เมืองแห่งกระจก
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
ยังมีเมืองอยู่เมืองหนึ่ง ที่เป็นที่อยู่อาศัยของเหล่ากระจก กระจกที่เป็นเครื่องสะท้อนถึงสิ่งที่ผู้ส่องเป็น ผู้คนที่คาดหวังจะค้นพบตัวเอง ต่างเดินทางมายังเมืองๆนี้ และเหล่ากระจกก็จะสะท้อนภาพของผู้นั้นให้เขาได้รู้ และภาคภูมิใจกับสิ่งที่เขาเป็น
ยังมีชายคนหนึ่ง เขามุ่งหวังที่จะได้รู้จักตัวเขาเอง เขาอยากรู้ว่าหน้าตาเขาเป็นอย่างไร เขาจึงดั้นด้นจากเมืองไกล ข้ามน้ำข้ามทะเล จนมาถึงยังเมืองกระจกที่ทุกคนกล่าวขาญถึง ภายในเมืองช่างสวยงดงามไปด้วยกระจกสีนานาชนิด กำแพงวัง บ้านทุกหลัง หรือแม้แต่ถนน ต่างก็ประดับประดาไปด้วยกระจกสีสวยงาม
ชายหนุ่มเดินไปในเมือง พบกระจกมากมาย บ้างก็มีกรอบไม้สวยงาม บ้างก็เป็นพลาสติก กระจกมากมายเดินขวักไขว่ไปในเมือง ชายคนหนึ่งเห็นกระจกบานหนึ่งเดินผ่านมา ก็ตรงเข้าไปทักทันที
"ช้าก่อน ท่านกระจก ข้าฯเดินทางมาจากแดนไกล เพื่อหวังเพียงได้เห็นใบหน้าของข้าฯ ท่านช่วยสะท้อนภาพของข้าให้หน่อยจะได้หรือไม่"
"ได้สิ ได้สิ ...เชิญทัศนา นี่แหละ ใบหน้าของท่าน"
เจ้ากระจกสะท้อนภาพของชายออกมา บวม และใหญ่กว่าที่เป็น เพราะกระจกบานนี้คือกระจกนูน
"ดูซีท่าน ...ท่านช่างดูยิ่งใหญ่มิมีใครเทียม ดูเป็นผู้ดีมีฐานันดรบรรดาศักดิ์ หาใครในเมืองนี้ หรือในโลกหล้าเทียบเทียมท่านนั้น ...มิมีแน่แท้"
ชายหนุ่มได้เห็นตัวเองดูยิ่งใหญ่ ก็หน้าบานวางมาดดั่งเจ้าชายทันที เขาขอบใจกระจก และเดินอย่างทรนงไปตามถนน สายตาของเขาเหยียดหยามบรรดาคนที่ต่ำชั้นกว่าด้วยความภาคภูมิในตนเอง
ชายหนุ่มเดินต่อไปสักพัก เขาก็นึกอยากเห็นภาพตัวเองอีกครั้ง เขาจึงเรียกกระจกที่อยู่แถวนั้นให้หยุด
"เจ้ากระจกเอ๋ย ข้ามีบัญชา ...จงแสดงใบหน้าข้า ให้ข้าดู!!"
"ได้ซีท่าน เชิญทัศนา นี่แหละ ใบหน้าของท่าน"
ชายหนุ่มจ้องมองที่กระจก เขาก็ประหลาดใจ เมื่อใบหน้าของเขาเล็กเรียวกว่าที่เป็น เพราะนี่เป็นกระจกเว้า
"เจ้ารึเย่อหยิ่งทนงว่ายิ่งใหญ่ มิรู้จักสำเหนียกเลยรึ ว่าเจ้ากระจ้อยร่อยน้อยค่าแค่ไหน ค่าของเจ้า ฤ เทียบได้กับชาวพารา จงก้มหน้าเดินไปเถิด เจ้าขอทาน!!!"
ชายหนุ่มได้เห็นเงาสะท้อนที่แท้จริง ก็ก้มหน้า เดินตัวงอ ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองใคร เขาได้แต่เดินก้มหน้าร้องไห้ไปในมุมมืดของถนน
ชายหนุ่มเดินไปได้สักพัก ก็อยากเห็นว่าตัวเองสกปรกแค่ไหน เลยร้องเรียกกระจกแถวนั้นให้หยุด
"ช้าก่อน โปรดเมตตา ให้ผู้ต่ำต้อยได้เห็นหน้าของมันด้วยเถิด"
"ได้ซี เชิญทัศนา นี่แหละ คือหน้าของเจ้า"
ชายหนุ่มมองเข้าไปในกระจก เขาไม่เห็นอะไรเลย นั่นก็เพราะมันคือกระจกใสจอมหลอกลวง มันเห็นชายหนุ่มตั้งหน้ามอง ก็เอาหน้าปีศาจไปไว้ที่อีกด้านของกระจก ชายหนุ่มเห็นปีศาจในกระจก ก็ตกใจล้มลง เพราะคิดว่าเป็นหน้าตัวเอง
"เจ้าหรือคือปีศาจอาชญากร แผ่นดินรุ่มร้อนลุกเป็นไฟก็เพราะเจ้า เจ้าชั่วช้าสามานย์จนมิอาจให้อภัย ไป๊!! จงออกไป เจ้าอย่าให้ผู้ใดเห็นเจ้าอีกเลย"
ชายหนุ่มกลัวลนลาน เขาเอามือปิดหน้าแล้วรีบหลบออกจากเมืองไปด้วยความหวาดกลัว เขาไม่อยากเห็นอีก ไม่อยากถามกระจกบานใดอีก เขากลัวที่จะเห็นตัวเอง เขากลัวที่จะรู้ความจริง ชายหนุ่มคิดว่าเขามิสมควรอยู่ในโลกอีกต่อไป เขามุ่งหน้าไปยังหน้าผาใหญ่ เพื่อเตรียมจะฆ่าตัวตาย
ในบริเวณนั้น มีแอ่งน้ำขังเล็กๆ มันเล็กน้องเสียจนสัตว์ป่ายังไม่สนใจกินประทังกระหาย แอ่งน้ำอยู่อย่างสงบนิ่งของมัน จนเห็นชายหนุ่มวิ่งปิดหน้ามาก็แปลกใจ จึงร้องทัก
"ช้าก่อน นายท่าน รีบร้อนไปแห่งไหน แล้วเหตุใดจึงปิดหน้า"
"อย่ามองข้า!! อย่ามองข้า!! ..."ชายหนุ่มร้องเสียงหลง "ข้านี้เป็นคนหยาบช้า มิสมควรมีหน้าให้ผู้ใดเห็น"
"ท่านพูดอะไร ทำไมท่านจึงด่าว่าตัวเองเช่นนั้นเล่า"แอ่งน้ำน้อยประหลาดใจ
"ข้าเห็นแล้ว ข้าเห็นเงาสะท้อนของข้า มันน่ากลัวจนแม้แต่ข้ายังไม่อยากมอง"ชายหนุ่มร้องไห้ "อย่ายุ่งกับข้าเลย ให้ข้าตายเสียให้พ้นๆเถิด"
แอ่งน้ำรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชายหนุ่ม จึงพูดขึ้นว่า "ถ้าเช่นนั้น ในเมื่อท่านจะตายแล้ว ใยไม่ดูหน้าของท่านอีกทีให้แน่ใจ ให้เห็นซึ่งแก่นแท้ของความชั่วของท่านไปเลยเล่า เผื่อท่านจะตัดใจ และตายได้อย่างสบายใจ"
"เอาซี เจ้าแอ่งน้ำน้อย ให้ข้าเห็นใบหน้าอันชั่วช้าของข้าเถิด"
"ได้ซีท่าน เชิญทัศนา นี่แหละ ใบหน้าของท่าน"
ชายหนุ่มยื่นหน้าไปที่แอ่งน้ำ เขายังไม่กล้าเอามือที่ปิดไว้นั้นออก แต่เมื่อเขาค่อยๆเลื่อนมืออกไป เขาได้เห็นหน้าของผู้ชายคนหนึ่ง ที่มีน้ำตานองหน้า ปากหนา จมูกโต ผมสั้นเกรียนของเขาเป็นสีดอกเลา ตาของเขาเป็นสีดำลึกเข้าไปในเบ้าตา
"นี่หรือ ใบหน้าของข้า "ชายหนุ่มถามอย่างไม่แน่ใจ
"ใช่แล้ว นี่แหละตัวท่าน ...ท่านคือมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง เหมือนคนทั่วๆไป"
"ข้ามิใช่เจ้าชายหรอกหรือ"
"มิได้"
"ข้ามิใช่ขอทานหรือหรือ"
"มิได้"
"ข้าไม่ใช่ปีศาจใจหยาบช้าหรอกหรือ"
"มิใช้ทั้งนั้น ...ท่านก็คือท่าน ข้าเสนอท่านแต่เพียงสิ่งที่ท่านเป็น จงตรองดูเถิด"
ชายหนุ่มได้เห็นหน้าตัวเอง เขารู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก เขากล่าวลาและกลับสู่เมืองของเขา ด้วยความรู้สึกเติมเต็ม ที่ได้เห็นตัวตนที่แท้จริง และไม่คิดที่จะกลับมายังเมืองกระจกอีกเลย...
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
คุณล่ะ!? คุณเป็นกระจกแบบไหน