สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเมืองหยางจี้ มณฑลกวางตุ้ง ของจีนลงทุนตอบโต้ชาวบ้านที่ไม่ยอมย้ายออกจากหมู่บ้านอายุ 900 ปี ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นพื้นที่พัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างร้ายกาจ โดยลงทุนเปลี่ยนเส้นทางแม่น้ำให้เป็นคูคลองล้อมรอบหมู่บ้านดังกล่าว หลังจากชาวบ้านได้ปฎิเสธที่จะย้ายออกไปเพราะต้องการเงินชดเชยที่สูงกว่าที่นายทุนเสนอให้โดยชาวบ้านต่างโจมตีนายทุนว่าได้ตัดไฟฟ้า ตัดน้ำ และทำให้พวกเขาต้องดิ้นรนอย่างยากลำบากที่จะอยู่ในหมุู่บ้านต่อไป แต่พวกเขาจะไม่ขอย้ายออก โดยตอบโต้ว่า ในเมื่อนายทุนสามารถสร้างคลองมาขวางกั้นหมู่บ้านเขาจากโลกภายนอกได้ พวกเขาก็จะสร้างสะพานขึ้นมาแก้ปัญหานี้
รายงานระบุว่า หมู่บ้านแห่งนี้มีประวัติศาสตร์กว่า 900 ปี โดยมี 1,400 ครอบครัว และมีผู้อาศัยกว่า 4 พันคน ขณะที่โครงการพัฒนาที่ดินเกิดขึ้นเมื่อปี 2010 แต่ต้องถูกระงับไปถึงสองปี เพราะชาวบ้านส่วนหนึ่ง ปฎิเสธที่จะย้ายออก ขณะที่ 99 เปอร์เซนต์ย้ายออกไปแล้ว หลังจากทำข้อตกลงรับเงินชดเชยจากนายทุน เป็นจำนวนเงิน 260,000 หยวน (ราว 1.01 ล้านบาท) โดยนายทุนโจมตีชาวบ้านที่เหลือว่า ถ่วงโครงการพัฒนาที่ดิน 200 ล้านปอนด์ ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองกวางโจวซึ่งกำลังเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างสูง
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ขัดแย้งนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น รับปากที่เจรจากับทั้งสองฝ่าย ระบุว่า ต่างฝ่ายต่างก็ใช้มาตรการตอบโต้กันอย่างเข้มข้น และทางการต้องหาทางออกให้พวกเขา