต่ ไม่มีโอกาส
ความรักจะดีของมันเอง ไม่ว่าจะแต่งงานหรือเปล่า เรื่องสำคัญอยู่ที่คุณ รู้สึกอย่างไรต่อกันมากกว่า แล้วจะรับได้ไหมอีก 40 ปี ข้างหน้าผม ของเขาไม่เหลือแล้ว ส่านเซ็กไม่ต้องพูดถึงเพราะถ้าไม่นึกถึงทั้งอดีต ปัจจุบัน และภาพอนาคต ตอนเป็นยายเฒ่าตาเฒ่าด้วยกัน ก็คงถึง เวลาหาคนใหม่ได้แล้ว
มาดูกันว่าคุณอยากแต่งงานหรือแค่อยากจัดงานกันแน่
ถ้าคุณแค่อยากจัดงาน คุณจะรู้สึกเช่นนี้
-ความฝันมักจบลงตรงงานเลี้ยงพอดี
-นึกภาพอย่างไรก็ไม่ออกถ้าต้องอยู่กันจนแก่
-ลึก ๆ ในใจคิดเสมอว่าหย่าแน่ถ้าไปกันไม่ได้
-รู้สึกวัยสาวเริ่มหมดไป
-แอบสร้างภาพอยู่ลับ ๆ ว่างานฉันต้องเกินหน้าเพื่อนทุกคน
-พิธีรีตองกับชุดเจ้าสาว ต้องไม่เป็นสองรองใคร โลเกชั่นต้องอะเมซิ่ง
ถ้าคุณอยากแต่งจริงๆ คุณจะรู้สึกเช่นนี้
-นึกภาพออกว่าอยู่กับผู้ชายคนนี้ไปตลอดชีวิต
-เราสองคนอยากประกาศให้โลกรู้ว่ารักกันมากแค่ไหน
-ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย เรื่องเสื้อผ้ากับงานเลี้ยง แค่อยากแต่งกับคนนี้นะ
-ไม่เสียใจเลยที่สละความโสด
-รู้ว่าถึงว่าไม่ต้องมีทะเบียนสมรส คุณก็ยังอยากร่วมชีวิต กับผู้ชายคนนี้