5 ก.พ.56 จากการสำรวจล่าสุดของ อิโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต พบว่า กรุงโตเกียว , นครโอซาก้า ของญี่ปุ่น และสิงคโปร์ เป็น 3 นครใหญ่ของเอเชีย ที่ติดอันดับมหานครที่แพงที่สุดของโลก ขณะที่นครใหญ่ของยุโรป เช่น ลอนดอน ของอังกฤษ ติดอันดับแค่ท็อปทเว็นตี้

กรุงลอนดอน ของอังกฤษ รั้งอันดับที่ 16 ส่วนนครแมนเชสเตอร์ ร่วงลงไปอยู่ที่อันดับ 47 ซึ่งการสำรวจครั้งนี้ อาศัยองค์ประกอบหลายด้าน รวมทั้ง การขนส่ง , ความสะดวกสบาย , อาหาร , เสื้อผ้า และอื่นๆในนครใหญ่ 13 แห่งของโลก

เมื่อ 3 ปีก่อน กรุงลอนดอน และนครแมนเชสเตอร์ เคยอยู่ในอันดับที่สูงกว่านี้ ในฐานะมหานครที่แพงที่สุดของโลก โดยกรุงลอนดอน อยู่อันดับที่ 3 และนครแมนเชสเตอร์ อยู่อันดับที่ 28

จอน โค้ปสเต้ก บรรณาธิการของ อิโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต ระบุว่า ดูเหมือนค่าครองชีพในยุโรปจะลดลง อันเป็นผลมาจากมาตรการรัดเข็มขัดและความวิตกเกี่ยวกับมาตรการทางการเงิน ที่เป็นผลพวงจากปัญหาเศรษฐกิจ จากการศึกษายังพบว่า กรุงโตเกียวของญี่ปุ่น ครองอันดับ 1 เรื่องค่าครองชีพแพงที่สุด ส่วนนครใหญ่ๆ ในออสเตรเลีย กลับปรับตัวสูงขึ้น เช่น ซิดนีย์รั้งอันดับ 3 นครที่แพงที่สุดของโลก ตามด้วยเมลเบิร์น อยู่อันดับ 5

ส่วน นครที่ค่าครองชีพถูกที่สุด รวมทั้ง มุมไบ และนิว เดลี ของอินเดีย , กาฎมัณฑุ ของเนปาล และแอลเจียร์ส ของแอลจีเรีย

10 อันดับนครที่แพงที่สุดของโลก ได้แก่ โตเกียว , โอซาก้า , ซิดนีย์ , ออสโล , เมลเบิร์น , สิงคโปร์ ,ซูริค , ปารีส , คาราคัส และเจนีวา

10 อันดับนครที่ถูกที่สุดของโลก ได้แก่ การาจี , มุมไบ , นิว เดลี , กาฎมัณฑุ , แอลเจียร์ส ,บูคาเรสต์ , โคลอมโบ , ปานามา ซิตี้ , เจดดาห์ และเตหะราน