สะดือ จุดกลางบริเวณหน้าท้องที่หลายคนมักมองข้ามไป...รู้หรือไม่คะว่า? บริเวณสะดือนั้น คือแหล่งสะสมเชื้อโรคที่สำคัญเลยล่ะค่ะ
สะดือ เคยเป็นท่อเชื่อมโยงพิเศษระหว่างทารกในครรภ์กับคุณแม่ ท่อพิเศษนี้คือสายสะดือ ประกอบด้วยหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำ ซึ่งหลอดเลือดทั่้งหมดจะถูกหุ้มด้วยเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่คล้ายเมือก ที่เรียกว่า Wharton's jelly สายสะดือจะทำหน้าที่ให้เลือดของแม่นำออกซิเจนและอาหารมาเลี้ยงทารกให้เจริญเติบโตและมีชีวิตขณะที่ทารกยังอยู่ในครรภ์ หลังจากที่ทารกคลอดออกมาแล้ว ทารกก็ไม่ต้องการเลือดของแม่ที่ส่งผ่านทางท่อพิเศษนี้แล้ว ดังนั้นจึงมีการตัดสายสะดือออก ซึ่งสะดือปัจจุบันก็คือ แผลเป็นที่เกิดจากการตัดสายสะดือนั่นเองค่ะ
สะดือ ยังเป็นจุดอับที่อาจเกิดการติดเชื้อได้ง่าย เพราะสะดือมีลักษณะเป็นซอกที่อับชื้น เหมาะสำหรับเชื้อราและเชื้อยีสต์จะเจริญเติบโตได้ดี หากมีการติดเชื้อราหรือยีสต์ สะดือจะมีสีแดง และผิวรอบ ๆ สะดือก็จะแดง และมีอาการคันร่วมด้วย เมื่อมีการติดเชื้อราหรือเชื้อยีสต์แล้ว ผิวจะอ่อนแอ จึงอาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียตามมา ซึ่งมีลักษณะเป็นน้ำเหลืองซึม ๆ หรือเป็นสะเก็ด จึงคาดว่าอาจเป็นเชื้อราที่สะดือนำมาก่อน แล้วตามมาด้วยการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อน
อย่างไรก็ตาม ผื่นแดงที่สะดืออาจไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อก็ได้ อาจเป็นผื่นแดงจากโรคผิวหนังบางอย่าง เช่น โรคสะเก็ดเงิน ซึ่งในกรณีนี้จะพบผื่นแดงมีขุยตามแขน ขา และลำตัวร่วมด้วย
มีนักวิจัยที่พยายามศึกษาแบคทีเรียในสะดือ โดยทดลองเพาะเชื้อแบคทีเรียจากสะดือเพื่อถ่ายรูปมาทำการ์ดวันหยุด เพื่อส่งให้กันเล่น ๆ จึงได้ระดมอาสาสมัครกว่า 60 คน เพื่อนำเชื้อจาก สะดือของแต่ละคนมาเพาะเพื่อถ่ายภาพ และจากการเพาะเชื้อ พบเชื้อแบคทีเรียถึง 2368 สายพันธุ์ และกว่าครึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ด้วย โดยเฉลี่ยแต่ละคนจะมีแบคทีเรียอาศัยอยู่ที่สะดือปริมาณมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายการ บางคนอาจจะมีแค่ 20 ชนิด หรือ มากถึง 120 ชนิด แต่โดยประมาณคือ 67 ชนิด ทำให้การเพาะเชื้อเล่น ๆ กลายมาเป็นการศึกษาอย่างจริงจัง
แบคทีเรียที่พบบางชนิดเป็นแบคทีเรียที่พบได้เฉพาะที่ เช่น ในดินของประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น แต่จากการสอบถามอาสาสมัครได้คำตอบว่า อาสาสมัครไม่เคยเดินทางไปญี่ปุ่นเลย ส่วนอีกหนึ่งตัวอย่างมาจาก อาสาสมัครผู้ไม่เคยอาบน้ำมาแล้วหลายปี พบแบคทีเรียประเภทที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีสภาวะรุนแรง เช่น ในก้อนน้ำแข็งและรอยแตกของแผ่นปลือกโลก ซึ่งไม่น่าเชื่อว่า แบคทีเรียเหล่านี้อาศัยอยู่ที่สะดือของเขา
นักวิจัยเชื่อว่า แบคทีเรียจำนวนไม่ได้มีอยู่เฉพาะแค่ที่สะดือเท่านั้น หากแต่มีอยู่ทั่ว ๆ ไปในทุกซอกทุกมุมของร่างกายเรา ซึ่งมีผลเกี่ยวเนื่องที่ทำให้มีปัญหาตั้งแต่ระบบภูมิคุ้มกัน ไปจนถึงปัญหาสิวและผิวบาง ฯลฯ แม้การผลิตยาให้รักษาได้ครอบคลุมยังเป็นเรื่องยาก แต่กระนั้นเราก็จะได้รู้ว่า แบคทีเรียบนร่างกายเราสามารถทำอะไรกับร่างกายเราได้บ้างและรู้ว่าสะดือคือป่าฝนแห่งแบคทีเรียบนร่างกายของเรา