ความเชื่อเรื่องขวัญ
พิธีกรรมที่ปฏิบัติเกี่ยวกับขวัญมีสองลักษณะ คือ
1. การเรียกขวัญ (หรือส่อนขวัญ) จะ กระทำเมื่อเกิดอุบัติเหตุต่างๆหรือเหตุอื่นที่ทำให้ตกใจจนเจ็บป่วย
พ่อแม่จะนิยมเชิญผู้เฒ่าผู้แก่ไปยังจุดเกิดเหตุ พร้อมเจ้าของขวัญ ในพิธีจะมีกระติบข้าวหรือกล่องข้าวสะอาดเพื่อใส่ฝ้ายผูกแขนและหมากหรือยา มีของเรียกขวัญ เช่นกระจกเงา หวี น้ำหอมที่เจ้าของขวัญชอบ เพื่อทำให้ขวัญพอใจและกลับมาเร็ว เมื่อผู้ประกอบพิธีไปถึงสถานที่เเล้ว ก็จะเรียกชื่อเจ้าของขวัญ ทำนองว่าให้กลับบ้านได้แล้ว แล้วเปิดฝากระติบรับ เมื่อกลับถึงบ้านจึงนำกระติบไปตั้งข้างผู้ป่วยเเล้วเชิญขวัญเข้าตัวผู้ป่วย ด้วยฝ้ายผูกแขน โดยก่อนจะเรียกขวัญจะต้องท่องคาถากันผีป่าก่อน มิฉะนั้นผีป่าจะเข้ามาเเทนที่เจ้าของขวัญ ทำให้ผู้ป่วยอาการแย่ลง
2. การสู่ขวัญ เป็นการให้กำลังใจคนในโอกาสมงคลเเละเสริมสิริมงคลแก่สิ่งของเครื่องใช้และอาคารสถานที่ที่เป็นคุณแก่ตน
มีองค์ประกอบและวิธีดำเนินการคือ การหาฤกษ์ยาม การเชิญผู้มาร่วมพิธี การจัดทำพาขวัญ(คือพานหรือภาชนะที่รองรับกลีบใบตองเป็นกรวยชั้นๆ ยิ่งหลายชั้นยิ่งเเสดงถึงยศศักดิ์ของเจ้าของขวัญ ปกติไม่เกิน 9 ชั้น) มัก ให้ความสำคัญกับสิ่งที่อยู่ในพาขวัญนั่นคือไข่ขวัญเป็นอย่างมาก
กล่าวคือเมื่อปอกเปลือกไข่ออก ไข่ควรเกลี้ยงเกลาไม่มีตำหนิและมีพื้นที่ตัดขวางนูนเป็นชั้นๆ แสดงว่าเจ้าของขวัญจะเจริญก้าวหน้าต่อไป เพราะขวัญดีมาก ส่วนบทสู่ขวัญจะเป็นไปตามสถานการณ์คือสอดคล้องกับงาน เมื่อสู่ขวัญแล้ว
ผู้ประกอบพิธี(คือพราหมณ์)จะผูกแขนให้กับเจ้าของขวัญเป็นคนแรกและผูกให้ผู้ ร่วมพิธีตามลำดับความสำคัญ
นอกจากนี้ยังเชื่อว่าสิ่งที่มี อุปการะคุณต่อความเป็นอยู่ในชีวิต ต่างก็มีขวัญเช่นกัน ถ้าไม่ใส่ใจต่อขวัญของสิ่งเหล่านั้นอาจดำเนินชีวิตไม่ปกติสุขได้
ดังนั้นจึงได้เกิดความเชื่อเรื่องขวัญของสิ่งต่างๆ ที่เห็นได้ชัดเจนมากที่สุด ก็คือความเชื่อเรื่องการทำขวัญข้าวเป็นต้น
(คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุ, 2544 : 202-205)