รศ.บุญรักษา สุนทรธรรม ผอ.สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ กล่าวว่า ขอเตือนประชาชนอย่าตื่นตระหนกหลังจากองค์การนาซาได้เปิดเผยข้อมูลการสังเกตการณ์ดวงอาทิตย์ว่า เมื่อคืนวันที่ 23 ม.ค. ได้เกิดการพ่นประจุไฟฟ้าพลังงานสูง หรือ พลาสมา ขนาดใหญ่ออกมาและคาดว่าประจุไฟฟ้าดังกล่าวจะเดินทางมาถึงโลกใน 3 วัน
ทั้งนี้เนื่องจากการปลดปล่อยมวลของดวงอาทิตย์นั้น เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำอยู่แล้วบนดวงอาทิตย์รวมทั้งโลก
มีสนามแม่เหล็กเป็นเกราะป้องกัน พลาสมา หรือที่เรียกว่า พายุสุริยะ อยู่แล้ว โดยพายุสุริยะไม่สามารถทำอันตรายแก่สิ่งมีชีวิตและสิ่งปลูกสร้างบนโลกได้ จะมีผลกระทบเพียงระบบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และระบบการสื่อสาร จีพีเอส เทคโนโลยีดาวเทียมบ้างเล็กน้อยเท่านั้น
"จากการบันทึกของนักวิทยาศาสตร์ โลกเคยปะทะกับพายุสุริยะที่รุนแรงที่สุดมาแล้วหลายครั้ง แม้ว่าพายุสุริยะจะมีความรุนแรงและเลวร้ายเพียงใด ผลกระทบที่เกิดขึ้นก็เป็นเพียงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และระบบการสื่อสารเท่านั้น หาได้สร้างความอันตรายแก่สิ่งมีชิวิตและสิ่งปลูกสร้างทั้งหลายบนโลกแต่อย่างใด ดังนั้นจึงไม่ควรตระหนกตื่นกลัวภัยดังกล่าวมากนัก"รศ.บุญรักษากล่าว
รศ.บุญรักษากล่าวอีกว่า โลกมีสนามแม่เหล็กเป็นเกราะป้องกัน
เมื่อพายุสุริยะเดินทางมาถึงโลกมันจะเคลื่อนตัวไปตามแนวเส้นแรงของสนามแม่เหล็กโลกแล้วพุ่งไปยังชั้นบรรยากาศของโลกและอนุภาคเหล่านี้จะชนกับอะตอมของแก๊สในชั้นบรรยากาศ อะตอมของแก๊สต่างๆจะเกิดการแตกตัวและเปล่งแสงสีสันสวยงามให้เห็น ซึ่งก็คือแสงออโรรา หรือแสงเหนือ - ใต้ โดยระยะเวลาในการเกิดอาจจะยาวนานกว่าปกติที่เคยเห็น และประจุเหล่านี้ก็จะมีพลังงานอ่อนลงเรื่อยๆ แสงออโรราก็จะจางลงเรื่อย จนกลับเข้าสู่ภาวะปกติ